จวก !! มาเลเซีย “ไร้มนุษยธรรม” ถามกลับทำไม “ผู้อพยพบอสเนีย” เข้าประเทศหน้าตาเฉย
18 พ.ค. 2558 ผู้แทนองค์กรสิทธิมนุษยชนโรฮีนจาออกโรงประณามรัฐบาลมาเลเซีย โดยระบุ “ไร้มนุษยธรรม” ไม่ต่างจากทางการเมียนมาร์ พร้อมตั้งคำถาม ทำไมมาเลเซียอ้าแขนรับผู้อพยพมุสลิมที่หนีภัยสงครามจากบอสเนียและปาเลสไตน์ได้หน้าตาเฉย แต่กลับผลักไสชาวมุสลิมโรฮีนจากลับไปสู่“ทุ่งสังหาร” ในเมียนมาร์
ซาฟาร์ อาหมัด อับดุล กานี ประธานของ Myanmar Ethnic Rohingya Human Rights Organisation Malaysia (Merhrom) ซึ่งเป็นองค์กรเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนของชาวโรฮีนจาที่ใหญ่เป็นลำดับต้นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดใจให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสื่อดัง “มาเลย์ เมล์ ออนไลน์” โดยประณามรัฐบาลมาเลเซีย ว่า มีพฤติกรรมที่ไม่แตกต่างกับรัฐบาลเมียนมาร์ แม้แต่น้อยในการผลักไสผู้อพยพชาวโรฮีนจาไปสู่ “ความตาย”
ประธานองค์กร Merhrom ระบุ พฤติกรรมของทางการมาเลเซียในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งการเนรเทศชาวโรฮีนจาที่ถูกจับกุมส่งกลับไปยัง “ทุ่งสังหาร” ในเมียนมาร์ รวมถึงการใช้ “เรือรบ” สกัดกั้นเรือผู้อพยพโรฮีนจาในทุกรูปแบบไม่ให้ลอยลำเข้าสู่น่านน้ำมาเลเซียถือเป็นการแสดงออกถึงความไร้มนุษยธรรม ไม่ต่างจากสิ่งที่ทางการเมียนมาร์ปฏิบัติต่อชาวโรฮีนจา
ซาฟาร์ อาหมัด อับดุล กานี ซึ่งมีถิ่นพำนักในมาเลเซียมานานกว่า 23 ปี และมีสถานะเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ได้รับความคุ้มครองจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยังตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใดรัฐบาลมาเลเซียถึงดำเนินนโยบายด้านผู้อพยพแบบสองมาตรฐาน โดยเฉพาะการที่รัฐบาลมาเลเซียประกาศตัวอย่างออกนอกหน้าว่า ยินดีต้อนรับผู้อพยพชาวมุสลิมจาก “ปาเลสไตน์” และ “บอสเนีย-เฮอร์เซโกวินา” เข้าประเทศ แต่กลับปฏิเสธการลี้ภัยของชาวมุสลิมโรฮีนจาจากเมียนมาร์
“มันเป็นเรื่องที่ยากนักหรือที่รัฐบาลของคุณจะให้ความช่วยเหลือกับพวกเรา เพราะเหตุใดเล่ารัฐบาลของคุณถึงปฏิเสธที่จะปกป้องชาวโรฮีนจาและผลักไสพวกเขากลับไปยังทุ่งสังหารที่เมียนมาร์” ประธานองค์กร Merhrom กล่าว พร้อมทั้งเรียกร้องให้มาเลเซียใช้โอกาสที่ได้ดำรงตำแหน่ง “ประธานอาเซียน” ในขณะนี้ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อครั้งที่เกิดสงครามกลางเมืองในอดีตยูโกสลาเวียในช่วงทศวรรษ 1990 รัฐบาลมาเลเซียได้ประกาศเปิดประเทศรับผู้อพยพชาวมุสลิมจากบอสเนีย-เฮอร์เซโกวินา เข้าประเทศ และยังนำงบประมาณแผ่นดินของตนมาจัดสรรจ่ายเป็นค่าเลี้ยงดูผู้อพยพชาวบอสเนียทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กเป็น “รายเดือน” คิดเป็นวงเงินต่อหัวระหว่าง “70 – 105 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน” อีกด้วย
ขอขอบคุณ astv ผู้จัดการ
- องค์กรสิทธิฯประสานเสียงร้องให้ปล่อยตัว14นักศึกษา หลังถูกขังเรือนจำ กลุ่มปชต.ใหม่แถลงสู้ต่อ
- “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” ทรงเป็นประธาน ในพิธีไหว้ครูและพระราชทานเหรียญรางวัลการศึกษาแก่นักเรียนนายร้อยประจำปีการศึกษา
- “รมว.พลังงาน” จ่อขยับภาษีแอลพีจีภาคขนส่ง
- สหรัฐพร้อมช่วยชาติในอาเซียนรับภาระผู้อพยพ
- “ททท.”ชี้คนจีนแห่เที่ยวไทย-คาดปีนี้ไม่ต่ำกว่า 6ล้านคน