พม่า (10-18 เม.ย. 56)

ผู้นำพม่าขอให้ประชาชนสามัคคี

ผู้นำพม่าเรียกร้องให้คนในชาติสามัคคีท่ามกลางความหลากหลายทางศาสนา หลังเกิดเหตุความไม่สงบระหว่างคนต่างศาสนา

ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ของพม่ากล่าวคำปราศรัยเนื่องในโอกาสวันปีใหม่ของพม่า เพื่อสร้างเสริมความสามัคคีหลังจากเกิดการจลาจลหลายระลอกในช่วงเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 43 รายและไร้ที่อยู่อาศัยอีกหลายพันคน บ้านเรือนและมัสยิดถูกทำลายเสียหายหลายแห่ง

เต็ง เส่ง กล่าวว่าสังคมพม่าเอาชนะความยากลำบากและการท้าทายมาได้มากมาย จนกลายเป็นสังคมที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ และผู้คนต่างศาสนาก็อยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ อย่างไรก็ตาม ในระยะหลัง ความพยายามเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยถูกบั่นทอนจากรอยด่างของความไม่สามัคคี ความขัดแย้ง และความไร้เสถียรภาพ

ผู้พม่าขอให้ประชาชนร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองด้วยความอดทนและอดกลั้น

ที่มา : bangkokbiznews.com

ซูจีเผย “ไม่ใช่ผู้วิเศษ” ที่จะสามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งในพม่าได้อย่างทันทีทันใด

 ผู้นำฝ่ายค้านพม่าแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ความรุนแรงรุนแรงในพม่าเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เผย “ไม่ใช่ผู้วิเศษ” และไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน

ในการกล่าวปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยโตเกียวในช่วงการเยือนญี่ปุ่น นางอองซาน ซูจี ยังคงยืนยันว่าหลักนิติรัฐต้องถูกสถาปนาขึ้นในประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาพุทธเป็นคนส่วนใหญ่อย่างพม่า และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงต้องสร้างบรรยากาศของการสนทนาให้เกิดขึ้น

อย่างไรก็ดี เธอไม่ได้กล่าวโดยตรงว่าหมายถึงความรุนแรงที่นำโดยพระภิกษุสงฆ์ที่ผ่านมาในเมืองเมกทิลา ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 43 คน และอีกหลายพันคนที่ถูกขับออกจากบ้านและและกิจการธุรกิจของพวกเขา ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม จากเหตุการณ์นองเลือดที่แผ่กระจายไปทั่วตอนกลางของพม่า

“ฉันได้กล่าวว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างการปกครองด้วยกฎหมาย … [มัน] ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องที่เกี่ยวกับการพิจารณาคดี แต่มันยังเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการ เป็นเรื่องของรัฐบาล เรื่องของใช้กำลังของตำรวจ และเรื่องของการให้การฝึกอบรมแก่กองกำลังรักษาความปลอดภัยต่างๆด้วย” นางซูจีกล่าวว่า

เธอยังเสริมอีกว่า ศาลพม่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานประชาธิปไตย เนื่องจากศาล “ถูกครอบงำอย่างสิ้นเชิงโดยผู้บริหารระดับสูง”

นอกจากนี้เธอยังได้กล่าวถึงความคาดหวังภาคส่วนต่างๆต่อบทบาทของเธอในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในปจจุบัน

“พวกเขาต้องการให้ฉันพูดคุยเกี่ยวกับวิธีที่จะทำให้ความแตกต่างเหล่านี้ในหมู่ประชาชนหายไป … ฉันไม่ได้เป็นนักมายากล ถ้าฉันเป็น ฉันคงพูดว่า ‘จงหายไป’ ทั้งหมดก็จะหายไป ความแตกต่างต้องใช้เวลานานในทำให้หมดไป “เธอกล่าวกับนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยโตเกียว

“เราต้องสร้างบรรยากาศที่ความปลอดภัยในการที่คนที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันสามารถนั่งลงและแลกเปลี่ยนความคิดและคิดถึงสิ่งที่เรามีอยู่ร่วมกัน”

ที่มา : irrawaddy.org