'ยันฮี'เล็งขยายอาณาจักรศัลยกรรมรับเออีซี
นนทบุรี
"รพ.ยันฮี"เตรียมขยายอาคารรับผู้ป่วยศัลยกรรม มั่นใจไทยมีความพร้อมเป็นฮับอาเซียน พร้อมลงทุน 400 ล้านบาท ขยายโรงงานผลิตสินค้าความงาม
นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี เปิดเผยว่า เตรียมแผนลงทุนในส่วนของการขยายอาคารอินเตอร์ 3 บริเวณพื้นที่ดินลานจอดรถด้านหลังโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแผนและศึกษาความเป็นไปได้ โดยจะพิจารณาจากอัตราการเข้ารักษาของคนไทยว่าเพิ่มมากน้อยเท่าไหร่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปได้ในช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้ลงทุนในส่วนของตัวอาคารอินเตอร์ 1 และ 2 ภายใต้งบประมาณรวมกว่า 1.1 พันล้านบาท
"การลงทุนของโรงพยาบาลไม่เน้นการเข้าเทคโอเวอร์ หรือควบรวมกิจการกับโรงพยาบาลอื่นๆ และไม่มีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มในพื้นที่ต่างๆ เพราะการที่มีสาขาเดียวสามารถควบคุมการคุณภาพของการให้บริการได้ทั้งการแพทย์ และการให้บริการ" นายสุพจน์ กล่าวและว่า การแข่งขันของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในช่วงที่ผ่านมา มีการกำหนดและควบคุมโดยแพทยสภา และไม่มีการแข่งขันกันเองแต่จะเน้นการแข่งขันกับตัวเอง เพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ
นพ.สุพจน์ ยังกล่าวด้วยว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการที่จะเป็นเมดิคัลฮับของภูมิภาคอาเซียน ทั้งในเรื่องของทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เครื่องมือที่มันสมัย แต่ติดที่ข้อกฎหมายที่ไม่สามารถโฆษณาได้ทำให้เสียโอกาสในการประชาสัมพันธ์กับชาวต่างชาติ เพราะที่ผ่านมาชาวต่างชาติมองว่าไทยยังขาดในเรื่องของเครื่องไม่เครื่องมือที่ทันมัย
ผู้บรหารรพ.ยันฮี กล่าวว่า ปีที่ผ่านมามีคนไข้ชาวต่างชาตบินตรงเข้ามารักษาในประเทศไทยกว่า 2 แสนราย จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่บินเข้าไทยกว่า 2.2 ล้านคนในปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าในปีนี้จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หรือกว่า 5 แสนราย
สำหรับแผนกศัลยกรรม ที่ผ่านมามีคนไข้ชาวต่างชาติเข้ามารักษา 20% และคนไทย 80% และคาดว่าหลังจากเปิดเออีซีจะมีคนไข้ชาวต่างชาติเพิ่มเป็น 30-40% โดยเฉพาะชาวออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี พม่า เวียดนาม และลาว ที่ถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่เข้ามาใช้บริการ
นอกจากนี้ ยันฮี ได้เตรียมงบการลงทุน 950 ล้านบาท สร้างโรงงานแห่งที่ 4 ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี บนเนื้อที่ 50 ไร่ โดยเฟสแรกได้ซื้อที่ดิน 250 ล้านบาท และก่อสร้างตัวอาคารไปแล้ว 300 ล้านบาท ล่าสุดเตรียมแผน จะขยายในส่วนของโรงงานย่านดังกล่าว เพื่อสร้างอาคารใหม่เพิ่มอีก 3 อาคาร ภายใต้งบประมาณ 400 ล้านบาท เป็นงบก่อสร้างอาคาร 200 ล้านบาท งบเครื่องจักร 200 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในอีก 9 เดือนจากนี้ เพื่อรองรับการกับความต้องการของผู้บริโภคและตลาดในอนาคตที่มีมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจุบันกำลังการผลิตสินค้าแบ่งเป็น ครีมแต้มสิว 2 แสนหลอดต่อเดือน ยันฮี อีคาร์นิทีนพลัส 5 แสนขอดต่อเดือน
พร้อมกันนี้ได้ขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามในเครือของโรงพยาบาลยันฮี เพราะที่ผ่านมาสินค้าในกลุ่มความงามได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้บริโภคโดยเฉพาะผู้หญิง โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับเซเว่น แคตตาล็อก นำผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่ายในเซเว่น แคตตาล็อก และร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ประกอบด้วย ครีมหน้าขาว ครีมแต้มสิว ยันฮีกลูต้าพลัส และยันฮีคาร์นิทีนพลัส ซึ่งถือเป็นกลุ่มสินค้าใหม่
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20130515/505784/ยันฮีเล็งขยายอาณาจักรศัลยกรรมรับเออีซี.html