'ยิ่งลักษณ์'ย้ำถกพม่าพ.ค. ญี่ปุ่นร่วมทวาย
นครศรีธรรมราช
นายกฯเผยเดือนพ.ค.หารือกับพม่าเปิดให้ญี่ปุ่น วางแผนพัฒนาอุตสาหกรรมโครงการทวาย พร้อมสรุปผลประชุมอาเซียนซัมมิท
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง11 ถึงข้อสรุปการประชุมสุดยอดอาเซียน (อาเซียนซัมมิท) ครั้งที่ 22 ที่ กรุงบันดาเสรีเบกาวัน บรูไนดารุสซาลาม ที่ได้ร่วมเดินทางไปประชุมเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ในการประชุมดังกล่าว ได้มีการหารือถึงแนวทางที่ประเทศที่รวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนจะเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2015 ได้อย่างไรให้เป็นรูปธรรม เบื้องต้นที่ประชุมได้เสนอให้ตั้งหน่วยงานเพื่อเป็นคณะทำงานที่นำแผนการพัฒนาของทุกประเทศและทุกเสาหลักมาบริหารและติดตามร่วมกัน นอกจากนั้นแล้วยังได้หารือว่าเมื่อมีการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้วจะพัฒนาอะไรต่อไป โดยเฉพาะ คอนเนคทิวิตี้ ของนักลงทุน การลดช่องว่างรายได้, การศึกษา, การสาธารณสุขของประชาชน รวมถึงการพัฒนาด่านชายแดน ให้สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างคล่องตัว
“ประเทศบรูไน เสนอให้มีการกำหนดสิทธิพิเศษสำหรับประเทศในประชาคมอาเซียน เช่น เลนอาเซียน, ฟรีวีซ่า โดยไทยนั้นยินดีให้การสนับสนุน ส่วนโจทย์สำคัญที่คุยกัน คือ การลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ ไปพร้อมๆ กับการพัฒนา นอกจากนั้นแล้วยังมองถึงประเทศอื่นๆ ที่จะเข้ามาลงทุนในกลุ่มประเทศประชาคมอาเซียน ต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อภูมิภาค” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
นายกฯ กล่าวต่อว่าสำหรับการลดความขัดแย้งในภูมิภาค เป็นอีกหัวข้อที่หารือร่วมกัน โดยที่ประชุมทุกประเทศอยากเห็นการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี และ ใช้หลักการพูดคุย ความเชื่อใจ เข้าใจร่วมกัน โดยข้อพิพาทในทะเลจีนใต้นั้น ประเทศไทยในฐานะผู้ประสานงานอาเซียน - จีน และในปีนี้ถือว่าครบรอบ 10 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-จีน ได้เสนอให้แสดงเจตนารมย์ร่วมกัน พร้อมทำงานเพื่อสันติภาพ เอกภาพ ความปลอดภัยทางทะเล เพื่อปูทางไปสู่การปฏิบัติจริงอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัยทางทะเล เบื้องต้นประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการประชุมประเทศกลุ่มอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน เบื้องต้นนั้น ประเทศบรูไน และประเทศอินโดนีเซียให้การสนับสนุน การประชุมผู้นำอาเซียนนั้นยังมีการหารือกลุ่มเล็กๆ โดยของประเทศไทยเน้นเรื่องการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 14 จังหวัด ร่วมกับประเทศมาเลเซียและประเทศอินโดนีเซีย เบื้องต้นทั้ง 2 ประเทศนั้นจะร่วมประกาศเจตนารมย์ร่วมกับประเทศไทยในการทำแผนพัฒนา 5 ปี ทั้ง ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศร่วมกัน โดยแผนที่จะดำเนินการส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เสนอไว้ตามพ.ร.บ.กู้เงิน วงเงิน 2ล้านล้านบาท เช่น พัฒนาท่าเรือนาเกลือ จ.ตรัง, พัฒนาระบบลอจิสติก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช, พัฒนาทางมอร์เตอร์เวยหาดใหญ่- สะเดา เบื้องต้นนั้นแผนงานทั้ง 3 อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ นอกจากนั้นยังหารือถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล, พัฒนาอุตสาหกรรมยางพารา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่าตนยังได้หารือกับ นายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีประเทศเมียนมาร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นของสองประเทศว่า จะพัฒนาร่วมกันรูปแบบรัฐต่อรัฐ และ เอกชนต่อภาคเอกชน ล่าสุดได้ข้อตกลงร่วมกันว่าจะลงนามเชิญญี่ปุ่นมากำหนดยุทธศาสตร์พัฒนาในด้านอุตสาหกรรม โดยในเดือนพฤษภาคมนี้ ประเทศไทยกับเมียนมาร์จะหารือร่วมกันอีกครั้ง นอกจากนั้นยังหารือถึงการพัฒนาด่านชายแดนไทย-เมียนมาร์ เพื่อเปิดตลาดใหม่และรองรับการขยายตัวเศรษฐกิจตามแนวชายแดน และที่สำคัญได้มองถึงการพัฒนาจังหวัดต่อจังหวัดของต่างประเทศเพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยว อุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มโอกาสการทำงานให้ประชาชนและสร้างรายได้
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20130427/502635/ยิ่งลักษณ์ย้ำถกพม่าพ.ค.-ญี่ปุ่นร่วมทวาย.html