สธ. จัดระบบบริการสุขภาพ 12 เขตบวก 1 เขต กทม.
วันที่ 2 ก.ค.57 ที่โรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ มหานาค กรุงเทพฯ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปทรงเปิดประชุมวิชาการประจำปี 2557 เรื่อง “ปฏิรูประบบสุขภาพสู่ความเป็นเลิศทางการพยาบาลในประชาคมอาเซียน” (Thai Nursing Excellence for Health Care Reform to ASEAN ) จัดโดย สำนักการพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการพัฒนาบริการพยาบาลในเขตบริการกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่อยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กลาโหม มหาดไทย การคลัง กรุงเทพมหานคร การรถไฟแห่งประเทศไทย และมูลนิธิ ดร.วรรณวิไล มีพยาบาลวิชาชีพร่วมประชุม กว่า 300 คน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ เรื่องการปฏิรูประบบสุขภาพ นำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการ สู่ความเป็นเลิศทางการพยาบาลในระดับอาเซียน โดยมี นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ข้าราชการ เฝ้ารับเสด็จ
นายแพทย์ณรงค์ กราบทูลรายงานว่า พยาบาลนับเป็นบุคลากรในทีมสุขภาพที่มีความสำคัญ และมีจำนวนมากที่สุดในระบบสาธารณสุขของประเทศ ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วย ส่งเสริมสุขภาพประชาชนทุกกลุ่มวัย และเป็นกลไกในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการดูแลสุขภาพประชาชนเพื่อการมีสุขภาพดี ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำยุทธศาสตร์พัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) พ.ศ.2556-2560 เพื่อให้มีศักยภาพรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยแบ่งการบริหารจัดการเครือข่ายบริการในส่วนภูมิภาคออกเป็น 12 เขตสุขภาพ เขตละ 5-7 จังหวัด ประชากรประมาณ 5 ล้านคน และ 1 เขต กทม. ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชากรมากที่สุดประมาณ 10 ล้านคน โดยกำหนดเป้าหมายพัฒนาระบบบริการสุขภาพเป็น 10 สาขา เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด อุบัติเหตุ เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการอย่างทั่วถึงในมาตรฐานเดียวกัน ในระยะเร่งด่วน 3 เดือนนี้ จะจัดบริการให้ประชาชน “ได้พบหมอ ไม่รอนาน ระบบยาเดียวกัน”
โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นศูนย์รวมด้านเศรษฐกิจและสังคม เป็นสังคมเมืองมีลักษณะพิเศษ ซับซ้อน มีความหลากหลาย ต้องการบริการที่พิเศษแตกต่างจากพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งโรงพยาบาลทั้งรัฐ เอกชน ใน กทม. ส่วนใหญ่มีการจัดบริการเฉพาะทางเชี่ยวชาญครบทุกสาขา คาดการณ์ว่าเมื่อก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ในปี 2558 จะมีการหลั่งไหลเข้ามาใช้บริการด้านสุขภาพเฉพาะทาง จาก 10 ประเทศสมาชิก ต้องวางแผนจัดบริการ เพื่อคนไทยและต่างชาติ รวมทั้งการเพิ่มบริการขั้นพื้นฐานให้มากขึ้น ดังนั้นพยาบาลซึ่งเป็นกำลังหลักในทีมสุขภาพ ต้องมีการวางแผนทั้งการจัดอัตรากำลังที่เหมาะสม และปรับทิศทางการทำงานรองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ขณะนี้ทั่วประเทศมีพยาบาลวิชาชีพประมาณ 128,784 คน อยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 86,591 คน และ ในปีการศึกษา 2557-2560 คณะรัฐมนตรีมีมติให้ผลิตเพิ่มอีก 27,960 คน
อนึ่ง ในการนี้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้กราบทูล เบิกผู้ถวายเงินสมทบทุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ผู้เข้ารับโล่เชิดชูเกียรติ และผู้รับเกียรติบัตร จำนวน 24 รายด้วย
วันที่ 2/07/2557 เวลา 14:30 น.