ส่งออกปี 56 ดิ่งเหวติดลบรอบ 4 ปี
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาพรวมการส่งออกของไทยในเดือน ธ.ค.56 ว่า กลับมาขยายตัวอีกครั้ง หลังหดตัวต่อเนื่องมา 3 เดือน มียอดส่งออกในเดือน ธ.ค.56 รวม 18,436.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ภาพรวมส่งออกตลอดปี 2556 มียอดรวม 228,529.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.3% ติดลบครั้งแรกในรอบ 4 ปี และเพื่อปรับตัว มาตรการหนึ่งที่ดำเนินการคือ ขณะนี้เตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยจะต้องให้ภาคส่งออกของไทยเข้มแข็งมากขึ้น โดยผลักดันวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อมเข้าสู่ตลาดอาเซียนมากขึ้น และพยายามพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคที่เป็นฐานการผลิตและส่งออก เป็นเมือง AEC โดยขณะนี้อยู่ในกระบวนการคัดเลือกจังหวัดสำคัญๆ และจังหวัดที่ยังไม่เข้มแข็งด้วย
ด้านการนำเข้ามียอดรวม 250,722.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.29% การส่งออกติดลบน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซียและอินโดนีเซีย ที่ติดลบมากกว่าที่ติดลบ 8.96% และติดลบ 6% ตามลำดับ ขณะที่เวียดนาม ส่งออกโต 16.47%
ส่วนแนวโน้มการส่งออกในปี 2557 นี้ คาดว่า จีดีพีไทยโต 3-5% เท่ากับตัวเลขเฉลี่ยประเทศอาเซียน ที่โต 5% ตลาดหลักในจีน อินเดีย อาเซียน และนอกเอเชีย คือ สหรัฐ โต 2.8% ยุโรป บวก 1% ญี่ปุ่น ปี 57 คงใกล้เคียงปี 56
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยน ปี 57 คาดว่าแนวโน้มค่าเงินบาทจะอยู่ในภาวะอ่อนค่าลงเนื่องจากสหรัฐชัดเจนมากขึ้นถึงการลดมาตรการ QE คาดว่าส่งออกทั้งปี 57 จะโต 5% เป็นการคาดการณ์การส่งออกที่เพิ่มขึ้นในระดับกลาง ส่วนระดับดีสุดจะขยายตัวได้ตัวเลข 2 หลัก ส่วนกรณีเลวร้ายจะติดลบ ทั้งนี้ เป็นการคาดการณ์ที่ใช้หลักเศรษฐศาสตร์ล้วนๆ ไม่ได้นำปัจจัยการเมืองเข้ามาคำนวณด้วย ส่วนปัญหาทางการเมืองหากยังคงมีอยู่ต่อไปจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวมทั้งหมด
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ ทางกรมฯ กำลังติดตามสถานการณ์การนำเข้าวัตถุดิบในการผลิตสินค้าต่างๆ หลังจากที่เงินบาทอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้อ่อนค่ามาอยู่ที่เฉลี่ย 32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าหลายรายการ เช่น กลุ่มเหล็ก อะลูมิเนียม กระป๋อง ทองแดงสำหรับผลิตสายไฟฟ้า ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช และนมผง เพราะสินค้าดังกล่าวต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการปรับราคาคงจะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เพราะผู้ผลิตยังมีการแข่งขันสูง ขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคไม่ได้เพิ่มขึ้น โอกาสในการปรับขึ้นราคาสินค้าจึงทำได้ยาก
วันที่ 1/02/2557 เวลา 11:29 น.