'สุรพงษ์'มอบนโยบายจนท.กงสุลไทย
'สุรพงษ์'มอบนโยบายจนท.กงสุลไทย
'สุรพงษ์' มอบนโยบายเจ้าหน้าที่กงสุลทั่วโลก แนะปรับตัวรับประชาคมอาเซียน-มีความริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิเสธไม่ทราบข่าวปรับครม. โยน 'นายกฯ' ตัดสินใจ
26 มิ.ย.56 นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มอบนโยบายเจ้าหน้าที่กงสุล ในการประชุมเจ้าหน้าที่กงสุลทั่วโลก ประจำปี 2556 ว่า อยากให้เจ้าหน้าที่กงสุลมีความคิดริเริ่มสิ่งใหม่ๆ เพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียน ในปี 2558 ต้องปรับทิศทางการทำงาน ศึกษาหาข้อมูลเด่นๆ ของประเทศที่ประจำการอยู่ เพื่อเสนอแนวคิดปรับใช้ให้สอดคล้องกับความสามารถของประเทศ ทั้งนี้นักการทูตที่ดี เปรียบเหมือนเซลล์แมน ต้องพยายามประชาสัมพันธ์ให้ต่างประเทศเห็นว่าประเทศไทยมีดีอย่างไร มีสถานที่ท่องเที่ยวใดที่น่าสนใจ จะทำอย่างไรให้คนมาเที่ยว
อย่างไรก็ตามในอีก 5 ปีข้างหน้ามีแผนเปิดสถานกงสุลเพิ่มเติม เป็น 25 แห่ง เพื่อรองรับการพัฒนาที่จะมีขึ้นในอนาคต รวมทั้งเป็นศูนย์ให้ความช่วยเหลือส่งเสริมด้านการค้าการลงทุน ทั้งนี้ที่ผ่านมามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเจ้าหน้าที่กรมการกงสุลเหมือนเป็นกรมที่ไม่ได้รับความสนใจ ตนยืนยันว่าพร้อมจะให้ความเป็นธรรม ในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งอย่างเหมาะสม ทุกคนมีความรู้ความสามารถเติบโตเป็นทูตได้ เพราะประสบการณ์การทำงานด้านกงสุล เป็นงานที่ต้องทำหลายๆ ด้านพร้อมๆกัน เชื่อว่ามีประสบการณ์ไม่แพ้กับงานด้านอื่นๆ
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ในอนาคตจะจัดทำวีซ่าออนไลน์ ซึ่งเป็นการทำฐานข้อมูลนักท่องเที่ยวไว้ที่ส่วนกลาง เพื่อตรวจสอบกรณีมีคนไม่ดี หรือบุคคลที่มีประวัติ หรือมิจฉาชีพเข้าประเทศ จะทำให้ทราบข้อมูลภูมิหลัง สามารถป้องกันได้ทัน และจะทำให้ทราบข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างแท้จริง
'สุรพงษ์' อ้างไม่รู้เรื่องปรับครม. โยน 'นายกฯ' ตัดสินใจ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีว่า วานนี้ (25 มิ.ย.) แม้จะไปประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่ได้พบนายกรัฐมนตรี จึงไม่ทราบเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าหากปรับคณะรัฐมนตรีจะมีผลต่อการทำงานของรัฐบาลอย่างไร นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การทำงานของรัฐบาลใครเข้ามาต้องทำงานตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ และรัฐมนตรีทุกคนต้องเร่งปฏิบัติหน้าที่ให้เร็วที่สุด เพื่อให้มีผลงานออกมา ซึ่งเรื่องนี้เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น อย่างไรก็ตามการปรับคณะรัฐมนตรีขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อาจต้องการปรับปรุงการทำงานบางด้านที่ไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลมีประสิทธิภาพดีขึ้น