“ท๊อปอัพ ทูริช” ได้เฮลั่นทุ่ง

สคบ.ไฟเขียว ท๊อปอัพ ทูริช เปิดขายตรง ประกาศเดินเกมเต็มพิกัดภายใต้นวัตกรรมแอพพลิเคชั่นใหม่ ITS (Intelligent Top up System) ซอฟต์แวร์รองรับการเติมเงินครอบคลุมครบวงจร พร้อมกางแผนรุกคืบสู่บริการชำระเงินทุกรูปแบบ ลั่นปี 58 รุก AEC ครบ 10 ประเทศ มุ่งสร้างภาพลักษณ์เป็นขายตรงสีขาว ไม่หวั่นแม่ทีมเก่าย้ายค่าย มุ่งสร้างเพชรแท้มนุษย์เงินล้านประดับวงการขายตรง

นายศรวัสย์ ไพศาลศรวัส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท TopUp2Rich จำกัด เปิดเผยว่า จากความพยายามของบริษัทเพื่อยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจขายตรงมากว่า 1 ปี โดยที่ผ่านมานั้นคณะกรรมการขายตรงและการตลาดแบบตรงเห็นว่าลักษณะการประกอบธุรกิจของท็อปอัพ ทูริช ไม่เป็นการประกอบธุรกิจขายตรงตาม พ.ร.บ.ขายตรงและการตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ก็ไม่ละความพยายาม เพราะเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจที่ให้เป็นเครือข่ายว่าต้องทำขายตรง จนกระทั่งวันที่ 6 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ( สคบ.)

“เราทำธุรกิจสีขาวอย่างแท้จริง ทราบดีว่าธุรกิจนี้ใหม่มาก แต่ด้วยเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้ง เราเข้าพบกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ธุรกิจเราถูกต้องตามกฎหมาย 1 ปีผ่านไปเราได้รับอนุญาตให้เป็นธุรกิจขายตรงที่ถูกต้อง เราภูมิใจมาก เราผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้น ธุรกิจเรายังได้รับการตรวจสอบทั้งจากดีเอสไอ การป้องกันและปราบเงินนอกระบบ กรมคุ้มครองผู้บริโภค สรรพากร สุดท้ายเราส่งให้ สคบ. ถือว่านี่เป็นครั้งแรกที่ สคบ.อนุมัติให้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คือ ซอฟต์แวร์”

ทั้งนี้บริษัทมีการคิดค้นซอฟต์แวร์แบบเบ็ดเสร็จ มาใช้เป็นครั้งแรกของโลก เรียกว่า ITS ( Intelligent Topup System) หรือระบบเติมเงินมือถืออัจฉริยะ ซึ่งในอนาคต ซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะพัฒนาไปสู่การเป็นระบบที่สามารถช่วยให้สมาชิกซื้อสินค้าและบริการอื่นได้อย่างไรไร้ขีดจำกัด เช่น สินค้าในหมวดประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยรถจักรยานยนต์ พ.ร.บ. และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป เช่น กาแฟ อาหาร การจ่ายค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ในอนาคตอันใกล้

“วันนี้เราได้คิดค้นเครื่องมือที่ทำให้คนสำเร็จได้ สิ่งที่เราคิดค้นขึ้นเป็นนวัตกรรมใหม่ครั้งแรกบนโลกใบนี้ ไม่ใช่แค่ด้านเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่ประสานเข้ากับกลยุทธ์และทิศทางการตลาดด้วย วันนี้ทำอย่างไรให้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อเราสร้างเครื่องมือ ITS แอพพลิเคชั่น ที่สามารถเชื่อมโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน หรือโทรศัพท์จอขาวดำ ก็สามารถเชื่อมได้ เราได้ทดลองเป็นพาร์ทเนอร์กับเอเชียประกันภัย เอา พ.ร.บ.รถยนต์เข้ามาขายในระบบ เรากำลังจะลิงค์กับธุรกิจการท่องเที่ยวของนักร้องชื่อดัง ฟิล์ม รัฐภูมิ และยังมีเดอะวัน คลินิกบริการความงาม ก็สามารถซื้อผ่านระบบนี้ได้ เราจะรุกหน้าต่อไป เช่น ธุรกิจร้านกาแฟ เราจะหาพันธมิตรเป็นร้านกาแฟทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีพาร์ทเนอร์ติดต่อเข้ามาอีกหลายราย”

นายศรวัสย์ กล่าวว่า ITS ไม่ใช่แต่เติมเงินมือถือย่างเดียวอีกต่อไป แต่จะสามารถเชื่อมต่อธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะการพลิกโฉมธุรกิจเครือข่าย แต่ทั้งนี้บริษัทฯ ก็ยังไม่หยุดอยู่กับที่ ยังคงพัฒนาให้สามารถรองรับผู้คนแบบไร้ขีดจำกัด โดยบริษัทฯ ทุ่มงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี และในปี 2558 ที่จะถึงนี้จะมีการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ AEC บริษัทจึงมีเป้าหมายที่จะขยายให้ครบทั้ง 10 ประเทศเอเซียน ภายในปี 2558

“ตอนนี้เราติดต่อประสานงานกับกัมพูชาและลาว หลังจากเราได้ สคบ.อย่างถูกต้อง ในระยะเวลาอันใกล้ เอกสารเหล่านี้จะเป็นตัวยืนยันว่าท๊อปอัพ ทูริช จะทำธุรกิจอย่างถูกต้อง ขยายไปอาเซียนและภูมิภาคอื่นได้ด้วย เราจะโต 2-3 ปีข้างหน้า จะสร้างปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ เราทำตามกรอบของกฎหมาย สำคัญคือความโปร่งใสและถูกต้อง ถ้าไม่เช่นนั้นจะไม่เกิดความเชื่อมั่น ต่อจากนี้เราจะขับเคลื่อนด้วยแนวคิดที่ถูกต้อง”

ทั้งนี้ ในส่วนของรูปแบบแผนการตลาดนั้น บริษัทได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะต้องไม่มีความเสี่ยงที่จะนำไปสู่ธุรกิจที่ไม่ถูกต้อง บริษัทฯ จึงสร้างแผนที่สมบูรณ์แบบ ไม่โอเวอร์เปย์ บริษัทฯ มีศักยภาพสามารถจ่ายได้จริง

“แผนการตลาดเราได้รับคำชี้แนะว่าควรมีรหัสเดียวเท่านั้น เราจึงมีการปรับให้เหลือรหัสเดียว เราจึงดำเนินธุรกิจเพียง 1 รหัส ให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย ถ้านอกเหนือจากนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องไปพิจารณาว่าอย่างนั้นสามารถกระทำได้หรือไม่ แต่เราทำตามคำแนะนำเพื่อป้องกันไม่ให้เราถูกนำเป็นเครื่องมือในทางที่ไม่ถูกต้องในการทำธุรกิจ”

ส่วนผลกระทบต่อบริษัทหลังเปลี่ยนให้สมาชิกสามารถทำธุรกิจได้รหัสเดียว นายศรวัสย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติของการเปลี่ยนแปลง ย่อมมีคนที่ถูกใจและไม่ถูกใจ แต่อย่างไรก็ตามต้องมองที่ความถูกต้องเป็นหลัก ซึ่งในอนาคตระบบจะเป็นตัวกลั่นกรองสมาชิกที่มีศักยภาพที่พร้อมจะเติบโตไปกับบริษัท

“ผมว่าเป็นเรื่องปกติที่มีการย้ายค่าย หลายคนเข้าสู่ธุรกิจด้วยเหตุผลไม่เหมือนกัน แต่เรามองที่ความมั่นคงเป็นหลัก ความถูกต้อง เหล่านี้คนที่เราจะสร้างจริงๆ พวกเขาคือเพชรแท้ที่เราเจียระไนแล้ว คนมากมายที่หลั่งไหลเข้ามา เราไม่รู้ว่าใครคือเพชร แต่เมื่อวันหนึ่งระบบจะกลั่นกรอง คนที่อยู่ คือคนที่มองความมั่นคงเป็นหลัก วันนี้เรามีแม่ทัพที่มองธุรกิจอย่างถูกต้อง มองความมั่นคง และมีศักยภาพสูงเป็นมนุษย์เงินล้านกว่า 50 คน” นายศรวัสย์ กล่าว

วันที่ 27/03/2557 เวลา 6:44 น.