ฝันบรรเจิด...เมื่อสันติภาพทาบทาอาเซียน
ฝันบรรเจิด...เมื่อสันติภาพทาบทาอาเซียน
ฝันบรรเจิด...เมื่อสันติภาพทาบทาอาเซียน : คอลัมน์ท่องไปกับใจตน : โดย...เรื่อง // ภาพ : ธีรภาพ โลหิตกุลวันดีคืนดี มีข่าวเปิดบริการรถทัวร์สาย กรุงเทพฯ-นครวัด ออกจากขนส่งหมอชิตตอนสายๆ ถึงเสียมเรียบ เมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของกัมพูชาตอนบ่ายแก่ๆ ทันชมตะวันรอนที่มหาปราสาทนครวัดได้สบายๆ ได้ยินข่าวนี้แล้ว ผมนั่งนึกขำตัวเองอยู่ในใจ เพราะไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย ที่เป็นคนรุ่นเกิดบนรอยต่อแห่งกาลเวลาของภูมิภาคอุษาคเนย์ หรืออาเซียน ตั้งแต่จำความได้ ก็รับรู้แต่ข่าวสงครามและการฆ่าฟันกันในอนุภูมิภาคอินโดจีน (เวียดนาม ลาว กัมพูชา) ขณะที่พม่าก็เก็บตัวเงียบเชียบ เคร่งขรึมราวกับ “ฤษีแห่งเอเชีย”
อาเซียนยามนั้นไม่มีอะไรให้น่าชื่นชมโสมนัส หรือชวนให้ตื่นเต้นเท่าหนังฮอลลีวู้ด เพลงของเอลวิส ยานอพอลโลที่องค์การนาซาของสหรัฐส่งไปแตะดวงจันทร์ รวมทั้ง บันไดเลื่อนแห่งแรกของไทยที่ห้างไดมารู (ของญี่ปุ่น)
ครั้นสงครามในอินโดจีนสงบลง ไล่เลี่ยกับที่ผมเรียนจบและเริ่มงานผลิตสารคดี ทั้งงานเขียนและรายการโทรทัศน์ ถึงปี 2532 ก็ได้เข้าทำสารคดีในเวียดนามและลาวที่กำลังฟื้นตัวจากสงคราม ทว่า ในกัมพูชายังมีการรบรุนแรงตามแนวชายแดน อีกทั้งรัฐบาลไทยเวลานั้นก็ไม่รับรองสถานะของรัฐบาลที่ยึดครองกัมพูชาส่วนใหญ่ได้ แต่ในเมื่อชื่อเสียงของนครวัด นครธมดังกระฉ่อนโลก ผมและทีมงานจึงถูกส่งไปทำสารคดีนครวัด นครธม โดยใช้เส้นทางบิน กรุงเทพฯ-เวียงจันทน์-พนมเปญ-เสียมเรียบ รวมเวลาเดินทาง 2 วันเต็ม!
กระทั่งกัมพูชาสงบและเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง บริษัทบางกอกแอร์ของไทยได้สัมปทานบินกรุงเทพฯ-เสียมเรียบ ด้วยเวลาเพียง 40 นาที ในขณะที่ถนนจากด่านอรัญประเทศ-ปอยเปต สู่เสียมเรียบยังเลวร้าย แต่ผมมีภารกิจต้องนำคณะนักท่องเที่ยววัฒนธรรมเข้า-ออกนครวัดอีกนับครั้งไม่ถ้วน บางคณะบินไป บางคณะไปทางรถ ผมจึงได้ประสบการณ์เดินทางสุดแสนจะโรแมนติก คือบางครั้งกินไอศกรีมที่บางกอกแอร์เสิร์ฟยังไม่ทันหมดถ้วย กัปตันก็ประกาศว่ากำลังจะลดเพดานบินลงสู่ท่าอากาศยานเสียมเรียบแล้ว แต่บางครั้งก็ต้องอีเล้งเค้งโค้งไปบนถนนที่ยาวเพียง 150 กว่ากิโลเมตร แต่ต้องใช้เวลาเดินทางถึง 9 ชั่วโมงเต็ม!
แล้วต่อมาก็ค่อยๆ ลดลงเหลือแค่ 3 ชั่วโมง เพราะถนนหนทางดีขึ้นมาก กระทั่งวันนี้ ชาวบ้านระดับรากหญ้าของไทยและกัมพูชา สามารถซื้อตั๋วรถทัวร์กรุงเทพฯ-นครวัด (ราคา 750 บาท แพงกว่าค่าตั๋วรถทัวร์วีไอพีไปเชียงใหม่ไม่ถึง 100 บาท) แล้วพกพาสสปอร์ตไปท่องมหาศิลานคร หรือไปทำธุรกิจการค้าได้สบายๆ อย่างสุดจะคาดคิดว่าจะมีวันนี้ได้ แถมยังมีข่าวว่าในอนาคตอันใกล้ จะมีบริการเดินรถเชื่อม 3 นคร 3 ประเทศ คือกรุงเทพฯ-พนมเปญ-โฮจิมินห์ ซิตี้ อีกด้วย
ส่วนเพื่อนบ้านลาวก็เป็นที่ทราบกันดี ว่ามีทั้งรถไฟสาย กรุงเทพฯ-หนองคาย-ท่านาแล้ง (ชานกรุงเวียงจันทน์) มีรถทัวร์กรุงเทพฯ-เวียงจันทน์, อุดรธานี-เวียงจันทน์-วังเวียง (แหล่งเที่ยวยอดนิยมของลาว) และ กรุงเทพฯ-ปากเซ (ลาวตอนใต้) มานานแล้ว เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ ถ้าจะมีบริการเดินรถ กรุงเทพฯ-นครพนม-คำม่วน-ฮานอย (เมืองหลวงของเวียดนาม) ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ในเมื่อสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) เปิดใช้มาตั้งแต่ 11-11-11 (11 พฤศจิกายน 2554) แล้ว
ล่าสุด เมื่อ 26 สิงหาคม 2556 เมื่อสายลมแห่งความเปลี่ยนแปลง พัดพากลิ่นหอมของดอกไม้แห่งสันติภาพ ตลบอบอวลมวลแผ่นดินรอบถิ่นไทย ปรากฏการณ์ที่น่าชื่นชมยินดี ก็ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งสายสัมพันธ์ไทยกับเพื่อนบ้านอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลพม่าเปิดให้บริการวีซ่าผ่านเข้า-ออกแบบสากล ณ ด่านพรมแดนที่เชื่อมต่อกับไทยทั้ง 6 ด่าน เป็นการปูทางสู่การออกวีซ่าที่หน้าด่าน (Visa on Arrival) นั่นหมายความว่าทั้งคนไทยและชาวต่างชาติสามารถถือพาสสปอร์ตไปขอวีซ่าที่ด่าน แล้วเดินทางเข้า-ออกพม่าได้ทั้งที่ด่านแม่สาย แม่สอด ระนอง ฯลฯ ซึ่งเชื่อได้อีกเช่นกันว่าในอนาคต จะนำไปสู่การยกเว้นวีซ่าสำหรับคนไทย เพราะปัจจุบัน กลุ่มประเทศอาเซียนต่างยกเว้นวีซ่าสำหรับพลเมืองอาเซียนทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงพม่าเท่านั้น
ที่น่าสนใจคือบริการวีซ่าแบบสากลนี้ สอดรับกับการพัฒนาถนนทีเชื่อมต่อเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง (ฝั่งตรงข้ามด่านแม่สอด จังหวัดตาก) กับเมืองท่ามะละแหม่ง รัฐมอญ และนครย่างกุ้ง ให้สะดวกสบายสำหรับการขนส่งสินค้าและบริการนักท่องเที่ยว เพราะในอดีต เส้นทางนี้มีการสู้รบระหว่างชนชาติส่วนน้อยเผ่าต่างๆ กับรัฐบาลทหารพม่ามายืดเยื้อยาวนาน แต่วันนี้ ทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลงสันติภาพแล้ว ที่สำคัญ “บริการวีซ่าแบบสากล” ยังสอดคล้องกับการที่สายการบินนกแอร์ เปิดเที่ยวบินใหม่ล่าสุด จาก แม่สอดสู่มะละแหม่ง ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้เกิดสถิติชวนฉงน เมื่อนกแอร์เที่ยวบิน DD4212 ออกจากสนามบินแม่สอด 09.45 น. แต่แลนดิ้งสนามบินมะละแหม่ง 09.40 น. (เวลาพม่า) ทั้งนี้เพราะมาตรฐานเวลาพม่าช้ากว่าของไทย 30 นาที แต่ระยะเวลาบิน แม่สอด-มะละแหม่ง เพียง 25 นาทีเท่านั้นนั่นเอง (ส่วนนกแอร์ เที่ยวบิน แม่สอด-ย่างกุ้ง เริ่มบริการ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป)
ถึงตรงนี้ ผมก็ได้ข้อสรุปกับใจตนว่า ผมโชคดีที่เกิดบนรอยต่อแห่งกาลเวลาของอาเซียน เพราะเดี๋ยวนี้ ใครๆ ก็บิน 25 นาทีไปมะละแหม่งได้ บิน 40 นาทีไปนครวัดได้ แต่ประสบการณ์บินกรุงเทพฯ-นครวัด ด้วยเวลา 2 วันเต็ม หรืออีเล้งเค้งโค้งบนถนนสายอรัญประเทศสู่นครวัด ระยะทาง 150 ก.ม.ด้วยเวลา 9 ชั่วโมงเต็มนั้น จ้างก็หาไม่ได้อีกแล้ว
(หมายเหตุ สายด่วนบขส.โทร 1490 หรือ www.transport.co.th สายด่วนนกแอร์ โทร 1318 หรือ www.nokair.com)
...................................
(ฝันบรรเจิด...เมื่อสันติภาพทาบทาอาเซียน : คอลัมน์ท่องไปกับใจตน : โดย...เรื่อง // ภาพ : ธีรภาพ โลหิตกุล)