'ลีซอ' แมคคาเดเมียแปรรูป กลุ่มดอยช้างขายอาเซียน
"แมคคาเดเมีย" เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศออสเตรเลีย และได้รับความนิยมเกือบทั่วทุกมุมโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะที่ดอยช้าง ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ที่ร่วมกันก่อตั้ง "วิสาหกิจชุมชนแปรรูปแมคคาเดเมียดอยช้าง" โดยการนำของ นายสุพจน์ วินิจวงษ์พนา แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์ ลีซอ “Leesoaw” ส่งขายทั้งในและต่างประเทศ นายสุพจน์ วินิจวงษ์พนา ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปแมคคาเดเมียบ้านดอย บอกว่า เริ่มรวมกลุ่มวิสาหกิจเมื่อปี 2553 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรายได้ให้คนในชุมชน โดยเริ่มแรกมีคณะกรรมการกลุ่ม 7 คน และมีสมาชิกกลุ่ม 200 ราย ที่จะนำเมล็ดแมคคาเดเมียมาส่งขายให้กลุ่มโดยรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 85 บาท เรื่อยมา กระทั่งปัจจุบันนี้มีสมาชิก 400-500 ราย ที่นำเอาผลผลิตมาขายให้วิสาหกิจชุมชน เพื่อผลิตเป็นแมคคาเดเมียแปรรูปภายใต้ชื่อแบรนด์ลีซอ “Leesoaw” เพื่อส่งขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยที่ผ่านมานอกจากขายเมล็ดแมคคาเดเมียแล้ว ยังมีการนำเปลือกมาแปรรูปเป็นถ่านและปุ๋ยอินทรีย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางน้ำมันแมคคาเดเมียเพื่อบำรุงรักษาผิวอีกด้วย "ผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจทั้งหมดเป็นอินทรีย์ที่เน้นคุณภาพเป็นหลัก ทำให้ผลผลิตที่ออกมามีคุณภาพ เมล็ดมีขนาดใหญ่ เนื้อแน่น หวาน หอม กรอบ มัน เนื่องจากพื้นที่การปลูกที่ดอยช้างนี้มีสภาพดินดี สภาพภูมิอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี ทำให้แต่ละปีผลิตเมล็ดแมคคาเดเมียได้ 300 ตันต่อปี ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ในระหว่างนี้ได้มีการส่งเสริมให้สมาชิกขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้น" นายสุพจน์ แจง สำหรับการดำเนินการที่ผ่านมา ประธานกลุ่มบอกว่า สมาชิกทุกคนยึดหลักการทำงานโดยมองว่าการทำธุรกิจที่ต้องพึ่งพานั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนเป็นหลัก ดังนั้นธุรกิจนี้จะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้สภาพแวดล้อมโดยรอบ กระบวนการผลิตต้องมีการพัฒนาหาแนวทางที่จะผลิตวัตถุดิบออกมาให้มีคุณภาพ รวมทั้งพัฒนาการปลูกให้ทุกขั้นตอนปลอดสารเคมี ให้เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก โดยให้สมาชิกดูแลพันธุ์ตามหลักวิชาการ เมื่อผลผลิตสมบูรณ์พร้อมเก็บให้สมาชิกนำผลผลิตใส่กระสอบมาชั่ง ต่อด้วยกะเทาะเปลือกนอก ผึ่งให้แห้ง ก่อนนำมากะเทาะเปลือกใน นำเข้าไปอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิเหมาะสม จากนั้นจึงบรรจุแพ็กเกจแบรนด์ลีซอ “Leesoaw” เตรียมจำหน่าย จากทุกขั้นตอนการผลิตที่ได้มาตรฐานทำให้ผลิตภัณฑ์ได้รับใบรับรองจีเอ็มพี มาตรฐานความปลอดภัยในการผลิต จนสามารถทำตลาดกลุ่มลูกค้าในระดับกลางจนถึงระดับบนได้ นายสุพจน์ กล่าวอีกว่า ได้แปรรูปแมคคาเดเมียหลากรสชาติ อาทิ รสธรรมชาติ รสเกลือ รสวาซาบิ รสน้ำผึ้ง รวมถึงได้พัฒนาแพ็กเกจใหม่ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภค บรรจุขายซองละ 80 บาท และยังส่งขายแปรรูปให้ลูกค้าที่นำไปบรรจุเองในราคากิโลกรัมละ 1,200-1,600 บาท ซึ่งทุกรสได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีและต่อไปจะมีการพัฒนาแพ็กเกจใหม่ให้เหมาะสมกับการซื้อและบริโภค ทั้งนี้ ช่องทางการขายสินค้าที่ผ่านมาได้มีการกระจายสินค้าส่งขายไปยังร้านขายของฝาก ร้านขายยาและกลุ่มธุรกิจร้านกาแฟ เบเกอรี่และสนามบินทั่วประเทศ โดยปี 2557 มีการขยายตลาดทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.leesoaw.com. ทำให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป็นจำนวนเพิ่มมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีน เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ ที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี อนาคตอันใกล้เตรียมขยายตลาดเข้าไปยังญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ด้วย ------------------------ (ทำมาหากิน : 'ลีซอ' แมคคาเดเมียแปรรูป กลุ่มดอยช้างขายอาเซียน : โดย...อายุทัย นนท์นิติรัตน์)
ที่มา : http://www.komchadluek.net/detail/20150522/206660.html