เนรมิต “ด่านสิงขร” เส้นทางเศรษฐกิจเปิดประตูอาเซียน
ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ปิ๊งไอเดียทุ่มกว่า 1,000 ล้าน เนรมิตด่านสิงขร เป็นเส้นทางขนส่งสู่ระเบียงเศรษฐกิจ เปิดประตูสู่เมืองปะลิด ประเทศเมียนมาร์ คาดนักท่องเที่ยวและแรงงานทะลัก สร้างเม็ดเงินเข้าจังหวัดกระฉูด จากปีละ 200 ล้านเป็น 1-3 หมื่นล้าน หลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
ประจวบคีรีขันธ์/ นายวีระ ศรีวัฒนะตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง โดยด้านตะวันออกติดกับทะเลอ่าวไทย ที่มีหาดทรายสวยงาม ขาวเนียนละเอียด มีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่ขึ้นชื่อหลายแห่ง ส่วนด้านตะวันตก ติดต่อกับประเทศเมียนมาร์ กว่า 200 กิโลเมตร มีถนนเพชรเกษม อยู่ตรงกลางจังหวัด โดยมีแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาอย่างหลากหลาย อาทิ วัดห้วยมงคล ที่มีหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นต้น
นายวีระ เปิดเผยว่า ดังนั้นยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงวางวิสัยทัศน์การท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับนโยบาย SEVEN GREEN ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมกับเตรียมที่จะพัฒนาด่านสิงขร ให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และเป็นเส้นทางขนส่งสู่ระเบียงเศรษฐกิจ เปิดประตู่สู่เมืองปะลิด ประเทศเมียนมาร์ อย่างถาวร โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณดำเนินการกว่า 1,000 ล้านบาท
“ด่านสิงขร อยู่ห่างจากตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 20 กิโลเมตรและห่างจากเมืองปะลิด ประมาณ 180 กิโลเมตรเท่านั้น ขณะนี้ได้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว โดยการร่วมมือกันของทั้งสองเมือง ซึ่งอยู่ระหว่างการสร้างถนนลูกรัง เชื่อมต่อกัน ที่แล้วเสร็จไปแล้วประมาณ 70% คาดจะเสร็จสมบูรณ์ภายในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ เมื่อเปิดใช้บริการอย่างเป็นทางการจะช่วยให้การขนส่งระหว่างสองเมือง เป็นไปด้วยความสะดวกสบาย ย่นระยะทางและลดต้นทุนด้านการขนส่ง ที่จะนำไปสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจต่อกันได้เป็นอย่างดี” นายวีระ กล่าว
นายวีระ กล่าวต่อไปอีกว่า จากนี้ไปอีกประมาณ 3 ปี ถือเป็นการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประจวบฯ กับเมืองปะลิด หลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 จึงมั่นใจว่าเส้นทางนี้จะเป็นการเปิดเมืองสู่ปะลิด อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ เมืองปะลิด นั้นเป็นเมืองที่มีเกาะมากกว่า 700 เกาะ ยังไม่มีการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวมากนัก นักลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนจากประเทศไทย เมื่อสร้างเส้นทางติดต่อระหว่างการสำเร็จ จะเห็นโอกาสของการลงทุนระหว่างเส้นทางจากด่านสิงขร ไปยังเมืองปะลิด โดยเฉพาะช่วงเมืองตะนาวศรี ที่มีหมู่บ้านคนไทยที่ยังอยู่ในเขตเมียนมาร์
“ต่อไปจังหวัดประจวบฯ จะไม่เสียโอกาส เพราะขณะนี้การลงทุนด้านด่านสิงขรกำลังมีความตื่นตัวมาก โดยมีการเตรียมเปิดตลาดชายแดนอย่างน้อย 3 ตลาดในเร็วๆ นี้ จากนั้นก็จะมีการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างระบบคมนาคมที่มาตรฐาน เสร็จแล้วจะมีการเชิญผู้ประกอบการไปเจรจาการค้ากับนักธุรกิจเมืองปะลิด เชื่อมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวระหว่างกันอย่างจริงจัง ซึ่งทางเมืองปะลิด เขาก็มีความกระตือรือร้นที่จะเปิดเมืองมาสู่ด่านสิงขรอย่างเร่งด่วนอยู่แล้ว” นายวีระ กล่าว
นายวีระ กล่าวต่อไปว่าหากเปิดความร่วมมือกันเต็มรูปแบบแล้ว ผมเชื่อว่าจะมีการทะลักของนักท่องเที่ยวและแรงงานเข้ามาในประจวบฯ เพิ่มขึ้น โดยเชื่อว่าจะสร้างรายได้เข้าจังหวัดด้านด่านสิงขร จากเดิมปีละประมาณ 200 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้นเป็นปีละไม่น้อยกว่า 1-3 หมื่นล้านบาทอย่างแน่นอน เพราะต่อไปจะมีการลงทุนเข้าไปช่วงระหว่างเมืองปะลิดจนถึงในเมืองปะลิด เป็นอย่างมาก
วันที่ 28/05/2557 เวลา 7:22 น.