เวที กปปส.

การชุมนุมโดยสันติ ของกลุ่ม กปปส. ปักหลักความมั่นคง ใครจะแบ่งแยกมิได้ อยู่ที่สวนลุมพินี วันนี้น่าจะคึกคักเป็นพิเศษกว่าความคึกคักที่เจนลูกตา ในวันปลายสัปดาห์ เพราะเวทีจะมีคอนเสิร์ตจัดพิเศษ เต็มๆ เป็นการเฉพาะ

พื้นที่สวนลุมพินี มีความกว้างใหญ่ไพศาล เพียงพอสำหรับกลุ่มผู้คน สมัยที่กองทัพของสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นขอเดินทัพผ่านเมืองไทยไปพม่าและอินเดียในปี 84 ก็ปักหลักตั้งค่ายทหารที่สวนลุม ซ้อมดาบซามูไรกันทุกวัน

“ลุงกำนัน” กับพวก รวมกลุ่มเวทีปิดกรุงเทพฯ เป็น “หนึ่งเดียว-แผ่นดินไทย” ที่ลุมพินีสถาน ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแห่งความสำเร็จของ กปปส. อยู่ด้วยความสมถะ สันติ เจียมเนื้อเจียมตัว มีอหิงสาบ้างตามแต่อารมณ์กำหนด

ลุมพินีสถาน มีพื้นที่เหลือเฟือ สำหรับการทำงานเพื่อแผ่นดินสำหรับลูกหลานในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการจัดการประชุม การจัดสรรแบ่งพื้นที่สำหรับมวลมหาประชาชน กิน-อยู่ การออกกำลังกาย การรักษาความปลอดภัย ดูจะเหมาะสมทุกด้าน

เมื่อการต่อสู้ยังเป็นเพียงความหวังว่า ไม่ช้าก็จะบรรลุชัย ได้สิ่งพึงประสงค์ตามความต้องการ การชุมนุมมวลมหาประชาชนจึงยังต้องการแรงสนับสนุนจากประชาชนผู้รักแผ่นดิน ต้องรักษาความนิยมชมชอบ เพื่อป้องกันความเบื่อหน่าย

ทั้งหมด จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับเหตุการณ์บนเวที อันได้แก่ การปราศรัยของผู้คนแต่ละคน ซึ่ง กปปส. มีจำนวนมาก ก่อนรวมตัวกันก็มีการแสดงวาทกรรมกันหลายเวที เมื่อมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว ก็แน่นอนว่า ผู้พูดมีเหลือเฟือในแต่ละคืน

คณะกรรมการ กปปส. คงต้องพิจารณาให้ความสำคัญ บนวิสัยทัศน์ ทำอย่างไรเพื่อเรียกร้องมวลมหาประชาชนมาเยี่ยมเวทีได้ทุกคืน

อุปสรรคของการพิจารณา เฟ้นตัวผู้ปราศรัย อาจอยู่ที่ความเกรงใจ เห็นแก่การเคียงบ่าเคียงไหล่ที่ร่วมอุดมการณ์เดียวกันมาแต่ต้น ซึ่งอาจได้รับการแก้ไขด้วยรูปแบบของการผ่อนปรน โดยไม่ลืมหลัก “พูดซ้ำซาก เป็นความเครียด”

ไม่สนุกสนาน และมีชีวิต เหมือนได้เข้ามาชมคอนเสิร์ตการกุศล ซึ่งมีชีวิต และสนุก โดยเสียเงินตามแต่จะมีให้ได้

ผมเชื่อว่า คณะกรรมการ กปปส. คงมีการหารือ จัดระเบียบการปราศรัยแข่งกับเวลาที่เหลือไม่มาก วางตัวผู้ปราศรัยปรับเปลี่ยนไปตามระดับของเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนหน้าตาอย่างไม่คาดคิด

สถานการณ์ทางการเมืองวันนี้ สมควรให้ใครขึ้นมาพูด หรือสมควรให้มวลมหาประชาชนได้รับฟังประเด็นใด หรือสมควรให้ได้เรียนรู้ในเรื่องใด เป็นการปูพื้นฐานโครงสร้าง การปฏิรูปประเทศไทยไปในตัว

การปราศรัยของ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล เมื่อคืนวันจันทร์เป็นตัวอย่าง ท่านพูดดีทุกครั้ง แม้คนฟังต้องใช้สมาธิสูง และต้องใช้สมองคิดตามการพูดการจาของท่านไปด้วย ซึ่งผมเข้าใจว่า ท่านพูดด้วยสไตล์เคารพความคิดของผู้ฟัง

ดร.สมเกียรติ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ท่านกล่าวถึง “ไทยกับอาเซียน” โดยเอาประสบการณ์ของท่านมาบรรยาย นับเป็นความรอบรู้ใหม่ที่เป็นประโยชน์กับมวลมหาประชาชน รวมถึงท้ายสุด ท่านก็พูดถึง คุณสาธิต เซกัล อย่างน่ารัก

อิติปิโสอย่างเดียวคงไม่พอ ได้ยินใครไม่รู้บอกว่า ประเทศนี้มีประชาชนพกปืน 10 ล้าน เห็นทีต้องใช้ ศีล-สมาธิ-ปัญญา สุดยอดอริยมรรคช่วยด้วยขอรับ “ลุงกำนัน”………………!!!!!

ไท ทองเค.

วันที่ 6/03/2557 เวลา 6:32 น.