'ร.ร.บ้านกระเพรา'เล็กแต่สร้างเด็กสู่อาเซียน
'ร.ร.บ้านกระเพรา'เล็กแต่สร้างเด็กสู่อาเซียน
'ร.ร.บ้านกระเพรา'เล็กแต่สร้างเด็กสู่อาเซียน : โดย...หทัยรัตน์ ดีประเสริฐ "ครู คือความหวังของชาติ มุ่งสร้างเด็กดี เด็กฉลาด ชาติพัฒนา" เป็นป้ายข้อความที่ ผอ.ชัยชนะ ชุนเกาะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกระเพรา ติดไว้ในโรงเรียน แม้จะเป็นโรงเรียนขนาดเล็กในชุมชนหมู่ 10 ต.เมืองปราสาท อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มีเด็ก 42 คน และครู 4 คน แต่มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนเพื่อเข้าสู่อาเซียน มาตลอดระยะเวลา 5 ปี "เราเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีครูไม่ครบชั้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีนโยบายยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก และมีกระแสต่อต้านกันแรง สุดท้ายก็ไม่ยุบ เด็ก ป.4-6 พาไปเรียนร่วมกับโรงเรียนใหญ่ๆ ซึ่งดูเหมือนจะดี แต่ 1 ปีผ่านไปก็ไปเรียนร่วมกับโรงเรียนขนาดเล็กด้วยกันเอง ซึ่งเด็กมีความสุขกว่าไปเรียนร่วมกับโรงเรียนขนาดใหญ่ และหางบประมาณจากชุมชนมาซื้อสื่อ และอุปกรณ์การเรียนการสอนเอง" ผอ.ชัยชนะ เล่า ผอ.ชัยชนะ อธิบายว่างบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จ่ายเป็นรายหัว ในหนึ่งเทอมจะจ่าย 2 ครั้ง เฉลี่ยต่อหัวประมาณ 1,200 บาท นำมาจัดสรรหลายเรื่อง ต้องหาเงินจากการจัดตั้งผ้าป่าการศึกษาจากชุมชน ซึ่งได้เงินมาประมาณ 4 แสนบาท นำมาซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอน มีซื้อคอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง ซื้อสื่อ ซื้อโปรเจกเตอร์ รวมถึงนำไปจ้างครูสอนภาษาไทยมาเพิ่มอีก 1 คน เพื่อให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีคุณภาพ ตั้งเป้าว่าคะแนนโอเน็ตปีนี้จะต้องสูงกว่าปีที่แล้ว ปัจจุบันโรงเรียนมีคอมพิวเตอร์สำหรับการเรียนการสอนจำนวน 5 เครื่อง มีสื่อการสอนเข้ามาช่วยเสริม หนึ่งในนั้นคือ โปรแกรมสอนภาษาในรูปแบบมัลติมีเดีย อิงลิช ดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งผู้เรียนจะได้ฝึกทักษะการพูด การใช้คำศัพท์ ทำแบบทดสอบพร้อมคำเฉลยผ่านโปรแกรมดังกล่าวให้ความสำคัญกับการสอนนอกชั้นเรียน พาไปติวกับโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาใกล้เคียงด้วย "หลังจากไปติวกับโรงเรียนบ้านจันอัดแล้ว พอกลับมาที่โรงเรียน จะมีโครงการสอนเสริมหลังเลิกเรียน ผมสอนภาษาอังกฤษ และสอนเสริมหลังเลิกเรียนด้วย เพราะวิชาภาษาอังกฤษ เป็นวิชาที่ผมถนัด สอนวันละ 1 ชั่วโมง มีเพลงภาษาอังกฤษเพื่อให้เด็กสนุก และจำได้แม่น มีโปรแกรมสอนภาษาเข้ามาช่วยสอน หรืออาจจะมีการดาวน์โหลดเอกสารจากอินเทอร์เน็ตบ้าง เอาข้อสอบมาช่วยติวให้เด็กบ้าง" ผอ.ชัยชนะ กล่าว ครูสามารถ กิ่งกุ่มกลาง" ครูวิชาการโรงเรียนมา 12 ปี บอกว่ากระทรวงศึกษาธิการ ควรจัดอุปกรณ์การเรียนการสอน การทดลองให้สอนคล้องกับสภาพของโรงเรียนและความต้องการแต่ละแห่ง ให้ครูนำไปประยุกต์ใช้กับในเรื่องการสอนได้ เช่นความต้องการครูของโรงเรียนขนาดเล็ก ไม่ควรทำงานแบบสื่อสารทางเดียว "น้องเมล" สิริยากร กอคูณกลาง อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 บอกว่า คุณครูที่นี่ทุ่มเท และเข้าถึงเด็กทุกคน โดยเฉพาะผู้อำนวยการที่จะลงมาช่วยสอนในรายวิชาภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ซึ่งมีวิธีการสอนที่สนุก เช่น มีเพลง และกิจกรรมต่างๆ เข้ามาช่วยสอน เช่นเดียวกับครูในรายวิชาอื่นๆ ที่จะใช้สื่อเข้ามาช่วยสอนอย่างหลาย ส่วน "น้องครีม" สิรินยา ทรัพย์โคกสูง เพื่อนร่วมชั้น บอกคล้ายๆ กันว่า แม้จะเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก และมีสื่อการเรียนการสอนที่ไม่มากเหมือนโรงเรียนอื่น แต่ครูทุกคนต่างทุ่มเทกับการสอนด้วยการสรรหาอุปกรณ์ รวมถึงสื่อการสอนเข้ามาช่วยสอนอย่างหลากหลาย นอกจากนั้น ยังมีโครงการติวหลังเลิกเรียน และสอนเสริมในวันเสาร์ให้แก่เด็ก โดยเฉพาะเด็ก ป.6 ด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าสู่สนามสอบโอเน็ตในอีกไม่กี่เดือนนี้ น้องครีม ยังบอกต่อไปอีกว่า โรงเรียนยังเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาอาเซียนในปี 2558 อีกด้วย ยกตัวอย่าง กิจกรรมทักทายหน้าเสาธง หรือถ้ามีนิทรรศการที่เกี่ยวกับอาเซียนตามโรงเรียนใหญ่ๆ ก็จะพาเด็กนักเรียนเข้าร่วม เพื่อจะได้ความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับอาเซียนมากขึ้น ....................... ('ร.ร.บ้านกระเพรา'เล็กแต่สร้างเด็กสู่อาเซียน : โดย...หทัยรัตน์ ดีประเสริฐ)เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ komchadluek ดูทั้งหมด
232
views
Credit : komchadluek
News