ไทยจับมืออาเซียน คุมเข้มการค้าสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
กรุงเทพฯ 1 มิ.ย.- นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 3-5 มิ.ย.นี้ ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าและพันธุ์พืชแห่งภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ 8 ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานทั้งไทย และอาเซียน จำนวน 150 คน จะมาประชุมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับความรู้และประสบการณ์ในการป้องกันคุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพราะการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ในปี 2558 อาเซียนจะมีประชากรรวมกันถึง 600 ล้านคน อาจจะเป็นประเด็นปัญหาที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจเกี่ยวกับการนำเข้า หรือลักลอบ ทั้งสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดังนั้น ต้องดำเนินการให้ชัดเจน ซึ่งอาเซียนต้องประชุมวางกรอบดูแลต่อไป และเชื่อว่าการประชุมครั้งนี้จะนำไปปฏิบัติได้ในอนาคต
นายธีรภัทร กล่าวว่า หากดูสถิติการลักลอบหรือจำหน่ายสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทั้งในและต่างประเทศ ยังมีอยู่ในปริมาณที่สูง โดยข้อมูลในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2555 - 31 พ.ค. 2556 มีการดำเนินคดีผู้กระทำผิด ลักลอบ จำหน่าย มีไว้ครอบครอง มากกว่า 300 คดี มีทั้งสัตว์สงวนและคุ้มครองมากกว่า 7,000 รายการ เช่น นก เต่า ลิง เสือ และอื่น ๆ คิดเป็นมูลค่าของหลายสิบล้านบาท ดังนั้น จากการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส ) น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ไปดำเนินการจัดทำแผนการดูแลคุ้มครอง รวมทั้งรณรงค์ให้คนในประเทศตระหนักในการดูแลสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การดูแลคุ้มครองที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับความต้องการของประชาชนที่อยากจะได้ โดยเห็นได้ชัดแม้ว่าจะมีการปราบปรามต่อเนื่อง แต่มีการลักลอบจำหน่ายสัตว์ป่าต่อเนื่อง โดยพื้นที่ที่มีการจำหน่ายมาก คือที่ตลาดนัดจตุจักร ตลาดสันติบุรี ตลาดไท เป็นต้น ซึ่งหากผู้ซื้อไม่มีความต้องการ ก็เชื่อว่าการลักลอบจำหน่ายสัตว์ป่าจะลดน้อยลง และที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดหลายราย หากเป็นสัตว์สงวน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 50,000 บาท หรือโทษทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นสัตวคุ้มครอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับ 40,000 บาท หรือโทษทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เปิดโอกาสให้ประชาชน เป็นพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่า หลังจากมีการจับกุมการลักลอบค้าสัตว์ป่า และมีสัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ระหว่างคดีรอการพิจารณา ประชาชนที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่สายด่วน 1362
นายธีรภัทร กล่าวด้วยว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้รับคำสั่งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ประกาศปิดอุทยานในเขตสัตว์ป่าและพันธุ์พืชบางพื้นที่ เพราะเข้าสู่ฤดูฝน อาจทำให้ถนนไม่สะดวกต่อการท่องเที่ยว และเกิดอันตรายได้ รวมทั้งพื้นที่ที่มีโครงการปิดเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศน์ หรือบางพื้นที่ติดทะเล อาจจะมีมรสุมเข้า แต่ลักษณะการปิดอาจจะไม่ได้ปิดทั้งหมด แต่จะปิดเฉพาะพื้นที่อันตราย ขอให้นักท่องเที่ยวตรวจสอบข้อมูลจากกรมฯ ก่อนเดินทาง.-สำนักข่าวไทย