ไทยเบฟฯ ไม่สะท้านการเมืองยอดขายยังโอเค.

ไทยเบฟฯ ประเมินภาพยอดขายยังดีอยู่ เพราะสินค้าในเครือหลากหลายช่วยพยุงรายได้ สำรวจพบตลาดน้ำดื่มโตสุดเพราะกระแสรักสุขภาพมาแรง แจงระบบการจัดส่งเจ๋ง ขณะนี้ตลาดน้ำเมาก็มาเป็นอันดับหนึ่ง

นายวิเชฐ ตันติวานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของประเทศไทยตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ของปี 2556 ถึงไตรมาสแรก ของปี 2557 ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมือง แต่เนื่องจากไทยเบฟฯ มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เรียกได้ว่าเป็น Total Beverage จึงทำให้มีการกระจายความเสี่ยงของสินค้ามาก เมื่อสินค้าบางส่วนดร็อปยังมีสินค้าอีกหลายส่วนที่มียอดขายเพิ่มขึ้น เช่น สินค้าประเภทเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ของทั้งเสริมสุข และโออิชิ มาช่วยได้เยอะ ภาพรวมจึงถือว่าดี อาจจะไม่ได้ดีเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่เมื่อเทียบจากสถานการณ์ปัจจุบันถือว่ายังดีอยู่ ธุรกิจที่สร้างกำไรได้ในปีที่แล้ว คือ สินค้าประเภทเบียร์ เนื่องมาจากการได้รับความนิยมมากขึ้น และการปรับราคาทำให้รายได้ส่วนเบียร์มากขึ้น เมื่อเราได้รับส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น ทำให้เริ่มมีกำไร ซึ่งปีที่แล้วเรามีออกสินค้า Chang Export มีจุดเด่นเป็นมอลต์ 100% รสชาติออกแนว International ซึ่งได้รับความนิยม และเริ่มเติบโตเรื่อยๆ

กำไรที่มากขึ้นในส่วนของเบียร์มาจากปัจจัยหลายส่วน รวมทั้งกลยุทธ์การปรับขึ้นราคาทำให้ได้กำไรต่อขวดมากขึ้น เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวเนื่องมาจากโครงสร้างภาษีที่ปรับขึ้น แต่สินค้าประเภทเบียร์นั้น เน้นกลุ่มผู้บริโภคเป็นกลุ่มคนในเมือง จึงไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคามากนัก ส่วนสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา มีผลกระทบบ้าง ในส่วนของสินค้าออนเทรด (ขายตามร้านค้า ผับ บาร์) เนื่องจากบรรยากาศของการเฉลิมฉลองลดลง ทำให้ยอดขายในส่วนนี้ทุกแบรนด์ในตลาดดร็อปลงทั้งหมด

ผลสำรวจพบว่าน้ำดื่มโตที่สุดในพอร์ตเครื่องดื่ม ผลสำรวจดังกล่าวมาจากกระแสรักสุขภาพ ผู้บริโภคในปัจจุบันหันมาสนใจด้านสุขภาพ และการออกกำลังกายมากขึ้น ไทยเบฟฯ เองก็เห็นความสำคัญในกระแสเรื่องนี้เช่นกัน ในด้านน้ำดื่ม สินค้าในเครือไทยเบฟเองมี 2 แบรนด์ที่อยู่ในตลาดคือ น้ำดื่มช้าง กับ น้ำดื่มคริสตัล ซึ่งทั้งคู่เป็นเพียงน้ำดื่ม 2 แบรนด์ในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความสะอาดจาก NSF National Sanitary Foundation ซึ่งเป็นสถาบันรับรองมาตรฐานเก่าแก่ในประเทศสหรัฐอเมริกา

ในด้านยอดขายนั้น เสริมสุขมีระบบการขนส่งที่ดีที่สุดในประเทศไทย จึงเข้าถึงร้านค้าต่างๆ ได้มาก ทำให้ “คริสตัล” ได้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ ในขณะที่ “น้ำดื่มช้าง” จะเจาะตลาดในเมือง ซึ่งเมื่อรวมทั้ง 2 แบรนด์เข้าด้วยกันแล้ว มี Market Share ประมาณ 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้นเรายังมีเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์อื่นๆ และน้ำผลไม้ อยู่ในระหว่างการพัฒนาเครื่องดื่มเกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้น

ส่วนตลาดผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ บริษัทยังเป็นผู้นำสินค้าแอลกอฮอล์ในไทย (รวมทั้งสุราและเบียร์) ซึ่งมี Market Share อยู่ประมาณ 80% จากตลาดรวมประมาณ 2 แสนล้านบาท ถ้าเทียบในอาเซียนเรายังมี Market Share อยู่ประมาณ 14% ซึ่งถือว่าเล็กแต่มีโอกาสโตได้มาก เราเป็น Regional Play ซึ่งการซื้อกิจการ F&N นั้น ถือเป็น Regional Play ที่เร็วที่สุด

“เรากำลังทำเรื่อง Area Management โดยมองถึงโอกาสของสินค้าอย่างสุราแม่โขง เรียกว่าเป็นเหล้ารัมที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย (อายุ 73 ปี) เราสามารถนำแบรนด์นี้โปรโมทไปสู่โลกได้ และในปัจจุบันเรายังมีเครื่องดื่มประเภท Scotch Whisky จากสกอตแลนด์ โดยในปี 2006 เราซื้อโรงกลั่นมอลต์ มี 5 แบรนด์ที่จำหน่ายในยุโรปที่ไม่ได้นำเข้ามาไทย ได้แก่ Balblair ,Old Plulteney ,anCnoc ,Speyburn และ Hankey Bannister”

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ถือว่าอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เติบโตเท่าที่ควร เป็นเหมือนกันทุกแบรนด์ เนื่องจากเหล้านอกเป็นตลาดของคนดื่มที่สถานบันเทิงต่างๆ เมื่อไม่มีบรรยากาศเฉลิมฉลอง คนไม่ได้ไปเที่ยว ก็ทำให้เหล้านอกเติบโตลดลง แต่ไทยเบฟฯ เองมีหลายช่องทางการตลาด มีทั้ง Off trade (ซื้อมาดื่มที่บ้าน) และ On trade (จำหน่ายที่ร้านอาหาร สถานบันเทิง) หากไม่ได้ไปดื่มที่ผับบาร์ ก็อาจจะกลับมาดื่มแสงโสมหรือสุราไทยที่บ้าน แต่อย่างไรก็ตาม ถือว่าพฤติกรรมนี้เป็นแค่พฤติกรรมชั่วคราวของผู้บริโภค เนื่องจากการทานแอลกอฮอล์ต้องมีการสังสรรค์ พบปะเพื่อนฝูง อีกไม่นานคิดว่าจะกลับมาเป็นปกติ สำหรับปีนี้หากสถานการณ์การเมืองสามารถแก้ไขได้ในไตรมาสที่ 2 สถานการณ์ตลาดก็จะสามารถกลับมาอยู่ในระดับปกติในไตรมาสที่ 3-4 เมื่อจบปีจะสามารถเติบโตขึ้นได้ 1-2 เปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

วันที่ 13/05/2557 เวลา 6:54 น.