สสว. ผนึกหอการค้าไทยติดปีก SMEs เข้าสู่ AEC
เชียงใหม่/ นายวชิระ แก้วกอ ผู้อำนวยการสำนักประสานและบริหารโครงการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะมาถึงในปี 2558 นี้ จะส่งผลกระทบโดยตรงทั้งในด้านโอกาสและภัยคุกคามที่จะมีผลต่อโครงสร้างและสถานภาพเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ดังนั้น สสว. จึงได้ร่วมกับหอการค้าไทย ดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริม สนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ ทั้งในด้านการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน และการขยายโอกาสทางการตลาด เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ด้วยโครงการบ่มเพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม “บ่มเพาะ SMEsไทย ก้าวไกลสู่ AEC” ภายใต้แผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ปีงบประมาณ 2557
ความร่วมมือของ สสว. และ หอการค้าไทยครั้งนี้ จะเป็นการบ่มเพาะ SMEs ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน ขยายโอกาสทางการค้าและเครือข่ายความร่วมมือ ผ่านกิจกรรมทั้งการอบรมความรู้ในการดำเนินธุรกิจด้านต่างๆ รวมถึงการบริหารจัดการการค้ากับกลุ่ม AEC การวิเคราะห์สถานประกอบการ รวมถึงการให้คำปรึกษาเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เพื่อสร้างเครือข่ายความเชื่อมโยงระหว่าง SMEs ด้วยกันและผู้ประกอบการรายใหญ่
ทั้งนี้ การดำเนินงานดังกล่าว จะช่วยพัฒนาความพร้อมให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการโดยเฉพาะในกลุ่มการค้าและบริการ การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ให้มีความพร้อมอย่างรอบด้าน มีการวางแผนธุรกิจของตนเองได้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด สามารถเตรียมพร้อมรับกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 นี้ โดยคาดว่าภายใต้การดำเนินงานดังกล่าว จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs มีความพร้อมในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ จำนวนไม่น้อยกว่า 150 รายทั่วประเทศ
ด้าน นายพิทยสัณห์ เดชประสิทธิ์ ประธานคณะอนุกรรมการ หอการค้าไทย กล่าวถึง การดำเนินโครงการบ่มเพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภายใต้แผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม “บ่มเพาะ SMEsไทย ก้าวไกลสู่ AEC” ว่า โครงการนี้ จะเน้นพัฒนาต่อยอดผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจภาคการค้าและบริการทั่วประเทศ โดยผู้ประกอบการ SMEs ที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องผ่านการอบรมในหลักสูตรพัฒนาธุรกิจสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะมีการจัดการอบรมใน 4 ภูมิภาค 6 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ ภาคกลางและภาคตะวันออก จัดที่กรุงเทพมหานคร และพัทยา จ.ชลบุรี ภาคใต้ จัดที่หาดใหญ่ จ.สงขลา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดที่ จ.อุดรธานี และ จ.นครราชสีมา และภาคเหนือ จัดที่ จ.เชียงใหม่ รวมถึงต้องผ่านการวินิจฉัย-บ่มเพาะ ทำแผนธุรกิจ ตลอดจนการศึกษาดูงาน และจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการอย่างครบวงจร
ในภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดโดยรอบทั้ง เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง ตาก น่าน และจังหวัดอื่นๆ รวม 15 จังหวัด มีสถิติการจดทะเบียนดำเนินธุรกิจในรูป บริษัทจำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด, ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล และสมาคมการค้า ที่ยังคงสภาพอยู่จำนวน 40,072 กิจการ จดทะเบียนในประเภทกิจการขายส่งและการขายปลีกการซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์, การขนส่งและสถานที่จัดเก็บสินค้า และที่พักแรมและการบริการด้านอาหาร จำนวน 15,379 กิจการ (สถิติการจดทะเบียนจากกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า กระทรวงพาณิชย์) น่าจะมีผู้ประกอบการตลอดจนเจ้าของธุรกิจจำนวนไม่น้อยที่ต้องการพัฒนาศักยภาพของตนเอง และสถานประกอบการให้พร้อมรับกับความต้องการของตลาด จำนวนนักท่องเที่ยว และผู้บริโภคให้มากขึ้น และหากได้รับพิจารณาเข้าร่วมโครงการบ่มเพาะ SMEs ไทย ก้าวไกลสู่ AEC จะเป็นโอกาสดีที่จะได้รับความรู้ มีที่ปรึกษา มีผู้ช่วยทำให้ธุรกิจที่ดำเนินอยู่แข็งแรงขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว
วันที่ 6/05/2557 เวลา 12:40 น.