บางกอก มอเตอร์โชว์ 2014

บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับ ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย, สมาคมวิศวกรรมยานยนต์ไทย, สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตลอดจนบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ กำหนดจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2014 ขึ้นระหว่างวันที่ 24 มีนาคม-6 เมษายน 2557 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยวันที่ 24 มีนาคม เป็นวันของวีไอพี และวันที่ 25 มีนาคม พิธีเปิดงาน

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และประธานจัดงาน กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองกับผลพวงของยอดขายรถยนต์ที่ลดลงกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ในปีที่ผ่านมา รวมถึงยอดขายที่มีแนวโน้มลงลดในปีนี้ ทำให้งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ กลายเป็นเป้าหมายแห่งคำถามว่า จะช่วยกระตุ้นให้ยอดขายรถยนต์กลับสู่สภาวะปกติได้หรือไม่ และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์การเมืองไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย ไม่เว้นแม้แต่ตลาดรถยนต์ แต่ก็ยังพอมีแนวโน้มที่ดีขึ้นกับการคืนพื้นที่ให้เข้าสู่สภาวะปกติ น่าจะส่งผลดีกับงานมอเตอร์โชว์ และมีแนวโน้มว่าเมื่อถึงช่วงการจัดงานสถานการณ์อาจจะเข้าสู่สภาวะปกติแล้วก็ได้

การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ตั้งแต่เดือนแรกของปีนี้ อย่างโตโยต้า อัลติส ใหม่ หรือฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ที่เปลี่ยนแปลงเหมือนก้าวกระโดดนั้น จะช่วยปลุกตลาดได้ไม่มากก็น้อย เพราะทั้งโตโยต้าและฮอนด้า เป็นรถยนต์เบอร์ต้นๆ ของตลาดเมืองไทย

เมื่อโตโยต้าและฮอนด้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่โดยไม่สนใจกับสถานการณ์การเมือง แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตลาดรถยนต์ เพียงแต่ว่าในระหว่างเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์นั้น โดยปกติแล้วตลาดรถยนต์มักจะเป็นตลาดทรงๆ อยู่แล้ว ด้วยเพราะความรู้สึกถึงการอยากรอให้ถึงงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งเชื่อว่าแต่ละบริษัทจะมีข้อเสนอที่น่าสนใจกว่าปกติ รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย

อีกองค์ประกอบหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ พื้นที่ในงานถูกจับจองเต็มเหมือนเช่นทุกปี และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะมีบริษัทใดถอนตัวออกไป มีแต่การเตรียมงานที่แต่ละค่ายยังเก็บเป็นความลับ แต่ที่รั่วออกมาก็คือการเปิดตัวของ นิสสัน ลิวิน่า ใหม่, พัลซ่าร์ เทอร์โบ และจู๊คจ๊อยท์ รุ่นลิมิเต็ด , มาสด้า 3 ใหม่ สกายแอคทีฟ และฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต

นอกจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ แล้ว สิ่งหนึ่งที่เป็นภาพแห่งความเป็นงานมอเตอร์โชว์ที่แตกต่างกว่าทุกงานมอเตอร์โชว์ในโลก ก็คือ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมที่หลากหลายภายในงาน พริตตี้ของแต่ละบริษัทที่ต้องมีความรู้ด้านยนตรกรรมที่ต้องให้ความรู้ในแต่ละผลิตภัณฑ์แก่ผู้เข้ามาชมงาน ไม่ใช่เป็นแค่พริตตี้ที่ยืนคู่กับรถยนต์เท่านั้น เหล่านี้คือความแตกต่างและเป็นสีสันของงานอีกด้วย

ก่อนปิดท้าย ดร.ปราจิน ได้ให้ความสำคัญกับการเชิญ “สื่อต่างประเทศ” เข้าชมงานมอเตอร์โชว์ ให้เดินทางมาทำข่าวและดูงานในทุกๆปี เพื่อให้ได้รับรู้ถึงสถานการณ์ของตลาดรถยนต์เมืองไทยเติบโตไปในทิศทางใด สิ่งสำคัญยิ่งก็คือการพัฒนาสู่การเป็นงานมอเตอร์โชว์ที่จะต้องพัฒนาสู่ความเป็น “อาเซียน” ในอีก 2 ปีข้างหน้า พร้อมมั่นใจว่างานมอเตอร์โชว์แห่งประเทศไทย ด้วยฝีมือคนไทย แต่เทียบเท่าระดับโลก

ทางด้าน นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงาน กล่าวว่า หลายคนเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองเหมือนจะไม่มีจุดจบ แต่จากการย้ายสถานที่ชุมนุมไปรวมกันอยู่ที่สวนลุมพินี น่าจะเป็นบรรยากาศที่ดีขึ้น ถามว่ามีปัญหากับการจัดงานมั้ย คงยากที่จะปฏิเสธ แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มา เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขจนผ่านลุล่วงด้วยดี

สิ่งสำคัญ ผู้ร่วมงานยังไม่มีการถอนตัว ยังคงยืนยันเข้าร่วมงาน รวมถึงการเดินทางเข้าชมงานก็สามารถใช้ได้หลายเส้นทาง บริษัทรถยนต์หลายบริษัทก็มีแผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ กัน และที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ ก็มีทั้งโตโยต้าและฮอนด้า น่าจะสร้างความคึกคักให้กับงานได้อีกด้วย

คอนเซ็ปต์ของงานปีนี้คือ Beauty in the DRIVE หมายถึง นอกจากรถยนต์จะเป็นแฟชั่นแล้ว ยังมีองค์ประกอบแห่งความสวยงามอีกด้วย หากสังเกตให้ดีวันนี้การดีไซน์รถยนต์ให้ความสำคัญกับความสวยงามแห่งเส้นสาย ที่มีทั้งความสวยงามและเทคนิคแห่งยนตรกรรม รถยนต์จึงเป็นทั้งแฟชั่นและความสวยงามในหลากหลายแง่มุม

การดีไซน์บูธจัดแสดงของหลายบริษัท โดยเฉพาะบริษัทในแถบยุโรป อย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือบีเอ็มดับเบิลยู จะคงคอนเซ็ปต์เช่นเดียวกันกับงานในยุโรป จะเห็นความแตกต่างจากงานโชว์อื่นๆ ได้อย่างชัดเจน และยังมีพริตตี้ที่มีทั้งความสวยงามและความสามารถไม่เหมือนมอเตอร์โชว์ที่ไหนในโลก เป็นอีกความแตกต่างที่ชัดเจนยิ่งจากทุกแห่ง”

การออกแบบสนามทดลองขับ สำหรับงานนี้น่าจะใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ให้แต่ละบริษัทได้ร่วมทดสอบกว่า 35,000 ตารางเมตร เป็นสนามที่ได้มาตรฐาน และเป็นคนออกแบบเอง เพราะเคยผ่านการเรียนเซฟตี้ ไดร์ฟวิ่ง และเรซซิ่ง สคูล รวมถึงการได้จัดกิจกรรมการทดสอบให้กับหลายบริษัทมาแล้ว การออกแบบจัดกิจกรรมให้กับลูกค้าได้ทดลองขับ ทุกอย่างทีมงานดูแลอย่างใกล้ชิด สามารถเรียนรู้สมรรถนะของตัวรถได้ ซึ่งใช้หลักสูตรเป็นตัวกำหนด อยากให้ผู้เข้าชมงานที่สนใจสมรรถนะของรถยนต์แต่ละรุ่น ให้มาทดลองใช้บริการกันได้ภายในงาน

นี่คือ “มอเตอร์โชว์แห่งประเทศไทย” ที่เป็นแฟชั่นและความสวยงามแห่งเทคโนโลยียนตรกรรมอย่างแท้จริง

วันที่ 6/03/2557 เวลา 10:09 น.