'ผักตบชวาบ้านอ้อย'โอท็อปลุยอาเซียน
'ผักตบชวาบ้านอ้อย'โอท็อปลุยอาเซียน
ทำมาหากิน : ผลิตภัณฑ์ 'ผักตบชวาบ้านอ้อย' โอท็อปชัยนาท-ลุยตลาดอาเซียน : โดย...ภาวดี ชุปวา
ผลิตภัณฑ์ "หัตถกรรมผักชวาบ้านอ้อย" งานทำมืออันนับเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงอย่างมากของ จ.ชัยนาท เพราะเป็นผลิตภัณฑ์โอท็อประดับ 5 ดาวที่โด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ ตั้งอยู่ที่ 16/1 หมู่ 7 ต.สรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ซึ่ง กลุ่มหัตถกรรมผักตบชวา โดยการนำของ นางจรวยพร เกิดเสม ประธานกลุ่ม ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2530 โดยมีการรวมกลุ่มกันจากคนในชุมชนสองฝั่ง คือฝั่งเหนือหมู่บ้านและฝั่งใต้หมู่บ้าน วัตถุประสงค์เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้คนในชุมชน พร้อมให้ชาวบ้านทั้งสองฝั่งได้รู้จักกันมากขึ้น เกิดความรักความสามัคคี ทำให้เกิดความเข้มแข็งในชุมชน อันนำมาซึ่งกลุ่มมีเงินทุนหมุนเวียนอย่างคล่องตัว ปัจจุบันกลุ่มมีสินค้ามากกว่าพันแบบที่ส่งขายต่างประเทศ
ชยาพล เกิดเสม เจ้าของกิจการ วัย 32 ปี บุตรชายของ นางจรวยพร เกิดเสม ประธานกลุ่มหัตถกรรมผักตบชวาบ้านอ้อย หัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของการผลิตชิ้นงาน เล่าว่า กลุ่มหัตถกรรมผักตบชวาบ้านอ้อย ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้คนในชุมชนได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้นและสร้างรายได้และอาชีพให้คนในชุมชน โดยปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 300 คน โดยมีเครือข่ายกลุ่มสมาชิกเป็นหมู่บ้านใกล้เคียงและอำเภอใกล้เคียงเพื่อผลิตสินค้าให้ท้องตลาด โดยสมาชิกนอกจากจะมีผลตอบแทนในรูปของชิ้นงานที่ผลิตในแต่ละเดือนตามออเดอร์ของลูกค้า ซึ่งไม่ต่ำกว่าเดือนละ 6,000-8,000 บาท สมาชิกยังมีรายได้ในรูปของเงินปันผลด้วย ซึ่งสินค้าที่ผลิตส่วนใหญ่จะเป็นกระเป๋า รองเท้า ชุดเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ชนิดต่างๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ พร้อมทั้งเป็นผลิตภัณฑ์โอท็อป 5 ดาวของจังหวัด และเริ่มส่งออกในปี 2538 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
"การผลิตสินค้าของกลุ่มเรา เป็นการพัฒนาสินค้าแบบละเอียด น่าสนใจ และแตกต่างจากที่อื่น ซึ่งงานจักสานจากผักตบชวาแน่นอนว่าไม่ได้มีแค่กลุ่มเรากลุ่มเดียวที่ทำ ซึ่งการที่เราจะทำสินค้าของเราให้แตกต่างจากที่อื่นนั้นเราต้องมีการไปดูงานของที่อื่นบ้าง และต้องทำการตลาดแบบไหนเพื่อให้ลูกค้าตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งในส่วนนี้หน่วยงานราชการก็ได้เข้ามาช่วยให้คำแนะนำ เพื่อให้วิสาหกิจชุมชนที่ยั่งยืน"
โดยสนนราคาผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม "หัตถกรรมผักชวาบ้านอ้อย" มีราคาตั้งแต่ระดับ 300 บาท จนถึงระดับหลักพันบาท หรือหลักหมื่นบาทโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภทเฟอร์นิเจอร์ ทั้งนี้ สนนราคาขึ้นอยู่กับความยากง่าย ขนาดของสินค้าในแต่ละประเภทด้วย
ชยาพล ยังเล่าต่ออีกว่า การที่จะตีตลาดต่างประเทศนั้น สินค้าต้องเป็นที่น่าสนใจและมีรูปทรงแปลกตา ใช้วัสดุจากธรรมชาติ ทันสมัยน่าใช้ ถึงจะขายให้ต่างประเทศได้ โดยกลุ่มหัตถกรรมก็มีส่วนราชการเข้ามาดูแล อบรมให้ความรู้เรื่องการตลาด พร้อมทั้งไปศึกษาดูงานที่คุนหมิง ประเทศจีน เพื่อตีตลาดการส่งออกผลิตภัณฑ์ในประจีนด้วย ซึ่งเป็นการศึกษาดูงานที่สำเร็จเพราะทำให้ได้รับออเดอร์ในการส่งออกกระเป๋าสุภาพสตรี และชุดเฟอร์นิเจอร์ในประเทศจีนเรื่อยมาและตามมาอีกหลายประเทศ
"ในเรื่องการตลาดนั้น กลุ่มจะให้แนวคิดกับสมาชิกว่า สินค้าต้องมีความประณีต ละเอียดและต้องพัฒนาสินค้าอยู่เสมอ ปรับปรุงและปรับเปลี่ยนสินค้าเพื่อให้เป็นที่พอใจของลูกค้า ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีออเดอร์เข้ามาไม่ว่าจากต่างประเทศหรือในประเทศ จะต้องมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ส่งเป็นตัวอย่างให้ลูกค้าดูก่อนถึง 2-3 รอบถึงจะผลิตสินค้าได้ ซึ่งแนวคิดนี้ทำให้เราสามารถตีตลาดต่างประเทศได้ คือ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ จีน และญี่ปุ่น" ชยาพล แจง
สำหรับการเข้าร่วมเปิดตลาดเสรีอาเซียนในปี 2558 นั้น เราจะต้องเพิ่มอุตสาหกรรมการผลิตเพิ่มขึ้นอีก เพื่อให้ทันต่อการจัดส่งสินค้าในต่างประเทศ และพร้อมที่จะตีตลาดเวียดนามและลาว เพราะลาวกับเวียดนามนิยมใช้ของจากวัสดุจากธรรมชาติ ซึ่งการเติบโตทางการส่งออกต่างประเทศน่าจะไม่ยาก เน้นการแปรรูป ย้อมสีและรูปลักษณ์ที่สวยงาม ซึ่งผลิตภัณฑ์จากผักตบชวามีข้อดี คือ มีความเหนียวนุ่ม ทนทาน อายุใช้งานกว่า 3-5 ปี สามารถสานได้ทุกแบบ พร้อมทั้งเน้นการผลิตที่สามารถตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น เพื่อเข้าสู่หนทางตลาดอาเซียน หรือเออีซี ต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับท่านที่สนใจศึกษาดูงานด้านการผลิต หรือต้องการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กลุ่มหัตถกรรมผักตบชวาบ้านอ้อย ติดต่อไปได้ที่ จรวย เกิดเสม ประธานกลุ่มหัตถกรรมผักตบชวาบ้านอ้อย และตามศูนย์โอท็อปของภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ หรือ E-mail : banaoy_chainat@hotmail.com โทรศัพท์ 08-9536-3839
------------------------
(ทำมาหากิน : ผลิตภัณฑ์ 'ผักตบชวาบ้านอ้อย' โอท็อปชัยนาท-ลุยตลาดอาเซียน : โดย...ภาวดี ชุปวา)