สรุปสงกรานต์เคลม 22 ล.

นางบุษรา อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า จากช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ปี 2557 ที่ผ่านมา มีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อกลับบ้านเกิดและท่องเที่ยว การคมนาคมมีความแออัดคับคั่ง ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าปกติ โดยสถิติในช่วง 7 วันอันตรายระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2557 จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รายงานจำนวนการเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 2,992 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 322 ราย และบาดเจ็บ 3,225 ราย สมาคมประกันชีวิตไทยได้ดำเนินการติดตามและขอให้บริษัทประกันชีวิตทุกบริษัทเร่งตรวจสอบรายชื่อผู้ประสบภัยและเร่งจ่ายสินไหมประกันชีวิต ซึ่งพบว่าจากรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมด มีผู้ทำประกันชีวิตไว้เพียง 50 รายเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 15.53 ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น รวมเป็นเงินสินไหมประกันชีวิต 22,642,486.74 บาท ขณะนี้บริษัทประกันชีวิตอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเอกสารเรียกร้องสินไหมจากผู้รับประโยชน์ ซึ่งบริษัทจะดำเนินการจ่ายค่าสินไหมประกันชีวิตในทันทีที่ได้รับเอกสารดังกล่าวครบถ้วน

ผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวต่อว่า ครอบครัวของผู้ทำประกันชีวิตที่ประสบเหตุจะได้รับเงินสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันชีวิต เมื่อบุคคลดังกล่าวเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ดียังมีประชาชนจำนวนมาก ที่ไม่ได้ทำประกันชีวิตหรือแม้แต่ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้ เมื่อประสบเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ไม่ว่าจะเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ล้วนแต่นำความสูญเสียและภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ มายังคนใกล้ชิด ดังนั้นจึงขอเชิญชวนให้ประชาชนทุกคนได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการทำประกันชีวิตให้มากขึ้นเพื่อบรรเทาความทุกข์ได้บ้างไม่มากก็น้อย โดยในแต่ละครอบครัวควรมีการทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้ไม่น้อยกว่า 1 กรมธรรม์ การประกันชีวิตหรือประกันภัยอุบติเหตุดังกล่าวจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ตนเองและคนที่รักจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาอีกด้วย

ขณะที่นายวาสิต ล่ำซำ รองประธานคณะกรรมการยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า สมาคมมีแผนที่จะปรับ พิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยสำหรับรถ ซูเปอร์คาร์ หรือรถหรู และรถบิ๊กไบค์ใหม่ เนื่องจากพิกัดเบี้ยไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และที่ผ่านมาการเคลมค่าสินไหม ของรถหรูสูง เช่น อะไหล่บางรายการมีราคาสูงเป็นแสนบาท เป็นต้น ซึ่งไม่คุ้มกับการรับประกันภัย

ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด คาดว่าจะสรุปและประกาศใช้อย่างเป็นทางการในไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อลูกค้ามากนักเพราะลูกค้ากลุ่มนี้ ส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูงอยู่แล้ว ส่วนอัตราเบี้ยใหม่จะปรับเท่าไหร่นั้น ยังบอกไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของรถด้วย

สำหรับรถบรรทุกก็เตรียมปรับเบี้ยใหม่เช่นกัน โดยเป็นไปตามความเสี่ยงภัย เพราะที่ผ่านมาเกิดอัตราความเสียหาย หรือลอสเรโชสูง ทำให้บริษัทประกันขาดทุนมาตลอด ซึ่งกำลังดูสถิติข้อมูลย้อนหลังในช่วง 5 ปีว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อประกอบการพิจารณาคิดอัตราเบี้ยประกันใหม่ โดยปัจจุบันการรับประกันรถบรรทุก ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากกว่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถปิกอัพ และมีผู้ประกอบการรายใหญ่ที่รับประกันภัยไม่กี่ราย

นอกจากนี้กำลังศึกษาหาพันธมิตร เข้ามาให้บริการลูกค้า เพื่อขยายอาณาเขต การบริการไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กรณีที่รถบรรทุกวิ่งผ่านชายแดนและเกิดอุบัติเหตุ หรือมีปัญหาขึ้นพันธมิตรจะได้ เข้ามาช่วยดำเนินการให้โดยที่บริษัทประกัน ของไทย ไม่ต้องส่งคนเข้าไปทำเคลมใน ประเทศเพื่อนบ้าน เพราะที่ผ่านมาการ ไม่มีพันธมิตรทำให้การทำธุรกิจมีความ ยากลำบาก เนื่องจากการเคลมในแต่ละครั้ง ต้องใช้เวลานานและไม่รู้ว่าอู่ซ่อมรถยนต์ มีเพียงพอต่อการให้บริการหรือไม่ เพราะหลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 การค้าระหว่างประเทศจะมีสัดส่วนมากขึ้นทำให้การบริการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

“เบี้ยรถบรรทุกไม่ได้ปรับมาเป็นเวลา 6-7 ปีแล้ว ซึ่งการปรับอัตราเบี้ยใหม่จะทำให้สะท้อนกับสภาวการณ์ในปัจจุบันมากขึ้นเนื่องจากรถใหญ่เวลามีเหตุการณ์รุนแรงค่าเสียหายก็สูง” นายวาสิต กล่าว

รายงานข่าวจากสมาคมวินาศภัยไทย แจ้งว่า การปรับพิกัดรถหรูและรถบิ๊กไบค์เฉลี่ยอาจจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5-15% เพราะอะไหล่บางรายการ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ หรือรถบางยี่ห้อซ่อมที่ไทยไม่ได้ ต้องส่งซ่อมต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ก็จะทำให้บริษัทประกันมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

 

 

วันที่ 29/04/2557 เวลา 6:50 น.

uasean

 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ banmuang.co.th ดูทั้งหมด

250

views
Credit : banmuang.co.th


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน