แดงยังดื้อลองขงอคสช.ชู3นิ้วเข้ารายงานตัว

“คสช.” เอาจริงหิ้ว 2 หัวโจกม็อบชู 3 นิ้ว ส่งศาลทหารฝากขังแล้ว ชี้โทษคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่น เผยคุมตัวม็อบต้านอีก 31 ราย ขู่ออกหมายจับ คนขัดคำสั่งไม่มารายงานตัว ขณะที่ “แนวร่วมแดง” ยังลองของ คสช. ชูสามนิ้ว ทยอยเข้ารายงานตัวพรึ่บ ด้าน “วรเจตน์ นักวิชาการนิติราษฎร์” อ้างป่วยส่งภรรยามารายงานตัวแทน ด้าน “พายัพ ชินวัตร” โผล่เข้ารายงานตัวแล้ว ส่วน “กัมปนาท” โวศูนย์ปรองดองคืบ ยันจัดตั้งครบทุกจังหวัดแล้ว โอ่มี 9 จังหวัด ได้ผลตอบรับดี ลุยเร่งเครื่องสู่โรดแม็พขั้น 2

ศปป.ถกขับเคลื่อนปรองดอง

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 มิ.ย.57 ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ฝ่ายยุทธการในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ผอ.ศปป.) ได้เป็นประธานการประชุมเพื่อขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของ ศปป. ภายหลังจากที่ กอ.รมน.ได้รับมอบนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบให้เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง เสริมสร้างควาสามัคคี ปรองดองสมานฉันท์ และคืนความสุขให้กับคนไทยทั้งชาติ โดยการประชุมในวันนี้มีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม 20 หน่วยงาน คือ กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้อองถิ่น กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัทธยาศัย (สำนักงาน กศน.) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการปรองดอง และการปฏิรูป คสช. สถาบันพระปกเกล้า สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ กรมการพัฒนาชุมนุม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน

เร่งปูทางสู่โรดแม็พขั้น 2

พล.ท.กัมปนาท กล่าวว่า ศปป. เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เพราะหลายส่วน โดยเฉพาะประชาชนได้ให้ความหวัง ทุกท่านที่ได้รับเชิญมาประชุมในวันนี้ต่างมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนการดำเนินงานต่างๆ ของศูนย์ให้เดินไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยหัวหน้า คสช. ได้ตั้งความหวังกับ ศปป.ว่าจะสร้างสภาวะแวดล้อมให้เกื้อกูล พร้อมทั้งเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่การทำงานของ คสช.ในระยะที่ 2 เพื่อความรวดเร็ว โดย ศปป.คือจุดเริ่มต้น ถ้าพวกเราไม่สามารถที่จะสร้างสภาวะแวดล้อมให้เกื้อกูลกัน เราก็จะเหน็ดเหนื่อยต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งอยากจะฝากไปถึงทุกภาคส่วน ซึ่งต่างมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับประชาชนทั้งกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้อง ขอให้เสนอข้อคิดที่เป็นประโยชน์ และทางศูนย์จะมีการปรับรูปแบบ ศปป.เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเสนอแนะ ขณะนี้การทำงานของทุกภาคส่วนที่อยู่ในพื้นที่กำลังเดินคู่ขนานอยู่ ทั้งในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงต่างๆ ที่ได้มีการจัด ศปป.เพื่อให้เข้าถึงทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน พร้อมทั้งเดินไปด้วยกันในลักษณะพลเรือน ตำรวจ ทหาร โดยมี ศปป.เป็นศูนย์กลางในการให้นโยบายขับเคลื่อนให้เป็นไปตามทิศทางที่หัวหน้า คสช.ได้ให้นโยบายเอาไว้ ซึ่งวันนี้อยากจะรับฟังความคิดเห็นของผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกระทรวง ทบวง กรม ภายหลังจากที่ให้เลขาธิการ ศปป. ชี้แจงถึงกรอบการดำเนินการ จะเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเสนอความคิดเห็นอย่างเต็มที่ เพราะขณะนี้ยังไม่ไดข้อยุติ พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนแนวทางการทำงานเพื่อเดินต่อไป ศปป.จะทำไปปรับไป เพราะสถานการณ์จะพัฒนาไปเรื่อยๆ ความรู้สึกของประชาชนก็จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา รวมทั้งนโยบายของหัวหน้า คสช.ก็จะมีการปรับเปลี่ยนเป็นระยะๆ พร้อมทั้งถ่ายทอดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ

“กัมปนาท” ย้ำ คสช.ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง

ภายหลังการประชุม พล.ท.กัมปนาท กล่าวว่า วันนี้เป็นการติดตามการทำงานของ ศปป.ตามที่ทุกภาคส่วน กระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นการซักซ้อมทำความเข้าใจในการเดินหน้าขับเคลื่อนความปรองดองสมานฉันท์ ซึ่งเจตนารมณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะ หัวหน้า คสช.โดยระยะเวลาในช่วง 2 เดือนนี้เป็นระยะเร่งด่วน เพื่อสร้างบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่เกื้อกูลต่อการเปลี่ยนไปสู่ระยะที่ 2 ให้เป็นไปตามโรดแม็พของหัวหน้า คสช.ว่าควรจะเดินอย่างไร ซึ่งทาง ศปป.จะค่อยอำนวยความสะดวกจัดเวทีให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันสร้างความรักความสามัคคีเพื่อเข้าสู่บรรยากาศที่เกื้อกูลกัน และหน้าที่ที่ 2 ของ ศปป.เป็นผู้สังเกตการณ์ เพราะ คสช.ไม่ใช้คู่ขัดแย้ง เราจะไม่เอาตัวลงไปในความขัดแย้ง และยังไม่พูดเรื่องความขัดแย้ง เพราะไม่มีหน้าที่ชี้ผิดชี้ถูก เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์และให้ทุกฝ่ายมาพูดคุยกัน และสุดท้ายก็จะเป็นผู้รายงานเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปต่อไป ขณะนี้ถือว่ามีความก้าวหน้าไปได้ในระดับหนึ่ง ทุกคนหน้าจะดีใจในการคืนความสุขให้พี่น้องประชาชน เพราะจากคนที่ไม่เคยฟังดนตรีด้วยกันก็มานั่งฟังร่วมกัน สิ่งนี้จะนำไปสู่ระยะที่ 2 ต่อไป ซึ่งวันนี้ทุกกลุ่มยืนยันให้ความร่วมมือเพื่อสร้างความปรองดอง ทั้งนี้ ได้รายงานความก้าวหน้าให้หัวหน้า คสช.ทุกวัน อะไรที่ไม่เหมะสมท่านก็ปรับให้ อย่างไรก็ตาม ผมจะลงพื้นที่เพื่อตรวจศูนย์ตรวจสอบศูนย์ปรองดองในแต่ละจังหวัดต่อไป

ตั้ง ศปป.ครบทุกจังหวัดแล้ว

ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน. กล่าวว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายยินดีเข้าร่วมและปรับแผนงาน อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ ที่มีบุคลากรด้านการศึกษา รวมกันกว่า 10 ล้านคน จะช่วยส่งเสริมเรื่องความปรองดองและสมานฉันท์ ส่วนกระทรวงสาธารณสุข จะดูและเรื่องการเยียวยา ขณะที่กระทรวงยุติธรรมจะยึดมั่นเรื่องความยุติธรรม เป็นต้น ทั้งนี้ หัวหน้า คสช.ได้ฝากขอบคุณผลดำเนินการงานกิจกรรมใน 10 วันที่ผ่านมา ปัจจุบันได้ดำเนินการจัดตั้ง ศปป.กอ.รมน.จังหวัด ครบทุกจังหวัดแล้ว และได้จัดกิจกรรมแล้ว 56 จังหวัด ซึ่งมีผู้ทางความคิดที่เป็นหน่วยวัดผลคุณภาพเข้าร่วมหารือ และได้ข้อตกลงร่วมกันว่าถึงการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ ทั้งนี้ ผอ.ศปป.จะจัดชุดติดตามประเมินผลลงพื้นที่เพื่อติดตามทัศนคติ และท่าทีใน 9 จังหวัดที่ดำเนินการคลี่คลายความขัดแย้ง อาทิ ภาคกลาง 4 จังหวัด คือ ประจวบคีรีขันธ์ สระแก้ว ลพบุรี กาญจนบุรี ภาคเหนือ 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่, พิษณุโลก, ตาก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 จังหวัด คือ นครราชสีมา และอุดรธานี ซึ่งละแต่จังหวัดจะร่วมกันทำงานลงไปสู่อำเภอเพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไปด้วย อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าจะทำการเชิญกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ มาร่วมประชุมกันอีกครั้ง

วอน ขรก.หยุดแบ่งฝ่าย

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในการบรรยายพิเศษเรื่องประเทศไทยใต้ร่มพระบารมีสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พ.ศ.2558 ให้แก่ ปลัดอำเภอ ฝ่ายปกครองในพื้นที่ชายแดน เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนรุ่นที่ 4 โรงเรียนข้าราชการส่วนท้องถิ่น วิทยาลัยการปกครอง อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ว่า ไทยจะได้รับยกย่องจากสมาชิกอาเซียนให้เป็นประเทศหลักในการรวมตัวกันของอาเซียน ด้วย 2 เหตุผล ประการแรก ไทยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เป็นแบบอย่างของความดี ประการที่ 2 ไทยเป็นแบบอย่างของความสามัคคี แต่ในระยะ 10 ที่ผ่านมานี้ การเมืองไทยได้แบ่งแยกคนไทยออกเป็นหลายฝ่าย ซึ่งไม่ใช้หลักการที่ถูกต้องของรัฐศาสตร์ นักรัฐศาสตร์ที่ดีต้องสามารถรวมใจคนทั้งชาติได้ ไม่ผิดที่ทุกคนจะรักพวกพ้อง รักเมืองและจังหวัดของตนเอง แต่ต้องรักชาติมากกว่า โดยเฉพาะข้าราชการต้องปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี โปร่งใส เสียสละ ไม่แบ่งฝ่าย เป็นข้าราชการของประชาชนของชาติและของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่ของพรรคการเมือง ซึ่งไทยต้องจัดระเบียบใหม่หมดโดยเฉพาะการปฏิรูประบบราชการ

สั่ง กทม.ส่งโรดแม็พปรองดอง 13 มิ.ย

สำหรับความคืบหน้าแผนการดำเนินการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ของ กทม. ตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น ขณะนี้ฝ่าย คสช.ได้ให้ กทม.ประชาสัมพันธ์เหตุผล 10 ข้อ ตามที่ คสช.ต้องเข้ามายึดอำนาจการบริหารประเทศนำไปเผยแพร่ทุกเขตพื้นที่ จากคำสั่ง คสช. (เฉพาะ) ที่ 2/2557 เรื่องการจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ (ศปป.) โดยในส่วนของ กทม.นั้นจะต้องรายงานแนวทางจัดทำโรดแม็พการปรองดองต่อกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.ฝ่ายทหาร) วันที่ 13 มิ.ย. โดยให้กระบวนการดำเนินการต่างๆ เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ก.ค.นี้ ส่วนการรายงานการขับเคลื่อนการดำเนินการสร้างความปรองดอง ให้ กทม.รายงานพร้อมภาพถ่ายการขับเคลื่อนแผนในเวลา 15.00 น. ของทุกวัน รวมถึงให้รายงานประจำสัปดาห์ทุกวันอังคาร เวลา 15.00 น. และเมื่อมีเหตุการณ์พิเศษให้รายงานด่วนต่อ คสช.ได้ทุกเวลา สำหรับการจัดงานคืนความสุขสู่ประชาชนของทหาร ตำรวจ กทม. จัดมาแล้ว 4 ครั้ง ประกอบด้วย 1.ที่สวนสันติชัยปราการ เขตพระนคร 2.ที่ลานอเนกประสงค์ เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เขตราชเทวี 3.ที่สวนสาธารณะหนองจอก เขตหนองจอก 4.ที่วัดอินทราวาส เขตตลิ่งชัน โดยเวทีครั้งต่อไปจะจัดวันอาทิตย์ที่ 15 มิ.ย. ที่สวนลุมพินี

กลุ่มบุคคลทยอยเข้ารายงานตัว

ส่วนบรรยากาศที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ได้มีกลุ่มบุคคลตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ฉบับที่ 58 เข้ารายงานตัวเพิ่มเติมรวม 17 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ที่สุ่มเสี่ยงและหมิ่นสถาบัน ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยเมื่อเวลา 09.00 น. นางกรรณิการ์ เทียนเงิน ผู้ที่ถูกคำสั่งรายงานตัวลำดับที่ 9 ของฉบับที่ 58 เดินทางมารายงานตัวเป็นคนแรกพร้อมด้วยสัมภาระ จากนั้นทยอยรายงานตัวต่อเนื่อง อาทิ นายเสน่ห์ จงจิตต์ ลำดับ 4 ฉบับที่ 58 น.ส.ดวงใจ พวงแก้ว ลำดับ 14 ฉบับที่ 58 น.ส.กรกนก ห่อกระโทก ลำดับ 11 น.ส.ดวงใจ พวงแก้ว ลำดับที่ 17 ซึ่งมีบุคคลที่ชื่อนามสกุลเดียวกัน เดินทางมารายงานตัวถึง 3 คน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทะเบียนราษฎร ระบุว่ามีบุคคลชื่อสกุลดังกล่าวตรงกันถึง 10 คน จึงต้องตรวจสอบหมายเลขบัตรประชาชนบุคคลที่ออกคำสั่ง อย่างไรก็ตาม นายสรานุภล กองทอง บุคคลตามคำสั่งฉบับที่ 6 ฉบับที่ 58 สวมเสื้อสีแดงพร้อมชู 3 นิ้วให้กับสื่อมวลชนด้วย หลังจากนั้น รายจรัล อัมพรกลิ่นแก้ว หรือ เจเจ สาธร มารายงานตัว พร้อมกระเป๋า หลังจากนั้น นายไพฑูรย์ สิงหา ก็ได้เดินทางเข้ามารายงานตัวเช่นกัน

“พายัพ ชินวัตร” เข้ารายงานตัว

สำหรับคำสั่งฉบับที่ 57 ซึ่งเป็นการเรียกกลุ่มบุคคลซ้ำอีกครั้ง จำนวน 18 คน ซึ่งมีทั้งอดีตรัฐมนตรี อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย แนวร่วมกลุ่ม นปช. และนักวิชาการ อาทิ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง นายชินวัฒน์ หาบุญพาด อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นางดารุณี กฤตบุญญาลัย แนวร่วมกลุ่ม นปช. ทั้งนี้ นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ นักวิชาการด้านนิติศาสตร์และหนึ่งในคณะนิติราษฎร์ ที่มีรายชื่อ ไม่ได้มารายงานตัวด้วยตัวเอง แต่ให้นางพัชรินทร์ ภาคีรัตน์ มารายงานตัวแทนโดยให้เหตุผลว่าป่วย ทั้งนี้ ระหว่างการรอรับรายงานตัวของเจ้าหน้าที่ ญาติของนายวิจารณ์ แสนลี่ บุตรชายของนายเต๋า แสนลี่ เจ้าพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งถูกควบคุมตัวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้เดินทางมาสอบถามการปล่อยตัวของนายวิจารณ์ ที่หอประชุมกองทัพบกด้วย นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสมคิด วงศ์โพธิ์ ชาวบางพลัด เข้ามารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ ทั้งที่ไม่มีรายชื่อตามคำสั่งประกาศเรียก แต่ระบุว่าได้รับการบอกต่อ ว่าหากใครชอบนโยบายพรรคเพื่อไทย ต้องมารายงานตัวกับ คสช. จนท.จึงชี้แจงว่า อย่าเชื่อข่าวลือ ให้ฟังประกาศจาก คสช.เท่านั้น นางสมคิดจึงเดินทางกลับ ต่อมาเวลา 10.50 น. นายพายัพ ชินวัตร น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางด้วยรถยนต์ตัวยี่ห้อโฟลค์ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน อ-9601 ก็เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ด้วย

เล็งขอตัว โรส-จักรภพ ข้ามแดน

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า การติดตามตัวผู้ที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหารในต่างประเทศ อย่าง น.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือโรส และนายจักรภพ เพ็ญแข 2 ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงนั้น กำลังพิจารณาการใช้สนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดน โดยจะทำเรื่องขอให้ทางสหราชอาณาจักรส่งตัวมา ซึ่งรายละเอียดของหนังสือกำลังให้ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาอยู่

เตือนคนไม่มารายงานตัวมีความผิด

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ช่วยราชการ รอง ผบช.น. กล่าวว่า ตำรวจจะสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานกรณีชุมนุมต่อต้านประกาศกฎอัยการศึก ในทุกคดีที่มีการกระทำความผิดหากแล้วเสร็จจะขออนุมัติศาลออกหมายจับในทันที ส่วนผู้ที่ขัดคำสั่ง คสช.เรียกรายงานตัว หากไม่มารายงานตัวตามวันเวลาที่กำหนดพนักงานสอบสวนจะพิจารณาถึงเหตุผลความจำเป็นว่าสมเหตุผลหรือไม่หาก ไม่มีเหตุผลอันควรจะมีการออกหมายเรียกและหมายจับตามกฎหมายต่อไป ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้าน คสช.จากเหตุการณ์วันที่ 7 มิ.ย.นั้น ตำรวจสามารถบันทึกภาพผู้แสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้วต่อต้านได้ทั้งหมด 7 คน และชัดเจนพอที่จะขออนุมัติศาลออกหมายจับ ส่วนที่เริ่มพบการแสดงออกด้วยการนัดกินแซนด์วิช ประกอบการอ่านแถลงการณ์ คงต้องมีการพิจารณาอีกครั้งว่า มีเนื้อหาหรือมีลักษณะต่อต้าน คสช.เหมือนกันหรือไม่ การโพสต์ข้อความเชิญชวนให้ต่อต้าน คสช.ถือว่ามีความผิดแน่นอน เพราะเป็นการชวนคนให้มาชุมนุม หรือการแสดงความชื่นชอบด้วยการกดไลค์ถือว่ามีความผิดเช่นกัน เพราะเป็นการกระจายข่าวโดยคอมพิวเตอร์ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้เขียนขึ้นเองก็ตาม ส่วนกรณีจับกุม นายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด) นั้นมีการดำเนินคดีแล้วโทษฐานที่ไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช.และ กฎหมายอาญา มาตรา 116 และยุยงให้คนมาชุมนุม คดีอื่นๆ ที่ทหารไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ไม่มารายงานตัวนั้น จะมีการตั้งทีมมาตรวจสอบคดี โดยมอบหมายให้ สถานีตำรวจนครบาลสามเสน รวบรวมคดีที่มีการแจ้งความตามสถานีตำรวจต่างๆ ซึ่งมีประมาณ 3-4 ราย โดยจะแยกกับส่วนที่มีการแจ้งความไว้ที่กองปราบปราม

จับ “ทอม ดันดี” ส่งเข้า กทม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจเพชรบุรี และทหาร ตชด.ค่ายนเรศวร ได้เข้าจับกุมตัว นายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือ ทอม ดันดี ผู้ฝ่าฝืนคำสั่งให้ไปรายงานตัวของ คสช. ตามคำสั่งที่ 53/2557 โดยชุดติดตามจับกุมสืบหาข่าวจนทราบว่า ทอม ดันดี ได้มาวนเวียนอยู่ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิด และกำลังจะขับรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ สีดำ 4 ประตู ทะเบียน กจ 9962 เพชรบุรี เข้าไปบ้านพักเลขที่ 81 หมู่ 4 ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง หลังกลับมาจากไร่ที่ อ.แก่งกระจาน แต่นายธานัท หรือ ทอม ดันดี เห็นเจ้าหน้าที่ก่อน จึงพยายามขับรถยนต์หลบหนี ทั้งนี้ เบื้องต้นตำรวจได้ติดตามและจับกุมได้ที่จุดตรวจบ้านวังจันทร์ พบว่านายธานัท ได้ขับรถมากับภรรยาคนปัจจุบัน จึงได้ควบคุมตัว และประสานกับทหารจากมณฑลทหารบกที่ 15 มารับตัวเพื่อนำตัวไปยังกรุงเทพมหานครต่อไป

หิ้ว “บก.ลายจุด” ส่งกองปราบ

รายงานข่าวแจ้งว่า นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและควบคุมตัวอยู่ที่จังหวัดชลบุรีนั้น ทางเจ้าหน้าที่ทหารจะนำตัวมาส่งพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับการปราบปราม ในวันที่ 11 มิ.ย. เบื้องต้นยังไม่ทราบเวลาที่แน่นอน

คุมม็อบต้านส่งศาลทหารฝากขัง

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) เมื่อเวลา 11.20 น. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน บก.ป.และเจ้าหน้าที่ทหาร ควบคุมตัว นายเยี่ยมยอด ศรีมันตะ ประธานสมาพันธ์ประชาชนรักประชาธิปไตย 20 จังหวัดภาคอีสาน และนายชัยนรินทร์ กุหลาบอ่ำ นักจัดรายการสถานีดาวเทียมช่องเอเชียอัพเดท ซึ่งเคลื่อนไหวต่อต้านการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่งตัวไปยังศาลทหารกรุงเทพ เพื่อขออำนาจฝากขังเป็นเวลา 12 วัน หลังจากกักตัวไว้ที่ห้องขัง บก.ป.จนครบกำหนด 7 วัน ตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก สำหรับขั้นตอนการดำเนินการในครั้งนี้ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ทำคำร้องมายังพนักงานสอบสวน บก.ป.ให้ดำเนินคดีกับนายเยี่ยมยอด และนายชัยนรินทร์ ตามความผิดฐานขัดคำสั่ง คสช.ที่ 14/2557 และประกาศ คสช. ที่ 7/2557 ตามลำดับ ซึ่งนายเยี่ยมยอด ไม่ได้เข้ามารายงานตัวตามกำหนด โดยความผิดดังกล่าวมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนนายชัยนรินทร์ นั้นถูกจับกุมที่ บริเวณห้างเทอร์มินอล 21 หลังแสดงสัญาลักษณ์ชู 3 นิ้ว เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศ ห้ามชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก มาตรา 8 และ 11 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังคงมีผู้ที่เคลื่อนไหวต่อต้าน คสช.ถูกกักตัวไว้ที่ บก.ป.รวม 31 ราย โดยทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ทยอยสอบปากคำแต่ละราย ก่อนจะพิจารณาว่าจะดำเนินคดีหรือปล่อยตัว โดยการพิจารณาจะขึ้นอยู่กับทางทหารที่จะใช้ดุลพินิจ ก่อนทำหนังสือมายังพนักงานสอบสวนต่อไป อย่างไรก็ดี ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีบรรดาญาติพี่น้องของผู้ที่ถูกคุมตัวเดินทางมาให้กำลังใจเป็นระยะๆ

“สิงห์ทอง” เผยทหารพาเค้นถึงค่าย

นายสิงห์ทอง บัวชุม อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันที่ 9 มิ.ย. มีนายทหารหลายสิบคนพร้อมอาวุธครบมือบุกไปมาเชิญตนถึงบ้านพัก มีทหารบุกมาถึงบ้านช่วงที่ยังพักผ่อน ทหารเข้ามาเชิญตนในชุดนอนถึงบนเตียงนอน รู้สึกแปลกใจเพราะ คสช.ไม่เคยประกาศให้ไปรายงานตัว มีหนังสือเชิญให้ไปรายงานตัววันที่ 10 มิ.ย. เลยตอบไปว่า ถ้าอย่างนั้นจะไปวันที่ 10 มิ.ย. แต่ได้รับการปฏิเสธบอกให้ไปเดี๋ยวนั้นเลย รู้สึกแปลกใจเพราะที่ผ่านมาไม่ได้เคลื่อนไหวทางการเมือง จากนั้นทหารได้พาไปถึงจุดหมายถึงทราบว่าเป็นกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ เมื่อถึงแล้วมีนายทหารมาพูดคุย ทหารที่เข้ามาจะอยู่ไม่นาน ขอความร่วมมือไม่ให้เคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อนำพาประเทศไปสู่ความสมานฉันท์ปรองดอง ซึ่งเราไม่ขัดข้อง ยินดีให้ความร่วมมือ พร้อมกับสอบถามเพื่อให้เกิดความปรองดองมีความคิดเห็น ถามว่ามีข้อเสนอแนะอะไรหรือไม่ ระบุไปว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ 2 มาตรฐาน ปัญหากระบวนการยุติธรรม โดยก่อนได้รับการปล่อยตัว ทหารขอให้เขียนประวัติสำคัญๆ ลงไป แต่ไม่ได้ลงนามรับเงื่อนไขข้อห้ามต่างๆ เหมือนคนที่ถูกเรียกไปพบ และได้พามาส่งถึงบ้านพักในช่วงค่ำวันเดียวกัน

ปชป.เงียบหยุดวิพากษ์การเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาขอความร่วมมือไปยังพรรคการเมืองหยุดวิพากษ์วิจารณ์ การทำงานของ คสช. และเรื่องทางการเมืองต่างๆ นั้น บรรยากาศที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยปกติทางพรรคจะมีการแถลงข่าวรายวันในเวลา 10.00 น. แต่ปรากฏวันนี้ไม่มีการแถลงข่าวและไม่มีการแจ้งให้สื่อมวลชนประจำพรรคทราบถึงเหตุผลแต่อย่างใด ในส่วนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังคงเดินทางเข้าทำงานที่พรรคตามปกติอย่างเช่นทุกวันที่เคยปฏิบัติมา และจะกลับออกจากพรรคไปในช่วงเวลา 12.30-14.00 น. เป็นประจำ โดยเมื่อเดินทางออกไปแล้วก็จะไม่เดินทางกลับเข้ามาที่พรรคอีก โดยบางวันก็มีจะมีบรรดาลูกพรรคเดินทางติดตามไปด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการ่วมรับประทานอาหารกลางวันแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนที่ทำการพรรคในบางวันก็จะมีบรรดาอดีต ส.ส.ของพรรคมาพบปะทักทาย พูดคุยกันบ้าง ตามประสาคนว่างงาน

พท.ปิดที่ทำการชั่วคราว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. พรรคเพื่อไทยได้ปิดที่ทำการพรรคฯ ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ของอาคารโอเอไอ ทาวเวอร์ รวมถึงปิดศูนย์การเรียนรู้ห้องสมุดทักษิณ ชินวัตร ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป เนื่องจากทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีประกาศฉบับที่ 57/2557 เรื่องห้ามพรรคการเมืองเคลื่อนไหวทางการเมือง ดังนั้นทางพรรคจึงเห็นว่าควรปิดไปก่อนเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมทางการเมืองของพรรค

วันที่ 11/06/2557 เวลา 5:54 น.