ยกระดับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน
กรมส่งเสริมการเกษตรจัดทำโครงการยกระดับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับวิสาหกิจชุมชนในการเข้าสู่เวทีความร่วมมือและการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านต่อไป โดยนำร่องดำเนินการในกลุ่มจังหวัดจันทบุรี ระยอง และตราด
นายสุรพล จารุพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ฝ่ายส่งเสริมและฝึกอบรม เปิดเผยว่า ในปี 2558 ที่จะเปิดให้มีการค้าและการลงทุนอย่างเสรีในกลุ่มประเทศอาเซียนนั้น วิสาหกิจชุมชนซึ่งเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กและอยู่ในระดับชุมชนจะได้รับผลกระทบทั้งในแง่การผลิตสินค้า การเคลื่อนไหวแรงงานและวัตถุดิบ การแข่งขันของสินค้าที่คล้ายคลึงกัน รวมทั้งการเปิดกว้างของตลาดการค้าชายแดนและการซื้อขายแลกเปลี่ยนกับประเทศเพื่อนบ้านจะมีมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนจะต้องมีทักษะด้านการผลิต การบริหารจัดการ การเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภค และการดำเนินการด้านการตลาด เพื่อให้มีความพร้อมในการแข่งขันในทุกระดับ กรมส่งเสริมการเกษตรได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการยกระดับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนขึ้น โดยดำเนินการนำร่องเน้นหนักในพื้นที่กลุ่มจังหวัดชายแดนที่มีการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้วรวม 3 จังหวัด คือ จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด โดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้นำวิสาหกิจชุมชนของแต่ละจังหวัด มีความสามารถในการประกอบการวิสาหกิจชุมชนเชิงธุรกิจ สามารถเป็นวิทยากรและเชื่อมโยงเครือข่ายแก่สมาชิกวิสาหกิจชุมชนอื่นได้ ซึ่งบุคคลที่เข้าอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ประกอบด้วย ผู้แทนผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานวิสาหกิจชุมชน ผู้รับผิดชอบงานวิสาหกิจชุมชนจากสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 จังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตร และผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งสิ้น 65 คน
นายสุรพล จารุพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้จะสามารถสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น สามารถใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาการประกอบกิจการให้รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยวิสาหกิจชุมชนที่เข้าร่วมโครงการจะมีโอกาสในการเพิ่มศักยภาพการประกอบกิจการให้สามารถผลิตสินค้าและบริการที่หลากหลาย มีคุณภาพได้มาตรฐานตรงความต้องการของตลาดและสามารถสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการประกอบกิจการทั้งภายในและภายนอกประเทศ ประกอบด้วย 5 กิจกรรม ได้แก่
1.ยกระดับการประกอบการวิสาหกิจชุมชนเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยการอบรมเพิ่มทักษะการเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนในเชิงธุรกิจ
2.สัมมนาเชิงปฏิบัติการวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) และสร้างเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน เพื่อหารูปแบบแนวทางการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานในเชิงธุรกิจและการสร้างเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนที่เหมาะสม
3.อบรมเพิ่มทักษะการเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนในเชิงธุรกิจและการสร้างเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ดำเนินการขยายผลในแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
4.สัมมนาเชิงปฏิบัติการส่งเสริมเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนระดับกลุ่มจังหวัด เพื่อสร้าง cluster สินค้าของวิสาหกิจชุมชนจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ และเครือข่าย Logistics
5.การจัดแสดงสินค้าวิสาหกิจชุมชนในประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้าและเจรจาธุรกิจ พร้อมทั้งสร้างเครือข่าย ความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศ
“วิสาหกิจชุมชนที่มาเข้าร่วมการอบรมจะได้รับความรู้จากวิทยากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน การวางแผนพัฒนาธุรกิจ หรือแผนพัฒนากิจการวิสาหกิจชุมชน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมที่ก้าวเข้าสู่การแข่งขันในตลาดการค้าเสรีที่จะเกิดขึ้น การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการประกอบกิจการวิสาหกิจชุมชน ก่อนที่จะนำไปสู่การเรียนรู้ในเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจของวิสาหกิจชุมชนให้มีความมั่นคงเข้มแข็ง และพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป” นายสุรพล กล่าวในที่สุด
วันที่ 12/06/2557 เวลา 10:20 น.