นายกฯ เรียกร้องรัฐ-เอกชนผนึกกำลังเตรียมพร้อมรับเออีซี
สำนักข่าวไทย 28 ต.ค.-ในงาน “อนาคตเศรษฐกิจไทยภายใต้ประชาคมอาเซียน” ของกระทรวงพาณิชย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลและภาคเอกชนผนึกกำลังร่วมกันเตรียมพร้อม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทำให้คนไทยกินดีอยู่ดี มีความเสมอภาคและเป็นธรรมรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยจะเร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การเข้าสู่เออีซี ในการพัฒนาโครงข่ายคมนาคม เชื่อมโยงการค้าการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน ล่าสุดรัฐบาลเตรียมจัดตั้ง Asean Unit ในทุกหน่วยงานราชการ พร้อมกับสนับสนุนธุรกิจไทยรวมทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ในแต่ละท้องถิ่น พัฒนาสินค้าและบริการให้มีมูลค่าเพิ่ม เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ด้านนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ประเทศไทยจะหยุดนิ่งการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนไม่ได้ เพราะหากเปรียบเทียบกับประเทศในกลุ่ม ไทยเสียเปรียบบรูไน พม่า มาเลเซีย ในการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจาก 3 ประเทศ แต่หากมองศักยภาพของไทย ถือว่าจะเป็นประตูการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว เพราะไทยค่อนข้างได้เปรียบกว่าประเทศอื่น ประกอบกับไทยมีแผนการลงทุนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ 2 ล้านล้านบาท จึงเชื่อว่า เมื่อการเป็นประชาคมอาเซียน ที่จะเริ่มวันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป ไทยจะต้องเตรียมความพร้อม รองรับประชากร 650 ล้านคน ที่หากเปรียบเทียบกับจีดีพีประเทศไทย ที่มีเพียง 12 ล้านล้านบาท แต่จีดีพีอาเซียนรวมกันจะมีมากถึง 72-73 ล้านล้านบาท ดังนั้น จึงเป็นโอกาสในการขยายการค้าและการลงทุนของไทยได้อีกมากในอนาคต ซึ่งขณะนี้การเตรียมความพร้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมเอสเอ็มอี อยู่ระหว่างการปรับปรุงประสิทธิภาพ และยังเชื่อว่า เมื่อเออีซีเกิดขึ้น เศรษฐกิจไทยจะมีอัตราการเติบโตอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังคิดว่า เมื่อเออีซีเกิดขึ้น การใช้แนวทางการจำนำหรือแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรต่าง ๆ จะต้องลดลง และต้องใช้มาตรการอย่างระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ไทยเองพยายามทำความเข้าใจต่อเกษตรกรทั่วประเทศ ที่จะชี้ให้เห็นว่าจะทำอย่างไรที่จะส่งเสริมให้สินค้าเกษตรบางรายการมีราคาสูงขึ้น โดยขณะนี้รัฐบาลเดินหน้าลดพื้นที่เพาะปลูก เช่น พื้นที่ปลูกข้าว และให้เกษตรกรหันมาปลูกอ้อย โดยสามารถลดพื้นที่ไปได้บางส่วนถึง 1 ล้านไร่แล้ว ซึ่งเชื่อว่าสินค้าเกษตรของไทยในหลายกลุ่มจะสามารถที่จะทำตลาดและมีราคาดีได้ในอนาคต
ทั้งนี้ การจัดงานสัมมนาและนิทรรศการ อนาคตเศรษฐกิจไทยภายใต้ประชาคมอาเซียนเพื่อสร้างความตระหนักรู้ และการเข้าถึงข้อมูลของสาธารณชน เกี่ยวกับการรวมตัวไปสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เกษตรกร ประชาชนทั่วไป นักเรียน นิสิต นักศึกษา ให้นำประโยชน์จาก AEC ไปใช้ในการต่อยอดการทำมาหากิน รวมทั้งข้าราชการเพื่อให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างเหมาะสม โดยจะมีการจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน นี้ ณ บริเวณ ลานอเนกประสงค์ อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ.-สำนักข่าวไทย