'สหกรณ์อาเซียน'แบรนด์เดียว
'สหกรณ์อาเซียน'แบรนด์เดียว
ผนึกเครือข่าย 'สหกรณ์อาเซียน' สู่ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เดียว : โดย...สุรัตน์ อัตตะ
การประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง "การพัฒนาด้านการตลาดและการเชื่อมโยงเครือข่ายของสหกรณ์การเกษตรระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน” ไม่เพียงเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ระหว่างกันเท่านั้น แต่ยังเป็นการพัฒนาเครือข่ายธุรกิจสินค้าสหกรณ์ระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนเพื่อเชื่อมโยงสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องระหว่างกันหวังเตรียมความพร้อมในอีก 2 ปีข้างหน้า
"วัตถุประสงค์การจัดงานครั้งนี้ หลักการสำคัญก็คือ ต้องการให้ก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างกัน เราคิดว่า การที่เราจะก้าวไปสู่สหกรณ์สร้างเศรษฐกิจอาเซียนนั้น ประการสำคัญคือ จะทำอย่างไรที่จะให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างสหกรณ์สมาชิกอาเซียนด้วยกันในการนำไปสู่ผลสำเร็จ"
สมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า พร้อมผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ในการพัฒนาสินค้าระหว่างกัน มีการแลกเปลี่ยนการค้าเกิดขึ้น ตลอดจนมีการตกลงกันให้ได้ ซึ่งในการพัฒนาสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่งที่เลือกขึ้นมานั้นจะต้องใช้เป็นสินค้าที่จะใช้แบรนด์สหกรณ์ร่วมกันในอาเซียน
"ประเด็นที่ผมนำเสนอในเวทีอาเซียนนั้น เมื่อมีข้อตกลงความร่วมมือในระดับอาเซียนกันแล้ว ควรมีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์อาเซียนและผลักดันให้ประเด็นเกี่ยวกับสหกรณ์ได้รับการบรรจุอยู่ในวาระการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสฯ และในระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ (เอเอ็มเอเอฟ) ต่อไป" อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าว
สมชาย ระบุอีกว่า ผลการประชุมครั้งนี้มีข้อสรุป ผู้แทนจากทั้ง 7 ประเทศ คือ กัมพูชา อินโดนีเซีย ส.ป.ป.ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ไทย และเวียดนาม เห็นชอบร่วมกันที่จะเสนอให้มีการจัดตั้ง ASEAN Cooperative Chambers โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนเป็นคณะกรรมการและมีหน้าที่ในการผลักดันส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสหกรณ์จากประเทศสมาชิกอาเซียน โดยการจัดสร้างฐานข้อมูลสินค้าสหกรณ์ ผู้ผลิต ผู้แปรรูป และผู้ค้า รวมทั้งการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างสหกรณ์ที่มีศักยภาพ เป็นต้น
"ข้าว ยางพารา และกาแฟ 3 ตัวนี้จะเป็นสินค้านำร่องในการผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างสหกรณ์ในอาเซียน เนื่องจากเป็นสินค้าสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกอาเซียนส่วนใหญ่"
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ย้ำด้วยว่า สำหรับผลสรุปจากการประชุมครั้งนี้จะนำเสนอต่อคณะกรรมการศูนย์อาเซียนเพื่อการพัฒนาสหกรณ์การเกษตร (ASEAN Center for the Development of Agricultural Cooperatives : ACEDAC) ในการประชุม ACEDAC Board Meeting ครั้งต่อไปที่ประเทศเวียดนาม เพื่อให้ความเห็นชอบให้คณะทำงานด้านสหกรณ์การเกษตรอาเซียน (ASEAN Working Group on Agricultural Cooperatives : ASWGAC) นำเข้าหารือเพื่อบรรจุในวาระการประชุมของ Special SOM-AMAF ต่อไป
“อย่างน้อยการที่ได้มีโอกาสรู้จัก ทำความเข้าใจระหว่างบุคลากร ที่ทำงานด้านสหกรณ์ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่หรือว่าพี่น้องสหกรณ์ด้วยกัน การแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ศึกษา ดูงานระหว่างกัน ได้รู้จักกัน มีการเจรจากัน ได้พูดคุยกันในอาชีพและในสาขาเดียวกันจะง่ายต่อการทำความเข้าใจในการพัฒนาร่วมกันและการสัมมนาเชิงวิชาการที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการที่จะเกิดความร่วมมือในภูมิภาคของอาเซียนต่อไป” อธิบดีสมชายกล่าว
นับเป็นอีกก้าวของการรวมกลุ่มระหว่างสหกรณ์และการดำเนินการร่วมกันอย่างบูรณาการเป็นเครือข่ายเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันในระดับภูมิภาคอาเซียน อันจะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพของสหกรณ์ให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ด้วยการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายระหว่างสหกรณ์และสถาบันเกษตรกร ซึ่งจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรได้อย่างยั่งยืนนั่นเอง
--------------------
(ผนึกเครือข่าย 'สหกรณ์อาเซียน' สู่ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เดียว : โดย...สุรัตน์ อัตตะ)