'สีจิ้นผิง'วอนเลิกแนวคิดสงครามเย็น!

                           4 ต.ค. 56  สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.) ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับเกียรติเป็นผู้นำต่างประเทศคนแรกที่กล่าวสุนทรพจน์ในรัฐสภาอินโดนีเซีย ระหว่างการเยือนอินโดนีเซียเป็นครั้งแรกนับจากเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่าจีนพร้อมร่วมมือกับอินโดนีเซียและประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในการสร้างความมั่นคงและสันติภาพในภูมิภาค และร่วมแบ่งปันความมั่งคั่งระหว่างกัน เพื่อเป็นเพื่อนและเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน

                           ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสีให้ความสำคัญกับข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ระหว่างจีนกับหลายชาติในอาเซียน หลังมีการเผชิญหน้าทางทะเลหลายครั้งกับฟิลิปปินส์และเวียดนาม โดยเลือกกล่าวสุนทรพจน์ประเด็นนี้ที่อินโดนีเซีย เพราะเป็นประเทศที่ไม่มีข้อพิพาทเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้กับจีน นายสีกล่าวว่า จีนและอาเซียนควรแก้ไขข้อพิพาทดินแดนด้วยสันติวิธี และเรียกร้องให้อาเซียนหลีกเลี่ยงแนวคิดแบบยุคสงครามเย็น หันมาพัฒนาแนวคิดใหม่เกี่ยวกับความมั่นคง

                           นักวิเคราะห์กล่าวว่า สุนทรพจน์ของนายสี แม้มีท่าทีประนีประนอมมุ่งประสานรอยร้าว แต่ก็ไม่มีอะไรใหม่ จีนจะไม่มีทางสละหลักการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับอธิปไตยอย่างแน่นอน

                           การเยือนอินโดนีเซียถือเป็นการเยือนครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ และฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตที่ขาดสะบั้นลงในยุคทศวรรษ 2503 เนื่องจากอินโดนีเซียกล่าวหาว่าจีนมีส่วนในความพยายามก่อการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์อินโดนีเซียในครั้งนั้น 

                           วันเดียวกัน สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นได้บรรลุข้อตกลงการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงทางการทหารระหว่างกัน โดยนายชัค เฮเกล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ และนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ หารือกับนายอิสึโนริ โอโนเดระ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น และนายฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ในการเจรจาที่เรียกว่า 2+2 ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกที่กรุงโตเกียว โดยลุข้อตกลงร่วมกันในการขยายขอบเขตความร่วมมือด้านความมั่นคง และสหรัฐจะนำยานบินไร้คนขับ "โกลบอล ฮอว์ก" เข้าประจำการที่เมืองเกียวโตและติดตั้งเรดาร์เตือนภัยขีปนาวุธตัวที่สองในญี่ปุ่นภายในปี 2557 เพื่อสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวของจีนในทะเลจีนตะวันออกและป้องกันขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ

                           นอกจากนี้สองฝ่ายยังตกลงเรื่องที่ญี่ปุ่นจะร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายราว 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทั้งหมดราว 8,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการย้ายฐานทัพเรือสหรัฐออกจากเกาะโอกินาวาของญี่ปุ่น ไปยังเกาะกวม และเกาะอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิก

-----------------------

(หมายเหตุ : ที่มาภาพ : EPA)