ซีเรียตอบรับข้อเสนอรัสเซีย ส่งมอบ'อาวุธเคมี'ให้นานาชาติ
วาลิด อัล-มูอัลเลม
ซีเรียออกมาแสดงความยอมรับข้อเสนอของรัสเซีย ซึ่งขอให้ซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีทั้งหมด ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติแล้ว หลังจากมีการพูดคุยที่กรุงมอสโก...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ว่า หลังจากรัสเซียยื่นข้อเสนอให้ซีเรียยอมส่งมอบอาวุธเคมีทั้งหมด ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติ ในการพบปะหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศที่กรุงมอสโกเมื่อวันจันทร์ ล่าสุด รัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ออกมาระบุว่า พวกเขายอมรับข้อเสนอนี้
เซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าได้ยื่นข้อเสนอนี้แก่ วาลิด อัล-มูอัลเลม รมว.ต่างประเทศแห่งซีเรียในการพบปะหารือที่กรุงมอสโก และว่ารัสเซียหวังจะได้รับคำตอบในด้านบวกและรวดเร็วจากซีเรีย โดยหากซีเรียปล่อยให้นานาชาติเข้าควบคุมอาวุะเคมี ก็เป็นไปได้ที่จะหลีกเลี่ยงการโจมตีจากสหรัฐฯ
ในเวลาต่อมา นายมูอัลเลมได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ซีเรียยอมรับข้อเสนอของรัสเซีย "ผมขอยืนยันว่า สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย ยอมรับความคิดของรัสเซีย ซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจาก ความห่วงกังวลต่อชีวิตของพลเมืองซีเรีย และความมั่นคงของประเทศของเรา และยังเป็นแรงบรรดาลใจจากสติปัญญาแห่งความเป็นผู้นำรัสเซีย ซึ่งพยายามจะป้องกันไม่ให้อเมริกันรุกรานประชาชนของเรา" อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดอย่างชัดแจ้งว่าซีเรียจะทำตามข้อเสนอนี้
ก่อนหน้านี้ จอห์น เคอร์รี รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ถูกนักข่าวในกรุงลอนดอนถามว่า มีสิ่งใดที่รัฐบาลอัสซาดสามารถทำได้เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีจากสหรัฐฯหรือไม่ โดยเคอร์รีตอบว่า "แน่นอน เขา(อัสซาด)ควรส่งมอบอาวุธเคมีทั้งหมดให้กับประชาคมนานาชาติภายในสัปดาห์หน้า แต่เขาจะไม่ทำอย่างนั้น และเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น"
อย่างไรก็ดี รัสเซียซึ่งต่อต้านการใช้กำลังทหารกับซีเรีย ดูเหมือนจะเอาจริงกับเรื่องนี้ โดยนายลาฟรอฟนอกจากเรียกร้องให้ซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีทั้งหมด ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติ ยังเรียกร้องให้ซีเรียทำให้อาวุธเหล่านั้น และเข้าร่วมเป็นสมาชิก องค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู)
นักวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ข้อเสนอของรัสเซียดูเหมือนจะมีเป้าหมาย ทำให้สหรัฐฯตกอยู่ภายใต้ความกดดัน และแสดงให้เห็นว่า รัสเซียมีความกังวลเรื่องอาวุธเคมีอย่างแท้จริง และวิธีตอบโต้เหตุการณ์เมื่อ 2 ส.ค.ไม่ได้มีเพียงการใช้กำลังทหารเท่านั้น