SME ตั้งศูนย์กระจายสินค้า ตปท.
นางเพ็ญทิพย์ พรจะเด็ด นายกสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (เอสเอ็มอี) เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีการชุมนุมทางการเมือง ส่งผลให้กำลังซื้อในประเทศลดลงอย่างมาก ซึ่งกระทบโดยตรงกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งมีสายป่านสั้น ดังนั้นทางสมาคมฯ จึงเตรียมพาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกว่า 40 บริษัท 60 แบรนด์สินค้า เช่น กลุ่มผลิตอาหาร เสื้อผ้าสำเร็จรูป เกษตรแปรรูป เครื่องสำอาง เครื่องประดับ เครื่องหนัง ไปเปิดศูนย์กระจายสินค้าที่ประเทศกัมพูชา ในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อหาช่องทางตลาดใหม่ๆ เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว และเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 58 หลังทดลองเปิดศูนย์กระจายสินค้าที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ มาแล้วในเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เพราะทำให้รับทราบปัญหา เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไข โดยการไปเจาะตลาดต่างประเทศในครั้งนี้ ผู้ประกอบการไม่ได้ใช้งบประมาณของภาครัฐ แต่มีการประสานงานร่วมกับทูตพาณิชย์ ที่เมืองย่างกุ้ง ในเรื่องทางราชการต่างๆ รวมทั้งได้รับความร่วมมือกับพันธมิตรที่ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งจากนี้จะนำเมียนมาร์โมเดล มาใช้ในการเปิดตลาดในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศเออีซี เพราะเป็นประเทศเพื่อนบ้านกับไทย และชื่นชอบสินค้าไทยอยู่แล้ว เช่น สปป.ลาว และต่อไปดูที่ประเทศจีนด้วย
ด้าน นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า ตั้งแต่ สสว. ออกมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี ตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีโหลดใบสมัครแสดงความสนใจเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1 หมื่นราย ล่าสุด ทาง สสว.ได้ประสานให้ธนาคารช่วยเหลือแล้วประมาณ 160-170 ราย ซึ่งที่เห็นว่า ตัวเลขขอความช่วยเหลือไม่มาก เพราะบางรายโหลดในสมัครไป แต่ยังไม่ยื่นเอกสารเข้ามาเป็นทางการ และอีกหลายรายได้รับการช่วยเหลือจากสถาบันการเงินแห่งอื่นๆ ที่ตื่นตัวช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นลูกค้าของตัวเองมากขึ้น ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทุกฝ่ายช่วยเหลือกัน
วันที่ 22/04/2557 เวลา 6:50 น.