แอตต้าแนะรัฐบาลแยกกระทรวงท่องเที่ยวออกจากกีฬา

          แอตต้าแนะรัฐบาลใหม่แยกกระทรวงการท่องเที่ยวออกจากกีฬา พร้อมผ่าตัดโครงสร้างการทำงานครั้งใหญ่รอบ 12 ปี หวังลดความซ้าซ้อนงาน

         วันนี้ (8 ก.ย. 57) นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เปิดเผยว่า สมาคมฯมีแนวคิดเสนอให้ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พิจารณาปรับโครงสร้างการทำงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยแยกงานด้านการท่องเที่ยวออกจากการกีฬา เพื่อให้การทำงานมีความสอดคล้องและคล่องตัวกว่าปัจจุบัน ซึ่งตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ผลการปฏิบัติงานที่ออกมาสะท้อนได้ว่าทั้งสองส่วนไม่ควรอยู่รวมกัน

          นอกจากนี้ควรปรับโครงสร้างภารกิจการทำงานใหม่ให้มีความชัดเจนระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กับกรมการท่องเที่ยว เพื่อลดความซ้ำซ้อนกันของเนื้องาน ประหยัดงบประมาณแผ่นดินและเวลาการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ไปข้่างหน้า มากกว่าการย่ำอยู่กับที่

          อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า กรมการท่องเที่ยวทำงานซ้ำซ้อนกับททท.โดยมองว่าภารกิจหลักควรเน้นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ไม่ใช่การทำตลาด ซึ่งทั้งสองหน่วยงานต้องหารือกันว่าการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต้องสอดคล้องกับการส่งเสริมการตลาดมากกว่าต่างคนต่างทำ

         ”ปัญหาในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่หมักหมมมายาวนาน เอกชนท่องเที่ยวคาดหวัง ว่ารมต.กอบกาญจน์จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้ลดลง พร้อมประสานการทำงานร่วมกับทักฝ่าย และรับฟังความคิดเห็นจากเอกชนมากขึ้น เพราะเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับปัญหาและนักท่องเที่ยวมากที่สุดโดยผลงานที่ผ่านมากระทรวงอยู่ในเกณฑ์ 7 เต็ม 10 คะแนน” นายศิษฎิวัชร กล่าว

          สำหรับภารกิจการทำงานที่รัฐมนตรีคนใหม่ควรดำเนินการอย่างเร่งด่วน การวางนโยบายด้านการท่องเที่ยวให้มีความชัดเจน สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริง การแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยว เช่น นอมินี เร่งพัฒนาบุคลากรและข้าราชการด้านการท่องเที่ยวให้มีศักยภาพ รวมถึงปรับเปลี่ยนกฎหมายที่ล้าสมัย ไม่สอดคล้องกับสภาพการประกอบธุรกิจปัจจุบัน รองรับการเปิดเสรีอาเซียนปี 2558

          ด้าน นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สทน.เห็นด้วยกับแนวคิดการแยกการท่องเที่ยวออกจากการกีฬา รวมถึงการเฟ้นหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถด้านการท่องเที่ยวมานั่งในตำแหน่งสำคัญด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้การวางแผนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวมีศักยภาพเต็มที่

          นอกจากนี้ต้องปรับโครงสร้างการทำงานของททท. กรมการท่องเที่ยว ตำรวจท่องเที่ยวให้ชัดเจน โดยเฉพาะตำรวจท่องเที่ยวควรมอบอำนาจการสอบสวนให้กับตำรวจท่องเที่ยว เพื่อให้กระบวนการช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวเกิดความเบ็ดเสร็จ