ต่างชาติสนใจใช้ไทยเป็นฐานลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ ขยายธุรกิจไปตลาดอาเซียน
กรุงเทพฯ 23 ก.ค. - นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงการส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชน์ เพื่อขยายธุรกิจในตลาดอาเซียน ว่า การเปิดเสรีทางการค้าภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558 คาดว่าต่างชาติสนใจใช้ประเทศไทยเป็นฐานการลงทุนด้านระบบแฟรนไชส์เพื่อขยายธุรกิจนี้ในตลาดอาเซียน โดยธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับแรกจาก 18 ประเภทของประเทศไทย ได้แก่ ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม/เบเกอรี่ เครื่องใช้และเครื่องประดับ ซึ่งผู้ลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นประเทศในแถบเอเชีย ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และจีน จากทิศทางดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าตลาดแฟรนไชส์ในประเทศไทยมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ธุรกิจแฟรนไชส์เป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถสร้างธุรกิจของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) ให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว และเป็นธุรกิจที่มีการขยายตัวอย่างมีระบบ และยังสามารถสร้างรายได้ให้เจ้าของแฟรนไชส์ได้เป็นอย่างดี ขณะที่สินค้าและบริการจากประเทศไทยได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักแพร่หลายในตลาดอาเซียน ดังนั้น การทำตลาดผ่านคู่ค้าในต่างประเทศ จึงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ผู้ประกอบธุรกิจควรนำกลยุทธ์การแข่งขันมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจของตน การสร้างความแตกต่างจะทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคไม่หายไปจากตลาดและส่งผลถึงการขยายตัวได้เป็นอย่างดี
สำหรับแฟรนไชส์แบรนด์ของไทยมีโอกาสในตลาดอาเซียนอย่างมาก อาทิ อินโดนีเซีย เนื่องจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องร้อยละ 6.3-6.5 ใน 2-3 ปีที่ผ่านมาชาวอินโดนีเซียระดับชนชั้นกลางมีรายได้เพิ่มมากขึ้น กลุ่มสินค้าบริการที่มีศักยภาพ เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์การศึกษา สปา และร้านเสริมสวยและ ความงาม เป็นต้น แฟรนไชส์ไทยที่เข้ามายังตลาดอินโดนีเซียแล้วในกลุ่มร้านอาหารและร้านกาแฟ เช่น Coca Suki, Mango Tree, Black Canyon, Coffee World และ Thai Express สำหรับสินค้ากลุ่มสินค้าอื่น เช่น ผลิตภัณฑ์สปา Harnn&Tharn, เสื้อผ้าเด็ก AIIZ เครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น Ocean Glass และ Zebra เป็นต้น
นอกจากนี้ การขยายธุรกิจประเภทแฟรนไชส์ไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียนมีทั้งความง่ายและความยาก กรณีบางประเทศ เช่น ลาว พม่า กัมพูชา สินค้าไทยเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอยู่แล้ว ดังนั้น การเปิดตัวธุรกิจประเภทแฟรนไชส์ของไทยจะทำได้ง่ายกว่าในประเทศอื่น ๆ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการวางแผนทางการตลาดของผู้ซื้อสิทธิ์ที่จะนำจุดเด่นและจุดขายของสินค้าให้เข้าถึงรสนิยมผู้บริโภคในตลาดนั้น ๆ ส่วนแนวโน้มปีนี้ คาดว่าจะมีนักลงทุนเพิ่มขึ้นในธุรกิจแฟรนไชส์ร้อยละ 30 และมีนักลงทุนที่สนใจระบบแฟรนไชส์ที่มีความพร้อมและสนใจลงทุนระบบแฟรนไชส์ไม่น้อยกว่า 40,000 ราย โดยในภาพรวมธุรกิจแฟรนไชส์มีโอกาสเติบโตได้ถึงร้อยละ 20-30 และอาจส่งผลให้ทั้งจํานวนและประเภทธุรกิจมีการพัฒนาเพิ่มขึ้น ในปี 2555 ธุรกิจแฟรนไชส์มีมูลค่าธุรกิจหมุนเวียนอยู่ที่ประมาณ 168,000 ล้านบาท โดยหัวใจสำคัญของการสร้างธุรกิจแฟรนไชส์เริ่มจากการทำร้านต้นแบบนักธุรกิจต้องเข้าใจในรูปแบบที่มีความเป็นพิเศษของธุรกิจแฟรนไชส์ ดังนั้น จุดสําคัญของความสําเร็จ จึงอยู่ที่การทําความเข้าใจและการคิดอย่างถี่ถ้วน จึงจะส่งผลให้ธุรกิจแฟรนไชส์สามารถวางรากฐานในการพัฒนาได้ดี.-สำนักข่าวไทย