'ปู'อยากเห็น'สตช.'ปลอดคอร์รัปชั่น!
'ปู'อยากเห็น'สตช.'ปลอดคอร์รัปชั่น!
'นายกฯ' มอบนโยบายตำรวจ อยากเห็น สตช.ปลอดคอร์รัปชั่น ไร้การซื้อขายตำแหน่ง จี้ปราบยาเสพติด บ่อนการพนัน เน้นทำงานรองรับประชาคมอาเซียน
3 ต.ค. 56 เมื่อเวลา 11.30 น. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการเปิดสัมมนามอบนโยบายการบริหารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. นำนายตำรวจระดับสูง และตำรวจระดับผู้บังคับการขึ้นไปจำนวน 250 นาย ร่วมฟังนโยบาย ทั้งนี้ก่อนการมอบนโยบายนายกรัฐมนตรีได้ตรวจแถวตำรวจหญิงกองเกียรติยศสำหรับนายกรัฐมนตรีบริเวณด้านหน้าอาคารสตช.
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวมอบนโยบาย โดยระบุ อยากย้ำในบางหัวข้อเพิ่มเติม ประกอบด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายและการอำนวยความยุติธรรมตามหลักนิติธรรม ให้เป็นธรรมทั่วถึง เพราะเรามีกฎหมายอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้ตำรวจได้ใช้ตามหลักนิติธรรมและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รักษาสิทธิพื้นฐานของประชาชน รวมถึงช่วยกันลดปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคมด้วยการให้ประชาชนเข้าถึงกฎหมายและกฎระเบียบอย่างเป็นธรรม และให้ปรับระบบวิธีการสืบสวนสอบสวนให้มีประสิทธิภาพไม่อยากเห็นการสืบสวนเชิงปริมาณ ให้เร่งคดีที่มีการคั่งค้างเพื่อลดปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และยังอยากเห็นร่วมกันประกาศว่าสตช.ปราศจากทุจริตคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ ไม่เอื้อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น องค์กรต้องสามารถตรวจสอบได้ โปร่งใส และต้องไม่มีซื้อขายตำแหน่ง ต้องไม่เกิดขึ้นในองค์กรนี้ ซึ่งบุคลากรต้องเติบโตตามความสามารถและความทุ่มเทกับภารกิจในการดูแลประชาชน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอบคุณที่บูรณาการมากขึ้น แต่ก็ฝากผบ.ตร. เรื่องบุคลากร อาวุธ ดูแลให้เพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน สร้างภูมิคุ้มกันและใกล้ชิดกับประชาชนเพื่อแก้ปัญหาให้ตรงกับความต้องการของพื้นที่ ซึ่งศูนย์ศปก.กปต. ของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ก็พร้อมสนับสนุนงบประมาณและเจ้าหน้าที่ให้ทำงานได้อย่างเต็มที่
ส่วนเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัดป้องกันและปราบปรามปัญหาสังคมต่างๆ นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า การเร่งรัดคดีเป็นเรื่องปลายทาง เพราะถ้าป้องกันและปราบปรามได้ก็ลดความเดือดร้อนของประชาชนได้ ปัญหาเร่งด่วนของสังคมคือยาเสพติดที่ยกระดับเป็นปัญหาอาเซียนเพราะเป็นบ่อนทำลายและก่อปัญหาทางเศรษฐกิจ จะเห็นว่าการปราบปรามมากขึ้น ขอให้เสริมภูมิคุ้มกันให้ชุมชนและฟื้นฟูคนที่เคยเสพให้คืนสังคม และเปลี่ยนจากการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุด้วยการนำเทคโนโลยีมาช่วยวิเคราะห์ไม่ให้เหตุเกิดขึ้น นอกจากนี้อยากให้เน้นเรื่องการแก้ปัญหาบ่อนการพนัน หนี้นอกระบบ ผู้มีอิทธิพลและมาเฟียร์ต่างๆ เพราะจะทำให้เศรษฐกิจและค่าใช้จ่ายของประชาชนดีขึ้น ขอให้อย่าให้เกิดขึ้นในพื้นที่ รวมถึงปัญหาการละเมิดสิทธิ การคุ้มครองเด็ก การลักลอบเข้าเมือง การขนของหนีภาษีของเถื่อน ตัดไม้ทำลายป่า อาชญากรรมข้ามชาติ เป็นสิ่งที่อยากเห็นการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิด ซึ่งของใหม่อย่าให้เกิด ส่วนของเก่าจะนำสิ่งเหล่านี้มาแก้อย่างไรเป็นธรรมเพราะในแง่ของเศรษฐกิจถ้าแก้สิ่งเหล่านี้ได้ก็จะมีผลดีด้วย เพราะลดบ่อนทำลายความสุขของประชาชนในพื้นที่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนปัญหาอาชญากรรมในสังคม ขอให้ดูแลนักนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ต้องดูกำลังเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอ ต้องบังคับใช้กฎหมายเพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัย มั่นใจ ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ปลอดภัย เพราะหนึ่งเคสจะกระทบความมั่นใจเป็นวงกว้าง รวมทั้งจะมีการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน จึงอยากเห็นการพัฒนาแผนงานด้านอาเซียนเพื่อเตรียมตัวรองรับ เพราะนอกจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น ก็จะมีคนเข้ามา จะดูแลอย่างไร จึงขอให้บูรณาการสถานีตำรวจ โรงพักในการพัฒนาการบริการให้เป็น “วันสต็อปเซอร์วิซ” เน้นทักษะที่หลากหลายหรือมัลติสกิล รับเรื่องหลายอย่างพร้อมๆ กัน เพื่อให้รวดเร็วในการแก้ปัญหา และต้องมีการพัฒนาระบบจราจรที่มีประสิทธิภาพ เพราะอนาคตประชาคมอาเซียนจะเชื่อมโยงด่านชายแดนมากขึ้น จะทำอย่างไรให้คนเข้ามาในประเทศด้วยความมั่นคง ที่ต้องร่วมพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกให้ทำงานง่ายและสะดวกขึ้น และต้องมีความพร้อมด้านภาษาอังกฤษและภาษาประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อไว้เนื้อเชื่อใจ ความไว้วางใจกัน ดังนั้นหัวข้ออาเซียนต้องเริ่มพูดกันว่าหลังเปิดประชาคมอาเซียนแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เพื่อให้เห็นภาพและร่วมกันคิดแก้ปัญหา ออกแบบวางระบบกับสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย
นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่าสำหรับการชุมนุมประท้วง ขอขอบคุณที่ตรวจยึดแนวคิดประชาธิปไตยที่ให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นต่างๆ แต่สำคัญต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ขอบคุณที่ละมุนและมีความอดทน มีการใช้กฎหมายและกระบวนการต่างๆชัดเจน ยึดหลักสันติวิธี มาตรฐานสากล ซึ่งเรื่องการชุมนุมอาจจะมีปัญหามาจากหลายอย่างไร จึงขอให้ผู้การฯทำงานกับผู้ว่าฯใกล้ชิด ถ้าทราบปัญหาล่วงหน้าและประสานหน่วยงานก็จะทำงานง่ายขึ้น เพราะรัฐบาลก็พร้อมรับข้อมูลข่าวสาร เพื่อแก้ปัญหาได้ทันท่วงที
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องสวัสดิการและการสร้างขวัญกำลังใจตำรวจนั้นผบ.ตร มีแผนอยู่แล้ว แต่ตนอยากให้เป็นการพัฒนาขีดความสามารถในระดับผู้บริหารระดับสูง ทั้งความรู้ทั่วไป สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ในการเป็นผู้บังคับบัญชาที่จะให้ความคิดเห็นกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างไรให้ทำงานเป็นทีมเวิร์ค มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ใช้หลักของภาวะผู้นำนำหน่วย ต้องเปิดโอกาสให้ตำรวจเรียนรู้งานกันและกันเพื่อให้เข้าใจมิติทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ นำประสบการณ์มาเรียนรู้ประยุคใช้ เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริหารมีมุมมองหลายมิติในการพัฒนาองค์กรมากขึ้น