อินโดนีเซีย (5-11 ก.พ. 57)
คณะนายทหารอินโดนีเซียถอนตัวจากงานแสดงการบินที่สิงคโปร์
คณะผู้นำทหารอินโดนีเซียที่นำโดยพลโท สยาฟรี สยัมซุดดิน (Sjafrie Sjamsoeddin) ประกาศถอนตัวจากงานแสดงการบินที่สิงคโปร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อประท้วงต่อกรณีที่สิงคโปร์ยกเลิกบัตรเชิญผู้แทนกองทัพอินโดนีเซียกว่า 100 คน หลังสิงคโปร์ไม่พอใจที่อินโดนีเซียตั้งชื่อเรือรบของตนตามชื่อสมาชิกหน่วยรบพิเศษที่เคยก่อเหตุโจมตีสิงคโปร์เมื่อปี 2508
แถลงการณ์กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ระบุว่า คณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านกลาโหมอินโดนีเซียแจ้งถอนตัวจากการร่วมงานแสดงการบินในสิงคโปร์โดยไม่ได้ให้เหตุผล ท่ามกลางความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นจากกรณีที่อินโดนีเซียตัดสินใจตั้งชื่อเรือรบตามชื่อสมาชิกหน่วยรบเฉพาะกิจที่ก่อเหตุระเบิดนองเลือดในสิงคโปร์เมื่อปี 2508
ก่อนหน้านี้ สิงคโปร์ร้องเรียนเกี่ยวกับการที่อินโดนีเซียตั้งชื่อเรือรบว่า เคอาร์ไอ อุสมาน ฮารุน ตามชื่อของนายอุสมาน ฮาจิ โมฮัมเหม็ด อาลี และนายฮารุน ซาอีด สมาชิกหน่วยรบพิเศษอินโดนีเซียที่ถูกประหารชีวิตในสิงคโปร์จากเหตุลอบวางระเบิดอาคาร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บอีก 33 คน เมื่อห้าสิบปีก่อน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในขณะที่อินโดนีเซีย ภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีซูการ์โน กำลังดำเนินนโยบายเผชิญหน้ากับประเทศเพื่อนบ้าน (Konfrontasi) อย่างจริงจัง
แหล่งที่มา: cnn.com และ mcot.net
อินโดนีเซียเปิดเผยความคืบหน้าแผนต่อต้านคอร์รัปชั่น
นายบาสรีฟ อารีฟ (Basrief Arief) รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า แผนการต่อต้านคอร์รัปชั่นของอินโดนีเซียคืบหน้าอย่างก้าวกระโดด หลังจากปีที่ผ่านมา ทางการอินโดนีเซียสามารถจับกุมคดีคอรัปชั่นได้ 1,696 คดี เพิ่มขึ้นจากจำนวน 833 คดีเมื่อ 2 ปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการทุจริตในคดีเกี่ยวกับภาษี รวมทั้งภาษีศุลกากร
ด้านสำนักงานสถิติส่วนกลางอินโดนีเซีย เปิดตัวโครงการต่อต้านการคอรัปชั่นโครงการใหม่ชื่อว่า Integrity Zone ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานของรัฐบาลทุกหน่วยงานปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ 20 ข้อตามที่ระบุไว้ในกฏหมาย เช่นการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน และจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ความรู้เรื่องการต่อต้านคอรัปชั่น
หัวหน้าสำนักงานสถิติส่วนกลางอินโดนีเซีย นายซูร์ยามิน (Suryamin) กล่าวว่า กฏเกณฑ์ 20 ข้อที่กำหนดขึ้นนี้ คือเครื่องมือที่ใช้ในการรับรองว่าหน่วยงานของรัฐบาลจะทำงานอย่างโปร่งใส ไม่มีการบิดเบือนข้อมูลต่อประชาชน และจะมีการลงโทษสถานหนักหากผู้ใดทำเช่นนั้น ถึงขั้นอาจไล่ออกจากตำแหน่ง และจะมอบสถานะพิเศษเป็นรางวัลแก่หน่วยงานที่ปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ 20 ข้ออย่างเคร่งครัด
แหล่งที่มา: voathai.com