'ทนายแม้ว'อัด'เทือก'หยุดทำไทยเป็นคนป่วย

'นพดล'โพสต์เฟซบุ๊กร้อง'เลขาธิการกปปส.'หยุดทำไทย จากศูนย์กลางอาเซียนเป็นคนป่วยแห่งอาเซียน เหน็บ'สุเทพ'ก็ไม่เอาเลือกตั้ง แต่จะเอาเทือกตั้งอย่างเดียว

               18 ธ.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนพดล ปัทมะ ทนายความพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Noppadon Pattama" โดยระบุข้อความว่า

               คำแถลง นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ เรียกร้องนายสุเทพ หยุดทำไทย จากศูนย์กลางอาเซียนเป็นคนป่วยแห่งอาเซียน

                นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของนายสุเทพและพวกที่ดำเนินมากว่า 1 เดือน โดยไม่สนใจข้อเสนอจากฝ่ายใดทั้งสิ้น และยืนยันว่า บ้านนี้เมืองนี้ต้องทำตามที่นายสุเทพบอกบ้านเมืองจึงจะสงบ โดยไม่ฟังนักวิชาการ นักธุรกิจ กองทัพ และเสียงของรัฐบาลต่างประเทศที่เรียกร้องให้เดินหน้าสู่การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.57 แต่นายสุเทพก็ไม่เอาเลือกตั้ง แต่จะเอาเทือกตั้งอย่างเดียว และพยายามกดดันให้นายกฯลาออก กดดันนายกฯไม่พอ ยังมากดดันคนในครอบครัวชินวัตร และล่าสุดกดดันลูกชายนายกฯซึ่งเป็นเด็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ทางการเมือง ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

                ในขณะนี้ การไม่เคารพกติกา ไม่ยึดถือรัฐธรรมนูญเริ่มมีผลต่อความเชื่อมั่นของต่างชาติต่อประเทศไทย นักลงทุนเริ่มขายหุ้น นักท่องเที่ยวเริ่มลดจำนวนลง ทั้งๆ ที่เป็นช่วงไฮซีซั่น ธุรกิจและคนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบไม่ว่าเจ้าของกิจการ เกษตรกร พนักงานในสถานประกอบการ ซึ่งขณะนี้ความเสียหายนับแสนล้านแล้ว และอาจเสียหายมากกว่าการยึดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรในปี 2551 เสียอีก

               ”การยุบสภาทำให้โครงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศสะดุดลง ไม่ว่าจะเป็นระบบราง รถไฟความเร็วสูง โครงข่ายระบบขนส่ง ที่จะทำให้ประเทศไทยเชื่อมโยงเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ขณะนี้ประเทศสมาชิกอาเซียนอีก 9 ประเทศมีความกังวลต่อสถานการณ์ในไทยและอยากให้เราแก้ปัญหาตามวิถีทางประชาธิปไตยด้วยการเลือกตั้ง ตนเองเกรงว่าถ้า กปปส. ไม่ฟังคนอื่นและยังคงยืนยันเอาความคิดพวกตนเป็นใหญ่และคิดว่าตนเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ความขัดแย้งทางการเมืองจะทำลายโอกาสของประเทศไปเรื่อยๆ ตนจึงขอเรียกร้องให้นายสุเทพและพวกเคารพสิทธิของปวงชนชาวไทย 48 ล้านคนที่จะไปเลือกตั้งและหยุดทำให้ไทยที่ควรจะเป็นศูนย์กลางอาเซียนกลายเป็นคนป่วยแห่งอาเซียนได้แล้ว”

               18 ธันวาคม 2556