ทีมสืบสวนUNชี้ กบฏซีเรียใช้แก๊ส 'ซาริน'
จากการสืบสวนเบื้องต้นของคณะกรรมการสืบสวนของหน่วยงานในองค์การสหประชาชาติ พบว่า ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ใช้สารซาริน ซึ่งมีพิษต่อระบบประสาทในเหตุสงครามกลางเมือง...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ว่า คาร์ลา เดล ปอนเต หนึ่งในคณะกรรมการสืบสวนของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เผยผลการสืบสวนเบื้องต้น พบว่า ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีจำพวกสารซาริน แต่ย้ำว่าการสืบสวนยังห่างไกลจากคำว่าเสร็จสิ้น
เดล ปอนเต เปิดเผยผ่านการให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุของสวิตเซอร์แลนด์เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เธอระบุว่า จากหลักฐานที่เรารวบรวมมา ฝ่ายกบฏในซีเรียใช้อาวุธเคมีจำพวกสารซาริน แต่ทีมสืบสวนยังต้องสืบสวนอย่างเจาะลึกยิ่งขึ้น เพื่อยืนยันความถูกต้องและยืนยันข้อสรุปผ่านคำให้การของพยาน แต่จากหลักฐานที่เราพบ ณ ขณะนี้ บ่งชี้ว่าฝ่ายต่อต้านรัฐบาลใช้สารซาริน
เธอยังเผยอีกว่า คณะกรรมการสืบสวนมีกำหนดยื่นข้อมูลล่าสุดแก่ยูเอ็นเอชซีอาร์ในเดือน มิ.ย. ซึ่งจนกว่าจะถึงตอนนั้น อาจมีการพบหลักฐานว่ากองทัพฝ่ายรัฐบาลเองก็ใช้อาวุธเคมีชนิดนี้ดังที่หลายฝ่ายสงสัย
ทั้งนี้ ซารินเป็นสารพิษที่ส่งผลต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง คิดค้นขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ของกองทัพนาซีในยุคปี 1930 เพื่อใช้เป็นยาฆ่าแมลง ก่อนจะถูกใช้เป็นอาวุธเคมีในการบุกหมู่บ้านชาวเคิร์ดทางเหนือของอิรักในปี 1988 และเหตุก่อการร้ายในญี่ปุ่น 2 ครั้งในช่วงปี 1990
จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) แก๊สซารินจะเข้าสู่ร่างกายด้วยการสูดดมหรือซึมเข้าสู่ผิวหนัง และทำให้ถึงตายด้วยการทำลายระบบประสาท ผู้ที่ได้รับพิษจะมีอาการรุนแรงขึ้นตามลำดับ ตั้งแต่คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ประสิทธิภาพการมองเห็นลดลง กล้ามเนื้อกระตุก หยุดหายใจ หมดสติและเสียชีวิตในที่สุด