‘มาร์ค’แฉ’วรชัย’ดันนิรโทษฯ เหตุ ตร.เรียกสอบ ล้มประชุมอาเซียน
“มาร์ค”แฉ ตร.เรียกสอบคดีล้มประชุมอาเซียนที่พัทยา 22 ส.ค.นี้ ทำ“วรชัย เหมะ”เร่ง ดัน พ.ร.บ.นิรโทษฯเพื่อตัวเอง ขณะ ชี้ รัฐบาลกำลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจไทยถดถอย ย้ำ ฝีเริ่มแตกแล้ว…
วันที่ 20 ส.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการฟ้าวันใหม่ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกาย ชาแนล ถึงกรณีที่คนในรัฐบาล ระบุ ไม่รู้จักระบอบทักษิณว่า เขาเรียกว่าไม่รู้ตัว ระบอบทักษิณ คือ ความพยายามใช้รูปแบบประชาธิปไตยสู่การรวบอำนาจ แสวงหาประโยชน์ ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาธิปไตย เพราะมีการเข้าไปครอบงำวุฒิสภาและสื่อ จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน
จึงอยากแนะนำให้คนที่บอกว่าไม่รู้จักระบอบทักษิณ ไปอ่านคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ คดียุบพรรคเพื่อไทยกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แทรกแซงองค์กรต่าง ๆ และตอนนี้ รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เดินตามรอยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ค่อนข้างชัดเจน เช่น การข่มขู่คุกคามฝ่ายตรงกันข้าม ความพยายามรวบอำนาจ ชอนไช เข้าไปในระบบราชการ รวมถึงรัฐวิสาหกิจ การทุจริตคอรัปชันเอื้อผลประโยชน์ทางธุรกิจ และการนิรโทษกรรม แก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นก้าวสำคัญของการที่จะผลักดันระบอบทักษิณให้เดินหน้า
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 22 ส.ค.นี้ มีวาระที่น่าสนใจคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอตัวนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และนายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ไปดำเนินคดี ข้อหาล้มการประชุมอาเซียน แสดงให้เห็นชัดว่า กฎหมายนิรโทษกรรม ที่ทำกันอยู่เรื่องผลประโยชน์ขัดแย้งชัดเจน โดยนายวรชัย เป็นผู้ยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่สภาฯ และเป็นกรรมาธิการฯ ด้วย ซึ่งหากร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เข้าสภาฯ นายวรชัยก็จะหลุดจากคดีนี้โดยสิ้นเชิง
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณี ที่สำนักข่าวบีบีซี วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยถดถอยหรือชะลอตัวว่า ที่ผ่านมาได้วิเคราะห์ว่า แนวทางการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งปัญหาไม่ได้มาจากการส่งออก แต่เป็นเรื่องเศรษฐกิจภายในจากยุทธศาสตร์นโยบายประชานิยม ที่รัฐบาลยังเดินหน้า ตั้งกองทุนต่าง ๆ ให้ประชาชนเป็นหนี้เพิ่ม จะเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำ เพราะเงินที่ใช้กันเร็ว ๆ นั้น สุดท้ายก็ย้อนกลับมาหาบรรดาธุรกิจใหญ่ ๆ ไม่ได้กระจายรายได้ อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ รัฐบาลยังพยายามโฆษณาว่า โครงการเมกะโปรเจกต์ จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ และพยายามบอกว่า คนที่คัดค้านร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เป็นผู้ที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีปัญหา แต่ความจริงโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทที่จะใช้ในปีหน้านี้ เป็นการเอาเงินหลายหมื่นล้านบาทไปจ้างที่ปรึกษาเท่านั้น
ทั้งนี้ มองว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอาการหนึ่งของโรคฝีแตก แต่จะแตกรุนแรงเมื่อเกิดความไม่ยั่งยืนทางการคลัง ซึ่งตอนนี้โครงการจำนำข้าวกำลังไล่เดินไปสู่จุดนั้นอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ปัญหาตอนนี้น่าเป็นห่วง
ขณะนี้เราใช้เงินของประชาชนอย่างไม่คุ้มค่า และบริหารเศรษฐกิจไม่ได้ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่กำลังเพิ่มทั้งหนี้ของรัฐ หนี้ของประชาชน แล้วก็ปัญหาพื้นฐานไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งในแง่ของความสามารถการแข่งขัน แล้วก็ความเป็นธรรมของระบบเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์
- องค์กรสิทธิฯประสานเสียงร้องให้ปล่อยตัว14นักศึกษา หลังถูกขังเรือนจำ กลุ่มปชต.ใหม่แถลงสู้ต่อ
- “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” ทรงเป็นประธาน ในพิธีไหว้ครูและพระราชทานเหรียญรางวัลการศึกษาแก่นักเรียนนายร้อยประจำปีการศึกษา
- “รมว.พลังงาน” จ่อขยับภาษีแอลพีจีภาคขนส่ง
- สหรัฐพร้อมช่วยชาติในอาเซียนรับภาระผู้อพยพ
- “ททท.”ชี้คนจีนแห่เที่ยวไทย-คาดปีนี้ไม่ต่ำกว่า 6ล้านคน