แนะเอสเอ็มอีไทยปรับตัวรับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง
สำนักข่าวไทย 29 ต.ค.-สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจัดสัมมนา "Future Foresight Forum 2020 : Unveil SMEs in Mega Trends" ก้าวสู่ทศวรรษ 2020 : เจาะกลยุทธ์ โอกาสทางธุรกิจแห่งอนาคต” โดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ปาฐกถาพิเศษ "A New Face of Thailand Future" ว่า ภายใต้การเปลี่ยนแปลงเชิงพลวัตของเศรษฐกิจโลกจากการข้อตกลงทางการค้าเสรี รวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่จะทำให้ตลาดภูมิภาคใหญ่ขึ้นด้วยจำนวนประชากรที่มากถึง 540 ล้านคน
ดังนั้น วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ต้องปรับตัวรับกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง 6 กระแสสำคัญที่เป็น Mega Trends ได้แก่ ธุรกิจเพื่อวิถีชีวิตคนเมืองที่เปลี่ยนไป อาทิ 1.ขณะนี้มีการใช้สมาร์ทโฟนในการทำธุรกรรมต่าง ๆ นอกเหนือจากการสื่อสาร 2.ธุรกิจต้องปรับตัวสู่การเป็นเศรษฐกิจสีเขียว โดยภาคอุตสาหกรรมจะต้องหันมาผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพราะหากไม่จะไม่รับการยอมรับหรือไม่อาจขายสินค้าได้ 3.ธุรกิจเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมสูงอายุ ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าที่ตอบสนองกับการที่ประชากรของแต่ละประเทศมีแนวโน้มอายุเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ซึ่งต้องการสินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้น 4.ธุรกิจที่ตอบสนองอำนาจซื้อใหม่ของผู้หญิง 5.ธุรกิจในโลกดิจิทัล และ 6.ธุรกิจเกี่ยวกับระบบขนส่งความเร็วสูงและโลจิสติกส์ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลไทยมีนโยบายที่จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมมูลค่า 2 ล้านล้านบาท ซึ่งโครงการนี้จะมีส่วนช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและช่วยให้นักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น สำหรับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงจะช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้นประหยัดเวลาสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนในปัจจุบัน
นายสุวัจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความแข็งแกร่งของเอสเอ็มอีไทยและการมีศักยภาพในการเป็นผู้ผลิตสินค้าเพียงพอที่จะอยู่ในห่วงโซ่อุปทาน หรือ Supply Chain ของอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นปัจจัยสำคัญช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติเข้ามาในไทย เห็นได้จากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ต่างชาติตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทย ทำให้ขณะนี้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตของภูมิภาค และเป็นผู้ผลิตรถยนต์ 1 ใน 10 อันดับแรกของโลก ดังนั้น การเร่งสร้างกรอบความคิดในการเป็นผู้ประกอบการให้กับประชาชนทุกภาคส่วนมีความสำคัญที่จะช่วยนำไปสู่การพัฒนาทรัพยากร ในพื้นที่มาพัฒนาสินค้าอุตสาหกรรมที่เป็นเอกลักษณ์จากวัฒนธรรมไทยได้ ซึ่งในที่สุดจะเป็นรากฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศได้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย