ตื่นรอยพญานาค นครฯฮือฮาว่านไผ่ทีเด็ด310-210-79

จ.บึงกาฬ ตื่นรอยประหลาด คล้ายรอยงูใหญ่เลื้อยคดเคี้ยวเกี้ยวพันกันไปมาหลายรอบภายหลังคืนฝนตกหนัก โผล่บนก้อนหินทรายขนาดใหญ่ ภายในวัดอาฮงศิลาวาส ติดแม่น้ำโขง ชาวบ้านแห่ดูต่างเชื่อเป็นรอยพญานาคที่มาแสดงอภินิหาร และนำไปตีเป็นเลขเด็ด 310, 210 เพื่อนำไปซื้อลอตเตอรี่ที่ช่วงนี้ขายไม่ดี ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช ตะลึง! พบว่านประหลาดแตกหน่อคล้ายลำไม้ไผ่ แทงขึ้นฟ้าสูงเกือบ 9 เมตร ชาวบ้านแห่ไหว้ตีเป็นเลข 7 และ 9 ส่วนสถานการณ์การขายลอตเตอรี่ ใบละ 80 บาท แม่ค้าลอตเตอรี่ จ.เลย วอน คมช.ขอส่วนต่างขายลอตเตอรี่งวดหน้า เพิ่ม 10-15 บาท ถึงจะอยู่ได้ แต่ถ้าไม่ได้คงต้องเลิกขายและเปลี่ยนอาชีพไปรับจ้างดีกว่า

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 28 มิ.ย.57 ผู้สื่อข่าวได้รับการบอกเล่าจากชาวบ้านว่า ที่วัดอาฮงศิลาวาส บ้านอาฮง หมู่ 3 ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ มีรอยประหลาดคล้ายรอยงูใหญ่ หรือคล้ายสปริง หรือคล้ายลวดหนามของทหาร ปรากฏอยู่บนก้อนหินทรายขนาดใหญ่ บริเวณทางเข้าวัด จึงเดินทางไปตรวจสอบ ก็พบว่าที่ถนนทางเข้าวัดมีประชาชนจำนวนมากที่ทราบข่าว แห่มาดูลอยประหลาดที่ปรากฏขึ้น บนก้อนหินทรายขนาดใหญ่กว้างประมาณ 5 เมตร สูง 3 เมตร ที่อยู่ข้างโรงจอดรถ ต่างก็อดไม่ได้ที่จะหยิบเอากล้องมือถือและกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายรูปเอาไว้เป็นที่ระลึก หรือถ่ายรูปตัวเองโดยใช้รอยประหลาดเป็นฉากหลังเก็บไว้แชร์ในโลกออนไลน์ต่อให้เพื่อนดู

ด้านนายเทิดศักดิ์ กงรหัส ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านอาฮง ได้เปิดเผยว่า ก่อนจะปรากฏรอยประหลาดขึ้นบนก้อนหินทรายขนาดใหญ่ ได้เกิดมีฝนตกลงมาติดต่อกัน 3 วัน พอเช้าวันที่ 25 มิ.ย.57 ฝนหยุดตกก็ปรากฏเห็นรอยประหลาดนี้ขึ้นบนก้อนหิน ที่มีความยาวประมาณ 3 เมตร สูงประมาณ 2 เมตร ส่วนความใหญ่ของรอยนี้ประมาณ 10 เซนติเมตร มีความยาวสั้นบ้างยาวบ้างต่างกัน บางรอยก็คล้ายงูใหญ่กำลังเลื้อยไปมา บางรอยก็คล้ายสปริง หรือขดลวดหนามของทหาร แต่ชาวบ้านเชื่อกันว่ารอยทั้งหมดเป็นรอยพญานาค 2 ตัว ที่เลื้อยเกี้ยวพันกันไปมา เพื่อแสดงให้มนุษย์ได้เห็นว่าต้องปรองดองสามัคคีกัน เพราะที่หน้าวัดอาฮง ในแม่น้ำโขงเป็นจุดที่ลึกที่สุดประมาณ 200 เมตร จึงเรียกว่าสะดือแม่น้ำโขงและตามตำนานจุดนี้ก็เป็นเมืองหลวงของพญานาคด้วย

ทางด้านพระพิเชษฐ์ พุทฺธชโย (พุดทะชะโย) พระเลขานุการหลวงพ่อสมาน หรือพระนิเทศศาสนคุณ เจ้าอาวาสวัดอาฮงศิลาวาส เปิดเผยว่า หลวงพ่อสมานท่านได้เห็นรอยประหลาดนี้แล้ว ท่านบอกสั้นๆ ว่า “มันเป็นเรื่องของธรรมชาติ” แต่เท่าที่เห็นก็ขอยืนยันว่า ไม่มีใครไปทำให้ปรากฏเป็นรอยประหลาดนี้ขึ้นมาบนก้อนหินนี้แน่นอน ไม่รู้จะเกี่ยวกันกับที่ทางวัดอาฮง ร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ เชิญ ดร.ทองดี ลำต้น ประธานภูมิปัญญาวัฒนธรรมประชาคมอาเซียน ช่างฝีมือดีมาแกะสลักต้นเทียนพรรษาขนาดใหญ่สูง 4 เมตร เพื่อเล่าเรื่องราวของพระพุทธเจ้าน้อยและตำนานพญานาค โดยจะมีขบวนแห่และรำบวงสรวงพญานาค ของนักศึกษา ม.ราชภัฎอุดรธานี ในวันที่ 10 มิ.ย.57 ก่อนจะร่วมขบวนแห่ของจังหวัดบึงกาฬ ในวันที่ 11 มิ.ย.57 นี้หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านและคอหวยที่ไปดูรอยประหลาดนี้ ต่างมองเห็นเลขเด็ดตามรอยพญานาคที่เกี้ยวพันกันไปมาบนก้อนหิน โดยตีเป็นเลขเด็ด 310, 210 เพื่อนำไปซื้อลอตเตอรี่ที่ช่วงนี้ขายไม่ดีเนื่องจากข่าวลอตเตอรี่หาย ซึ่งก็ทำให้แผงขายหรือคนเดินขายลอตเตอรี่คึกคัก พากันขายดีไปตามๆ กัน

ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช ในวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายวิโรจน์ ขวัญเกื้อ อายุ 67 ปี เจ้าของนากุ้ง ท้องที่หมู่ 6 ต.ท่าซัก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ว่า ที่บริเวณนากุ้งของตนพบว่านไม่ทราบชื่อ แต่มีความแปลกประหลาดพอย้ายที่ปลูกใหม่ได้ 7 วัน ก็แตกหน่อสูงจากพื้นดินเกือบ 9 เมตร ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงก็พบว่าบริเวณริมพื้นที่นากุ้ง มีต้นว่านไม่ทราบชนิด มีใบเป็นหนามคล้ายกับเตยหนาม ด้านบนมีหน่อแตกออกมาคล้ายลำไม้ไผ่ขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยมีความสูงเกือบ 9 เมตร สูงกว่าต้นไม้ทุกชนิดที่อยู่ในละแวกเดียวกัน ในส่วนปลายมีดอกคล้ายกับหัวพญานาค และพอชาวบ้านทราบข่าวต่างเดินทางมาจุดธูป พร้อมของเซ่นไหว้อย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าเป็นว่านที่เป็นมงคล โดยมีชาวบ้านบางรายได้นำเอาตัวเลขที่เกี่ยวข้อง คือ เลข 7 และเลข 9 มาตีเป็นเลขเพื่อนำไปซื้อลอตเตอรี่ในงวดนี้ด้วย

ด้านนายวิโรจน์ บอกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.57 ว่านประหลาดต้นนี้อยู่ติดกับที่พักคนงาน และตนได้ขยายที่พักให้กว้างขึ้น จึงใช้รถแบ็กโฮขุดต้นว่านไปปลูกให้ห่างจากตัวบ้าน หลังจากนั้นตนก็กลับมาที่บ้านพักในตัวเมืองนครศรีธรรมราช โดยมีคนงานเป็นผู้ดูแลนากุ้ง จนเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.57) ตนเดินทางมาตรวจดูบ่อเลี้ยงกุ้งตามปกติ แต่ก็ถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นต้นว่านแตกหน่อสูงอย่างผิดปกติ ซึ่งไม่เคยเจอมาก่อน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเป็นว่านที่มีความเป็นมงคล น่าจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ ซึ่งจะช่วยดลบันดาลให้กิจการการทำนากุ้งประสบความสำเร็จ และจากนี้ไปคงต้องดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี พร้อมกับจะตั้งศาลเพียงตาให้อยู่คู่กันด้วย

ส่วนความคืบหน้ากรณีที่ คสช มีมติ ให้จําหน่ายลอตเตอรี่ในราคาไม่เกิน 80 บาท และปัญหาลอตเตอรี่หายจาก จ.พระนครศรีอยุธยา จนทําให้ผู้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล รายย่อยในพื้นที่เลย ขายลอตเตอรรี่ไม่ได้เลย จนทําให้เหลือยกแผง ขาดทุนงวดนี้ไม่ต่ำกว่า 80,000-100,000 บาท

ซึ่งนางชื่นชีวัน ขาราชา แม่ค้าสลากฯ ในจังหวัดเลย กล่าวว่า ตนนั้นจําหน่ายลอตเตอรี่อยู่ที่หน้าธนาคารกรุงไทย สาขาเอื้ออารี ตอนนี้ขายไม่ได้เลย เพราะเรื่องลอตเตอรี่ที่หายมาโผล่ที่ จ.เลย ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าซื้อทำให้เหลือยกแผงงวดนี้ และเมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.) มีข่าวจาก คสช. ว่าให้ขายสลากในราคาไม่เกิน 80 บาท เข้าไปอีก เลยทําให้ลอตเตอรี่เหลือจํานวนมาก ปกติเคยจําหน่ายได้วันละเป็น 100 ใบ วันนี้ 1-2 ใบ ก็ขายไม่ออก สําหรับเรื่องการให้จําหน่ายลอตเตอรี่ที่ราคาไม่เกิน 80 บาทนั้น ที่ผู้ขายรายย่อยอย่างเราไม่สามารถทําได้แน่นอน เพราะรับมาแล้ว 94 บาท ก็เกินราคาขายจากที่ คสช ให้ขายใบละ 80 บาท

“เรื่องนี้ทําให้ผู้ขายลอตเตอรี่อย่างเราหมดทางไป ไม่มีหนทางที่จะไปทํามาหากินอย่างอื่นเลย เพราะหนี้สิน ราคาข้าวแกง ราคาสินค้าอื่นๆ มันสูงไปหมดแล้ว หากจะให้ย้อนกลับไปที่ราคา 80 บาทอีก ก็คงตายกันบ้าง หนีสินธนาคารต่างๆ ที่ไปกู้ไว้จะต้องติดลบ แต่หากทําราคารับและขายให้อยู่ห่างกันที่ 10-15 บาท จุดนี้สามารถรับได้ และสามารถประกอบอาชีพนี้ต่อได้ แต่หากน้อยกว่านี้ก็คงต้องแย่และเลิกอาชีพนี้ ไปหารับจ้างวันละ 200-300 บาทดีกว่า” นางชื่นชีวัน กล่าวต่อท้าย

ที่ จ.กาญจนบุรี น.ส.รจนา พรมมหาลา อายุ 19 ปี หรือน้องมายด์ แม่ค้าสาวสวยที่หาเลี้ยงชีพด้วยการขายลอตเตอรี่ บริเวณที่ทำการไปรษณีย์กาญจนบุรี ถนนแสงชูโต ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ที่มีคนมาบอกให้ฟังว่า รัฐบาลจะให้ขายลอตเตอรี่ราคาคู่ละ 80 บาทนั้น ราคาต้นทุนต้องซื้ออย่างสูงคู่ละ 70 บท แต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะยี่ปั๊วคงไม่ยอมเพราะเขาเคยมีรายได้มาก ส่วนผู้ขายเร่ต้องลำบาก ขายกว่าจะมีกำไรทั้งค่าน้ำมันรถ ค่าครองชีพก็สูง ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนตกประมาณ 5,000 บาท ไม่รวมค่ากินอยู่และค่าใช้หนี้เงินกู้ ซึ่งได้ปรึกษากับแม่ว่าหากเป็นเช่นนี้ ตนกับแม่ก็ต้องเปลี่ยนอาชีพไปขายของตามตลาดนัด อาจจะทำให้มีเงินมากกว่า อย่างไรก็ตามช่วงที่เป็นข่าวใหม่ๆ ขายลอตเตอรี่ดีมาก เวลากินข้าวแทบไม่มี แต่ตอนนี้ยอดขายตกลงมาก

ด้านบรรยากาศที่ร้านถุงทอง ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นร้านขายหวยรายใหญ่ของจังหวัด นางแสงทอง ลำไย อายุ 45 ปี ผู้ดูแลเปิดเผยว่า การจัดระเบียบค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยเฉพาะราคาขายปลีกเป็นเรื่องที่ดีหลายฝ่ายก็เห็นด้วย หากมีการควบคุมราคาและตัดโควตา หรือมาเฟียคนกลางได้จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะคนขายสามารถซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางหรือยี่ปั๊ว เพราะถ้าผ่านพ่อค้าคนกลางจะทำให้ราคาหวยแพง ปัจจุบันต้นทุนหวยแต่ละคู่ เมื่อมาถึงมือพ่อค้าปลีกถ้าเป็นหวยชุด จะมีราคาสูงกว่า 92 บาท ถ้าเป็นหวยใบราคา 91 บาท แต่หากเป็นหวยชุดก็จะตกอยู่ใบละ 100 บาท หรืออาจจะสูงกว่านั้นถ้าเป็นเลขสวย การรับมาแพงก็ต้องขายแพง เพราะการตั้งร้านขายต้องมีรายจ่ายมาก ทั้งค่าที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าลูกจ้าง

“ตามที่ได้ข่าวมาหวยงวดหน้าทางกองสลากฯ จะขายให้ราคาใบละ 77-78 บาท และให้เรามาขายใบละ 80 บาท ตนเชื่อว่าบรรดาร้านค้าทั้งใหญ่และเล็กจะขาดทุนถล่มทลาย บางร้านอาจจะต้องเลิกกิจการ คนเดินขายหวยอาจไม่ทำงาน และต้องมีคนตกงานอีกจำนวนมาก หาก คสช. หรือสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่มีมาตรการใดๆ มาช่วยเหลือผู้ประกอบการ วิธีหนึ่งที่ร้านหวยอยากแนะนำคือออกหวยบนดิน เหมือนรัฐบาลทักษิณ ตอนนั้นบรรดาหวยใต้ดินขาดทุนย่อยยับ หวยรัฐบาลขาย 80 บาทได้สบายๆ จึงอยากชี้แนะให้ คสช.หรือสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ดูตรงเรื่องนี้ด้วย”นางแสงทอง กล่าว

วันที่ 29/06/2557 เวลา 6:52 น.