ทอร์นาโดการเมืองถล่มไทย

ศก.เลวร้ายสุดติดลบ 0.5% หนี้ค้างพุ่ง

นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ ระบุ การเมืองสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจแล้ว 490,000 ล้านบาท ทั้งปีคาดว่าจะเสียหายกว่าล้านล้านบาท ห่วงการเติบโตติดลบ คาดหากกรณีเลวร้ายสุดเศรษฐกิจไทยติดลบ 0.5% ขณะที่เติบโตมากสุดก็ไม่เกิน 2.5% ด้านสภาพัฒน์เผยค่าใช้จ่ายและก่อหนี้ของคนไทยชะลอตัว เพราะกังวลเรื่องเศรษฐกิจ ขณะที่การผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิตเกิน 3 เดือนเพิ่มขึ้น 45.8% แม้ค่าจ้างแรงงานจะมากขึ้น

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป ประเมินผลพวงจากปัญหาการเมืองส่งผลให้เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกขยายตัวติดลบ และอาจติดลบต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 2 ทำให้ครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยโตเพียง 0.5% ถึงติดลบ 0.5% หรือไม่เติบโตเลย โดยกรณีดีที่สุดเศรษฐกิจไทยจะเติบโตเพียง 2.5% และกรณีเลวร้ายที่สุดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะติดลบ 0.5% และยังส่งผลให้ประเทศไทยต้องสูญเสียโอกาสจากการเป็นศูนย์กลางประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปี 2558

ทั้งนี้จากการประเมินขณะนี้ ปัจจัยการเมืองสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจการลงทุนและสูญเสียโอกาสเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 490,000 ล้านบาท และทั้งปีจะสูงนับ 1 ล้านล้านบาท ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจโลกขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน การส่งออกเป็นบวก แต่ภาคท่องเที่ยวไทยชะลอตัวลง รวมทั้งยังเป็นผลจากความล่าช้าของการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐและการได้รับเงินล่าช้าของชาวนาจากโครงการรับจำนำข้าวซ้ำเติมการชะลอของเศรษฐกิจ

ส่วนปัญหาชาวนาจะต้องบริหารจัดการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้สภาพคล่องมาชำระหนี้ให้ชาวนา สร้างความมั่นใจต่อระบบสถาบันการเงิน เพื่อปล่อยกู้หรือชำระเงินให้ชาวนาที่ถือใบประทวน พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายไม่เอาความเดือดร้อนของชาวนามาเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ในเกมทางการเมือง

ด้านสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ รายงานภาวะสังคมในปี 2556 โดยระบุถึงหนี้ภาคครัวเรือนว่า แนวโน้มการใช้จ่ายและการก่อหนี้ครัวเรือนในครึ่งปีหลังชะลอตัว โดยการใช้จ่ายภาคเอกชนลดลง 2.9% สอดคล้องกับยอดคงค้างสินเชื่อเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ธนาคารพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่อง แต่ยอดหนี้เสียเพิ่มขึ้น 26.6% และยอดค้างชำระบัตรเครดิตเกิน 3 เดือนขึ้นไปเพิ่มขึ้น 45.8% แต่ยังถือเป็นสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับสินเชื่อรวม แต่เป็นเครื่องชี้ความสามารถในการชำระหนี้ครัวเรือนลดลง

ขณะที่แนวโน้มปีนี้การก่อหนี้หรือชำระหนี้เดิมจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจ และการเพิ่มขึ้นของค่าจ้าง ซึ่งแนวโน้มการจ้างงานในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 3-4% เหตุจากการส่งออกขยายตัวดีขึ้น แต่มีปัจจัยเสี่ยงคือ ความล่าช้าการลงทุนโครงการรัฐ ความเชื่อมั่นทางธุรกิจและผู้บริโภค และเหตุชุมนุมทางการเมือง ส่วนปีที่แล้วการจ้างงานลดลง 0.05% อัตราว่างงาน 0.72% แต่ค่าจ้างเพิ่มขึ้น 7.8%

 

 

วันที่ 25/02/2557 เวลา 7:00 น.

uasean

 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ banmuang.co.th ดูทั้งหมด

183

views
Credit : banmuang.co.th


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน