30ปีพันธุ์พืช-ผัก'ศรแดง'มุ่งศก.อาเซียน

                         การมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของสินค้าให้สอดรับกับสภาพตลาดและเป็นทางเลือกให้แก่เกษตรกรของเมล็ดพันธุ์พืช-ผักแบรนด์ "ศรแดง" ตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมาในนาม บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดเกษตรที่แตกต่างในทุกกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งเตรียมพร้อมรับมือการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ด้วยนำเสนอเมล็ดพืช-ผักสายพันธุ์ใหม่ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น

                         นายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไปบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด เปิดเผย ภายหลังนำทีมสื่อมวลชนลงพื้นที่เยี่ยมฟาร์มเลิศพันธุ์ สถานีวิจัยไซม่อน กรู๊ท ของบริษัท ที่ จ.เชียงใหม่ว่า ตลอดเวลา 30 ปี บริษัทได้พัฒนาสายพันธุ์พืชผัก เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่มเกษตรกร กลุ่มโรงงาน-ธุรกิจแปรรูปอาหาร และกลุ่มผู้บริโภค ร้านค้า-ซูเปอร์มาร์เก็ต ภายใต้แบรนด์ "ศรแดง" ที่ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ครองส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 38

                         "การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองกลุ่มเป้าหมายต่างๆ นั้น ในกลุ่มผู้บริโภคจะมุ่งเน้นพัฒนาความหลากหลายของเมล็ดพันธุ์ มีคุณภาพเพื่อการบริโภคที่ดี ทั้งรสชาติ สีสัน และมีคุณค่าทางอาหารสูง ขณะที่กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มโรงงาน-ธุรกิจอาหารแปรรูป จะมุ่งเน้นพัฒนาสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูง มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด และมีความต้านทานโรคเป็นสำคัญ" นายวิชัย แจง

                         พร้อมระบุว่า ตลอด 30 ปี เมล็ดพันธุ์ตราศรแดงได้มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเกษตรกรชาวไทย ได้มุ่งเน้นพัฒนาสายพันธุ์พืชผักให้ตอบโจทย์และแก้ปัญหาภาคการเกษตรให้ครอบคลุมมากที่สุดแล้ว ยังได้พัฒนาสายพันธุ์เพื่อเป็นทางเลือกของผู้บริโภคที่ปัจจุบันหันมาปลูกผักและผลไม้เพื่อไว้รับประทานเองในครัวเรือนมากขึ้น ด้วยมองว่าการปลูกด้วยตนเองจะได้ความสด สะอาด และปลอดภัยกว่า อีกทั้งยังเป็นงานอดิเรกที่สมาชิกในครอบครัวมีกิจกรรมดีๆ ทำร่วมกันได้

                         "อย่างที่เราได้ปรับปรุงพันธุ์มะระรูปหัวใจ เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่ ที่ลักษณะของมะระจะมีขนาดเล็กกะทัดรัด ซึ่งจะทำให้การนำไปทำเมนูอาหารนั้นสะดวกขึ้นและรับประทานได้หมดภายในมื้อเดียว" นายวิชัย แจง

                         สอดรับกับ ดร.ประเสริฐ ก้องเกียรติงาม ผู้จัดการทั่วไปและผู้จัดการฝ่ายวิจัย บริษัทฮอทิเจนเนติคส์ รีเสิร์ซ จำกัด ในฐานะหัวหน้าทีมวิจัยของอีสท์ เวสท์ ซีด บอกว่า ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนานั้นมุ่งเน้นขนาดที่กะทัดรัด สีสันจัดจ้าน เพื่อกลุ่มผู้บริโภค ร้านค้า-ซูเปอร์มาร์เก็ต อาทิ บวบมินิ แตงคากิ พริก 4 สี แตงกวาหอม มะเขือยาวขาว มะเขือเปราะไข่เต่า แฟงไร้แป้ง แตงแคนตาลูป ข้าวโพดข้าวเหนียว พริกยู่ยี่ ฯลฯ เพื่อกลุ่มเกษตรกร อาทิ ถั่วฝักยาวไร้ค้าง ดาวเรือง มะระจัน พันธุ์เขียวหยก 30 มะเขือยาวพันธุ์ท็อปกัน ฯลฯ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาเพื่ออุตสาหกรรมแปรรูป อาทิ มะเขือม่วง พริกเผ็ดมาก คะน้า กะเพรา โหระพา เป็นต้น

                         โดยเมล็ดพันธุ์ที่โดดเด่นและได้รับความนิยมจากกลุ่มเกษตรกรและภาคอุตสาหกรรมพืชผักเป็นอย่างมาก คือข้าวโพดข้าวเหนียว ที่มีขายในท้องตลาดทั่วประเทศ 85% ปลูกจากเมล็ดพันธุ์ของบริษัท เช่นเดียวกับ 60% ของพริกขี้หนูที่ขายในตลาดทั่วไทย คือ พริกขี้หนูพันธุ์ลูกผสม "ซูเปอร์ฮอต" ซึ่งนิยมใช้ในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร เช่น ซอสพริก น้ำพริกเผา เพื่อเป็นสินค้าส่งออก

                         อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 ที่จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้น นายวิชัย กล่าวเสริมว่า บริษัทได้เพิ่มศักยภาพในการพัฒนาสายพันธุ์พืชผักให้ตอบโจทย์และแก้ปัญหาให้ครอบคลุมมากที่สุด เพื่อการมีส่วนร่วมผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเมล็ดพันธุ์ของอาเซียน ตามแนวนโยบายของรัฐ ด้วยมั่นใจในความพร้องของบริษัท โดยเฉพาะศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีห้องปฏิบัติการทดสอบคุณภาพเมล็ดพันธุ์ภาคเอกชนรายแรกของไทย ที่ได้รับรองมาตรฐานสมาคมเมล็ดพันธุ์นานาชาติ (International Seed Testing Association : ISTA)

                         ทั้งนี้ ปี 2555 บริษัทมียอดจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ คิดเป็นปริมาณกว่า 1,800 ตัน จำหน่ายในประเทศร้อยละ 46 และส่งออกร้อยละ 54

-------------------------

(ทำมาหากิน : 30 ปี พันธุ์พืช-ผัก 'ศรแดง' ชูทานโรค-มุ่งศก.อาเซียน : โดย...ธานี กุลแพทย์)