“ยิ่งลักษณ์” กล่าวแถลงการณ์ถึงสถานการณ์การชุมนุม
วันนี้ (7 พ.ย.56) เวลา 14.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวแถลงการณ์ถึงสถานการณ์การชุมนุม ดังนี้
เรียนพี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่านค่ะ
วันนี้ดิฉันขอใช้เวลาช่วงบ่ายวันนี้ เรียนชี้แจงเพิ่มเติมถึงสถานการณ์การชุมนุมในวันนี้นะคะ เรียนว่าอยากยืนยันเพื่อให้พี่น้องประชาชนทุกท่านได้สบายใจว่า วันนี้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้นจบลงแล้วนะคะ ทุกอย่างได้ถอนแล้ว เรียนว่าจากที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องนอกจากจะมีการแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแล้ว พรรคเพื่อไทยและล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรก็ได้มีมติถอนร่างทุกร่างแล้ว ก็ถือว่าเป็นการแสดงออกในที่นี้ชัดเจน เป็นมติของสภาฯ แล้ว อยากกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่าเรื่องทั้งหมดนี้น่าจะเรียกว่าจบสิ้นจริง ๆ นะคะ และสำหรับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ก็ขอเรียนเพิ่มเติมว่าในส่วนของ พ.ร.บ.เอง จุดมุ่งหมายจริง ๆ แล้วต้องการช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลพวงจากรัฐประหารเท่านั้น ดังนั้นสิ่งที่มีข้อความต่าง ๆ ที่มีการเผยแพร่ว่าเป็นคดีที่เรียกว่าจะช่วยเหลือเรื่องของคดีที่เกี่ยวกับทุจริตนั้นก็เรียนยืนยันว่าไม่เป็นความจริงนะคะ โดยเฉพาะคดีที่หลาย ๆ คนกังวลเรื่องของจำนำข้าว หรือแม้กระทั่งโครงการบริหารจัดการน้ำนั้นไม่ได้เกี่ยวอยู่ใน พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพราะ พ.ร.บ. ฉบับนี้คือผลพวงที่เกิดขึ้นในช่วงของเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองค่ะ
และมีอีกข่าวลือหนึ่งค่ะ ที่ได้ยินกันว่ารัฐจะใช้ความรุนแรง หรือรัฐจะใช้กำลังทหารออกมาปราบปรามประชาชนค่ะ เรียนว่าเราเองเราอยู่ด้วยถ้อยทีถ้อยอาศัย และเราก็อยากเห็นสันติภาพและความสงบสุขเกิดขึ้นในประเทศไทย ดังนั้นการดูแลความมั่นคงในวันนี้เราคงใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดค่ะ และยืนยันในวันนี้ว่าไม่ได้มีการสั่งการทางด้านทหารหรือกองทัพเข้ามาช่วยเหลือดูแลเรื่องความมั่นคงเลยสำหรับเหตุการณ์ในเรื่องของการชุมนุมในครั้งนี้ค่ะ
เรียนยืนยันค่ะว่า รัฐจะไม่ใช้กำลังรุนแรงกับพี่น้องประชาชนโดยเด็ดขาด และทุกอย่างจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายค่ะ ขอความกรุณาพี่น้องประชาชนนะคะว่าอย่าหลงเชื่อข่าวลือต่าง ๆ กรุณารับฟังข้อมูลในหลาย ๆ ด้านค่ะ เพราะว่าจริง ๆ แล้วถ้าไม่จำเป็นเราก็ขอวิงวอนค่ะว่าอย่าไปใกล้บริเวณพื้นที่ต่าง ๆ ที่เป็นบริเวณพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ เราก็เกรงเหตุการณ์มือที่สาม ซึ่งวันนี้รัฐก็พยายามในการควบคุมดูแลความปลอดภัยทั้งผู้ชุมนุมและพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาค่ะ
และในเมื่อวันนี้ทุกฝ่ายก็ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนแล้ว สภาผู้แทนราษฎรก็มีมติล่าสุดให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ทุกฉบับออกหมดแล้วค่ะ อยากขอเรียนวิงวอนว่าอยากให้พี่น้องประชาชนยุติการชุมนุมเถิดค่ะ และโปรดเชื่อในสิ่งที่ทุก ๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องนั้นได้แสดงเจตนารมณ์เถิดค่ะ และเราจะได้ร่วมกันในการที่จะเดินหน้า เพราะประเทศไทยเราก็บอบช้ำไปมากแล้ว เราก็ไม่อยากให้มีเหตุการณ์ต่าง ๆ มาซ้ำเติมประเทศของเราอีกนะคะ
เรียนว่ารัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งค่ะ เราเคารพในเจตนารมณ์ของประชาชน เราเคารพในเสียงของประชาชน และเราก็ยืนยันแล้วว่าเราไม่นำ พ.ร.บ.ฉบับนี้กลับมาพิจารณาโดยเด็ดขาด ดังนั้นสถานการณ์ในช่วงของการเมืองที่มีความวุ่นวาย มีผลกระทบเศรษฐกิจ ก็จะทำให้มีผลในการลดความเชื่อมั่นของต่างชาติ ซึ่งวันนี้หลาย ๆ ประเทศก็เริ่มออกเตือน ซึ่งเราก็เป็นห่วงว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ นั่นก็คือทำให้ต่างชาติที่คิดจะลงทุนประเทศไทย ประเทศไทยเราจะเป็นศูนย์กลางสู่อาเซียนนั้นก็ไม่สามารถที่จะดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง การสร้างความเชื่อมั่นแม้กระทั่งนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาก็อาจจะไม่กล้ามา สุดท้ายก็มากระทบกับผู้ประกอบการ และกระทบต่อนักธุรกิจค่ะ
เหตุการณ์ต่าง ๆ เราสามารถแก้ไขด้วยการที่พูดคุยกัน แก้ไขด้วยการที่ยื่นข้อเสนอต่าง ๆ รัฐบาลก็พร้อมรับค่ะ เราก็ไม่อยากเห็นการชุมนุมนี้ยืดเยื้อนะคะ ก็ขอความกรุณาค่ะ เพราะว่าเราอยากเห็นความสงบนี้เกิดขึ้น เราอยากเรียกความมั่นใจค่ะ และยืนยันอีกครั้งต้องเรียนว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ยกเลิกแล้ว และรัฐบาลไม่ฝืนความรู้สึกของประชาชน รัฐบาลไม่ใช้กำลังรุนแรง และรัฐบาลก็จะไม่ทำอะไรให้ระคายเบื้องพระยุคลบาทโดยเด็ดขาดค่ะ ขอบคุณค่ะ
- องค์กรสิทธิฯประสานเสียงร้องให้ปล่อยตัว14นักศึกษา หลังถูกขังเรือนจำ กลุ่มปชต.ใหม่แถลงสู้ต่อ
- “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” ทรงเป็นประธาน ในพิธีไหว้ครูและพระราชทานเหรียญรางวัลการศึกษาแก่นักเรียนนายร้อยประจำปีการศึกษา
- “รมว.พลังงาน” จ่อขยับภาษีแอลพีจีภาคขนส่ง
- สหรัฐพร้อมช่วยชาติในอาเซียนรับภาระผู้อพยพ
- “ททท.”ชี้คนจีนแห่เที่ยวไทย-คาดปีนี้ไม่ต่ำกว่า 6ล้านคน