มหาวิทยาลัยแม่โจ้เอาจริงพร้อมรับนักเที่ยวชาวจีน
รศ.ดร.วีระพล ทองมา คณบดีคณะพัฒนาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถาบันการศึกษาที่เคียงคู่กับประเทศไทย ยาวนานมากว่า 80 ปี ซึ่งเอกลักษณ์ของแม่โจ้ คือการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำทางการเกษตร เป็นมหาวิทยาลัยแห่งชีวิตที่ปลูกฝังและพัฒนาบัณฑิตให้อดทน สู้งาน ตลอดจนเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ และแม้จะเป็นสถาบันที่ให้ความรู้ด้านการศึกษาและวิชาการ แต่หนึ่งในพันธกิจหลักคือการให้บริการแก่ชุมชนไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการ การอำนวยความสะดวกด้านบุคลากรและงานวิจัย ตลอดจนการเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกได้เข้ามาสัมผัส และรู้จักกับวิถีเกษตรและความสวยงามของธรรมชาติที่รายล้อมอยู่ในมหาวิทยาลัย สอดคล้องกับกระแสของการท่องเที่ยวในปัจจุบัน โดยเฉพาะการหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยของนักท่องเที่ยวชาวจีน จนก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และประเด็นปัญหาอื่นๆ ที่ตามมา แต่ทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำโดยผู้บริหารของมหาวิทยาลัยเห็นพ้องต้องกันว่า “หากนักท่องเที่ยวชาวจีนสนใจมาเที่ยวเราก็ยินดีให้การต้อนรับ แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการที่เรากำหนดคือ ไม่ทำลายวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมที่ดีงาม เน้นการท่องเที่ยวแบบสร้างสรรค์ ในส่วนของนักศึกษาและบุคลากร เรามุ่งสร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจให้ทุกคนเปิดใจรับ เราไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นปัญหา แต่อยากให้มองเป็นประสบการณ์ที่ดีที่เราจะได้เรียนรู้เพื่อนชาวต่างชาติ และถือเป็นความภูมิใจที่ทำให้คนได้รู้จักแม่โจ้ที่สวยงาม”
รศ.ดร.วีระพล กล่าวต่อว่า แม่โจ้ได้มีการจัดเส้นทางท่องเที่ยว เชิงเกษตรแม่โจ้อย่างยั่งยืน (Sustainable Maejo Agri-Tourism Trails) ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 เส้นทางหลักคือ 1. เส้นทางพืชพันธุ์ไม้ (Plants and Seedlings) 2. เส้นทางเกษตรอินทรีย์ (Organic Agriculture) และ 3. เส้นทางสัตว์เศรษฐกิจและท่องเที่ยวเกษตรนิเวศ (Economic Animals and Agri-eco tourism) โดยมีฐานการเรียนรู้สำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนทั้งสิ้น 11 ฐานการเรียนรู้ ซึ่งจะเป็นกิจกรรมที่เกิดประโยชน์และความรู้แก่นักท่องเที่ยว ตลอดจนเป็นการพัฒนาประชาสัมพันธ์กิจกรรมของมหาวิทยาลัยและสร้างเสริมโอกาสให้บุคลากรและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้พัฒนาทักษะความรู้ ตลอดจนการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ
เนื่องจากปัญหาของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เกิดขึ้น จนเป็นประเด็นทางสังคม โดยเฉพาะในโลกของสังคมออนไลน์ ต่างกล่าวถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากนักท่องเที่ยวชาวจีน ไม่ว่าจะเป็นการไม่เคารพกฎ การขาดระเบียบวินัย มารยาททางสังคม ตลอดจนการสร้างความเดือดร้อนแก่คนในพื้นที่ อีกทั้งปัญหาของการขาดแคลนมัคคุเทศก์ในการนำเที่ยวที่จะนำนักท่องเที่ยวชาวจีนไปท่องเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยว ต่างๆ เนื่องจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวทำให้ความต้องการมัคคุเทศก์ภาษาจีนยิ่งเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในระยะที่ผ่านมา ผู้ประกอบการ ได้แก้ปัญหาการขาดมัคคุเทศก์ภาษาจีนโดยการนำมัคคุเทศก์ภาษาอื่นมาประกบกับผู้ที่รู้ภาษาจีนเพื่ออธิบายให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ทำให้เกิดความยุ่งยากและความคลาดเคลื่อนในการสื่อสาร ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาท่องเที่ยวได้ข้อมูลไม่ถูกต้องจากการแปลผ่านล่ามที่ไม่ผ่านการอบรมการเป็นมัคคุเทศก์ ไม่มีความรู้ทั้งด้านวิชาการและการบริการที่ถูกต้อง จึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนไม่ประทับใจในการใช้บริการของบริษัททัวร์ และเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวเป็นการท่องเที่ยวแบบส่วนตัว หรือไม่ผ่านบริษัททัวร์นั่นเอง
คณะพัฒนาการท่องเที่ยวได้เล็งเห็นถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรมัคคุเทศก์เฉพาะ (ต่างประเทศ-เฉพาะพื้นที่) รุ่นที่ 1 (ภาษาจีน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนมัคคุเทศก์ภาษาจีนให้กับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวในภาคเหนือตอนบน ตลอดจนเพื่อแก้ไขปัญหาการประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ที่ผิดกฎหมาย และอบรมให้กับประชาชนไทยที่มีความรู้ความสามารถภาษาจีนได้มีความรู้ด้านการท่องเที่ยวที่ถูกต้องในการให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งจะเป็นการสร้างงานให้กับประชาชนในท้องถิ่น รวมทั้งเป็นการดึงนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น และสิ่งสำคัญที่สุดคือเพื่อเป็นการเตรียมบุคลากรเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและเป็นการสร้างรายได้ให้กับประเทศชาติ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมรับการอบรมทั้งสิ้นจำนวน 78 คน
สำหรับมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเข้ามาในมหาวิทยาลัยแม่โจ้นั้น ได้มีการวางแนวทางไว้ดังนี้ 1.การกำหนดกฎระเบียบและข้อบังคับในการเข้าเยี่ยมชมมหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีการควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในแต่ละวัน 2.มีการจัดทำป้ายสัญลักษณ์และป้ายสื่อความหมาย ตลอดจนระเบียบข้อบังคับต่างๆ ในการเข้าชมเป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษ ทำให้นักท่องเที่ยวเข้าใจได้ง่าย 3.นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยจะต้องผ่านบริษัทนำเที่ยวเท่านั้น ซึ่งบริษัทนำเที่ยวจะต้องเป็นผู้ประสานงานแจ้งมายังมหาวิทยาลัย หากเป็นนักท่องเที่ยวแบบส่วนตัวจะต้องมีการลงทะเบียนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันผ่านทางระบบออนไลน์ ซึ่งกำลังดำเนินการพัฒนาเว็บไซต์จองทัวร์ของมหาวิทยาลัยในรูปแบบภาษาอังกฤษและภาษาจีน
4.นักท่องเที่ยวสามารถแวะเยี่ยมชมและถ่ายรูปตามจุดที่มหาวิทยาลัยกำหนดเท่านั้น 5.การท่องเที่ยวภายในมหาวิทยาลัย เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หากนักท่องเที่ยวกระทำการใดให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัย จะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น 6.มหาวิทยาลัยจะจัดรถบริการนำเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยว โดยจะกำหนดตารางเดินรถในแต่ละวันอย่างชัดเจน และผู้นำเที่ยวภายในมหาวิทยาลัยจะเป็นนักศึกษาหรือบุคลากรของมหาวิทยาลัยแม่โจ้เท่านั้น 7.รายละเอียดค่าใช้จ่ายเป็นไปตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้ (รายละเอียดในแผนที่เส้นทางท่องเที่ยว)” ทั้งนี้ เป็นเพียงแค่ร่างระเบียบการเท่านั้น ส่วนรายละเอียดจะได้มีการนัดหมายทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนร่วมกันหามาตรการที่ชัดเจนอีกครั้งต่อไป
วันที่ 28/03/2557 เวลา 7:09 น.