แปลงปลูก'ผักอินทรีย์'ใหญ่สุดในภาคใต้

                                จากนักธุรกิจสาวที่โลดแล่นอยู่ในยุทธจักรด้านไอทีมาหลายปี กลายมาเป็นเจ้าของฟาร์มผักปลอดสารพิษที่เน้นเจาะตลาดคนรักสุขภาพภายใต้ชื่อ "ชิณวงศ์ฟาร์ม" ตั้งอยู่ท้องที่หมู่ 7 ต.ท่าดี อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ถูกยกให้เป็นฟาร์มที่ใหญ่สุดในภาคใต้ในขณะนี้ สำหรับ "น.ส.วาริน ชิณวงศ์" หรือ "น้ำ" เจ้าของ "ชิณวงศ์ฟาร์ม" ถือเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเมืองนครศรีธรรมราชโดยแท้ แม้จะคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงธุรกิจไอที แต่เธอก็ผูกพันกับวิถีกสิกรรมมาตั้งแต่เด็กจนโต โดยเฉพาะวิถีเกษตรในพื้นที่ “ลุ่มน้ำปากพนัง” ถือเป็นฐานสำคัญทางการเกษตรของ จ.นครศรีธรรมราชมาอย่างยาวนาน 

                                แต่กว่าจะมาเป็น "ชิณวงศ์ฟาร์ม" ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปหากตั้งใจทำอย่างจริงจัง หลังจากที่ตัดสินใจจะเดินหน้าสู่วิถีเกษตรเต็มตัว เธอจึงจำเป็นที่ต้องเดินหน้าหาความรู้เพิ่มเติม โดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการจัดการ ระบบการผลิตและขั้นตอนการทำงานอย่างมืออาชีพเพื่อให้งานออกมามีประสิทธิภาพ และสามารถยกระดับวิถีเกษตรได้อย่างแท้จริง ซึ่งการทำฟาร์มระบบปิดยิ่งจำเป็นต้องมีความรู้ที่ถูกต้อง

                                "ในช่วงที่ผ่านมาได้ใช้หลักสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ข้อแรกคือการมีความรู้ในอาชีพการเกษตร โดยใช้เวลาส่วนหนึ่งศึกษา สืบค้น ข้อมูลความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับเกษตรจากทางโลกไซเบอร์หรืออินเทอร์เน็ต ซึ่งถือเป็นคลังข้อมูลความรู้ที่ดีที่สุดแหล่งหนึ่ง ประกอบกับด้วยบทบาทหน้าที่ของหอการค้าทำให้ได้รู้จักผู้คนมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถหลากหลายด้าน จึงชวนเข้ามาเป็นพันธมิตรมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนและเปิดตัว "ชิณวงค์ฟาร์ม" ในยุคเริ่มต้น"

                                น.ส.วาริณเผยต่อว่า จากนั้นได้ใช้ หลักมาตรฐานความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยเริ่มต้นลงทุนทดลองปลูกผักในกระถางปลอดสารพิษ ด้วยการนำร่องใช้พื้นที่รอบบ้านปลูกผักสวนครัวนานาชนิดพร้อมทยอยแจกจ่ายให้ชาวบ้านใกล้เคียงจากแค่หลักร้อย เพิ่มขึ้นเป็นหลักหมื่น จนเหยียบแสนกระถางในเวลาไม่นาน ด้วยเจตนารมณ์ให้ชาวบ้านสนใจเกษตรปลอดสารพิษ เนื่องจากการทำฟาร์มระบบปิดจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการจัดการที่มีแบบแผน ดังนั้นการไปเรียนรู้ดูงานจากผู้เชี่ยวชาญ จึงเป็นช่องทางที่ช่วยให้สามารถนำความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะขั้นตอนต่างๆ เริ่มตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ที่นำมาใช้ปลูก ตลอดจนการตรวจสอบคุณภาพผักก่อนนำจำหน่ายสู่ผู้บริโภคล้วนต้องมีฝ่ายงานที่เข้ามาดูแลตรวจสอบทั้งระบบเพื่อให้มั่นใจว่าผักมีความปลอดภัย" วาริน กล่าวปลื้ม

                                “โครงการปลูกผักปลอดสารพิษในกระถางต้องการให้สอดรับกับแผนโครงการ 1 ไร่ 1 แสนบาทต่อปีของรัฐ ซึ่งผักที่เรานำร่องปลูกแล้วแจกชาวบ้านจะทำให้เขารู้สึกว่าเวลา 3 เดือนที่เสียไปเพราะกลัวน้ำท่วมสามารถสร้างรายได้ เพราะที่ผ่านมาชาวลุ่มน้ำปากพนังมีรายได้จากกสิกรรม 9 หมื่นบาทจากการทำทำงาน 9 เดือน ดังนั้นในช่วงกังวลน้ำท่วมอีก 3 เดือน หากหันมาปลูกผักกระถางเชื่อว่าจะเติมเต็มให้เกิดรายได้ตลอด 12 เดือนได้ ซึ่งแน่นอนว่าสามารถมีรายรับ 1 แสนบาทแน่นอน” วาริน กล่าวถึงจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของไอเดียผักปลอดสารพิษ

                                แต่สิ่งสำคัญกว่านั้น คือการกระจายพันธุ์ผักใส่กระถางมอบให้ชาวบ้านจะเป็นการจุดประกายสำคัญให้คนนครศรีธรรมราชมีใจรักเกษตรปลอดสารพิษเหมือนกันทั้งพื้นที่ แถมสร้างรายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เวลาผ่านไปไม่นานเมื่อผักปลอดสารพิษในกระถางเริ่มมีกระแสตอบรับดีขึ้น เธอจึงตัดสินใช้ประโยชน์จากที่ดินว่างของครอบครัว เนรมิตพื้นที่ให้เป็นฟาร์มปลูกผักอินทรีย์ระบบปิด (ผักปลอดภัย Hygienic) เพื่อยกระดับตลาดผักสุขภาพไปอีกขั้น 

                                “ฟาร์มแห่งนี้เราลงมือเองทุกอย่างโดยใช้แรงงานในหมู่ญาติ ร่วมใจกันปลูกผักสลัด กรีนโอ๊ด เรดโอ๊ด กรีนคอรัล เรคคอรัล คอสบัตเตอร์เฮล ฟิลเลย์ ไฮซ์เบิร์ก ผักกาดหอม ผักคะน้า ฮ่องเต้ กวางตุ้ง ผักบุ้ง และมะละกอฮอลแลนด์ โดยผลิตเพื่อรองรับเป้าหมายที่ชัดเจนนั่นคือตลาดคนรักสุขภาพ ส่งตลาดโรงแรมและผู้บริโภคในพื้นที่ภาคใต้ ในรูปแบบขายส่งและขายปลีก โดยตลาดหลักสำคัญจะอยู่ที่ ภูเก็ต สมุย พะงัน หาดใหญ่” น.ส.วาริน กล่าว

                                “ชิณวงศ์ฟาร์ม” ไม่เพียงเป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผักปลอดสารพิษ แต่ที่นี่ยังเป็นสถานีศึกษาและให้องค์ความรู้แก่เกษตรกร รวมถึงผู้สนใจในการปลูกผักอินทรีย์ระบบปิด ด้วยการพร้อมให้บริการความรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ รวมไปถึงการมอบเมล็ดพันธุ์ผักคุณภาพดีให้แก่ทุกคนที่สนใจโดยเฉพาะ พร้อมตั้งเป้านำพา "ชิณวงศ์ฟาร์ม” ก้าวไปสู่การเป็นพื้นที่ปลูกผักปลอดสารพิษที่ไม่เพียงแค่รองรับตลาดบริโภคภายในประเทศเท่านั้น แต่มองไกลไปถึงการรองรับตลาดอาเซียนอีกด้วย 

                                "การวางแผนการผลิตโดยใช้การตลาดนำ ตามหลักสมาร์ทฟาร์มเมอร์ข้อสุดท้าย ถือเป็นปัจจุบันที่สำคัญที่สุดก็ว่าได้ เพราะถ้าทุกอย่างพร้อมแต่ขาดการวางแผนการตลาดที่ดีก็มีปัญหาเหมือนกัน" เจ้าของชิณวงศ์ฟาร์มกล่าวและย้ำว่า ในฐานะเจ้าของ "ชิณวงศ์ฟาร์ม" แหล่งปลูกผักออแกนิกระบบปิดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ได้เป็นหนึ่งใน 24 หน่วยงาน ที่ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อร่วมมือกันในการพัฒนา จ.นครศรีธรรมราชสู่ “นครเกษตรสุขภาพ เกษตรคุณภาพ” เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้แก่เกษตกรและผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้เกิดการเรียนรู้ก่อนสู่การแข่งขันอย่างมืออาชีพ

                                “ชิณวงศ์ฟาร์ม จะเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่สำคัญให้กับเมืองคอน โดยจะสอดรับกับโครงสร้างการผลักดันให้ที่นี่เป็นพื้นที่สีเขียวปลูกผักปลอดสารพิษ รองรับตลาดอาเซียน เพราะปัจจุบันที่แห่งนี้เป็นแหล่งเพาะปลูกใหญ่ส่งสินค้าไปทั่วประเทศอยู่แล้ว” วารินให้ข้อมูลทิ้งท้าย

                                สำหรับ "น.ส.วาริน ชิณวงศ์” จบการศึกษาปริญญาตรี คณะวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช หลังจากสำเร็จการศึกษาก็เดินหน้าสู่เส้นทางสายที่เรียนมาเต็มตัว ก่อนที่ขยายเส้นทางทำกินเอาดีด้านการเกษตรเพื่อหวังยกระดับวิถีชีวิตครอบครัวและชาวบ้านที่คุ้นชินกับการทำเกษตรพื้นฐานมาตั้งแต่เล็กจนโต จึงนับเป็นเกษตรกรในแบบฉบับของคนรุ่นใหม่สไตล์ "สมาร์ทฟาร์มเมอร์" ที่ไม่ว่าโลกจะหมุนไปกับกระแสไอทีเร็วสักแค่ไหน แต่ก็ยังไม่ลืม “วิถีเกษตร” ซึ่งเป็นห่วงโซ่อาหารสำคัญ อันถือเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยเลี้ยงปากเลี้ยงท้องในการดำรงชีพให้แก่ทุกชีวิตในสังคมทุกวันนี้

----------------------------

(ทำมาหากิน : นักธุรกิจไอทีปั้น 'ชิณวงศ์ฟาร์ม' รับอาเซียน สู่แปลงปลูก 'ผักอินทรีย์' ใหญ่สุดในภาคใต้ : โดย...สุพิชฌาย์ รัตนะ)