‘บิ๊กตู่’ กร้าว ใครวิ่งเต้นเป็น สนช. ให้หยุด
“หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ” แจง ผลิตผลการเกษตรพร้อมเข้า AEC ชี้ ไม่ละเมิดสิทธิ “ยิ่งลักษณ์” ไฟเขียวให้เดินทางออกนอกประเทศ ยันเน้นหลักสิทธิมนุษยชน โวย พวกเรียกร้องประชาธิปไตย ย้ำ รู้ตัวคนรับประโยชน์ช่วยวิ่งเต้นเป็น สนช. เตือนให้หยุด เผยหากเสียเงินเข้ามา จะถูกปลดภายหลัง จวก บัตรสนเท่ห์ โจมตี ทบ.-คสช. จัดซื้ออาวุธ ยันก่อนซื้อผ่านขั้นตอนตรวจสอบ วอนไว้ใจหยุดโจมตี ไฟเขียว! องค์กรท้องถิ่น เลือกตั้ง ก่อน 22 พ.ค. แจง คสช. ระงับการเลือกตั้ง ระดับท้องถิ่น แค่หลักร้อย จากหลายพันแห่ง เหตุเลือกตั้ง ก่อน 22 พ.ค.ชี้ให้ กกต.ประกาศผลรับรองได้ ย้ำปัญหาการสรรหาบุคคล ต้องโปร่งใส หวังสร้างบุคลากรที่ดี 3 ระดับ
เมื่อเวลา 20.10 น. วันที่ 25 ก.ค.57 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่าการเดินหน้าด้านเศรษฐกิจ ที่สำคัญคือการฟื้นฟูความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีตัวแทนสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจ ตัวแทนสมาคมไทย-จีน ตัวแทนสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ได้เข้าพบหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ โดยทุกฝ่ายได้แสดงเข้าใจและได้รับทราบนโยบายของ คสช. ซึ่งน่าจะส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นในการค้าการลงทุนของทุกภาคส่วน และจะทำให้สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้นในอนาคต
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เรื่องการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ AEC ฝ่ายเศรษฐกิจ ได้ขับเคลื่อนงานสำคัญ ๆ ไปหลายประการด้วยกัน ในด้านความร่วมมือด้านการค้าทั้งในกรอบ พหุภาคี และทวิภาคี เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เช่น การประชุมหารือของฝ่ายอาเซียน การประชุมคณะกรรมการเจรจาทางการค้า สำหรับการจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง การประชุมอาเซียน-เกาหลี เพื่อเจรจาเปิดตลาดสินค้าเพิ่มเติม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาสินค้าทางการเกษตรตามแนวชายแดน จากนโยบายของ คสช. ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ เป็นเจ้าภาพ ในการหารือร่วมกับส่วนราชการและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในการกำหนดยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาดังกล่าวในภาพรวมทุกมิติ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการกำหนดจุดเข้า-ออกสินค้า พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ปริมาณ และประเภทของผลผลิตทางการเกษตรในแต่ละพื้นที่ ซึ่งไม่เหมือนกัน การแปรรูป และการเพิ่มมูลค่าสินค้า การควบคุมคุณภาพ การส่งออก รวมถึงระบบภาษี การลงทุน ความร่วมมือกับภาคเอกชน และข้อตกลงระหว่างประเทศ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างพื้นฐานคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ให้มีรายได้ และเป็นการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านไปพร้อมกันไปด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เรื่องของการส่งเสริมการลงทุน ในห้วง 1 เดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ได้อนุมัติไปแล้วทั้งสิ้น 92 โครงการ มีวงเงินลงทุนจากภาคเอกชนประมาณ 2.6 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการปลดล็อกโครงการที่ค้างการพิจารณาในห้วงที่บ้านเมืองมีปัญหามาได้ส่วนหนึ่ง
“เรื่องสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรและแนวทางการกำกับดูแล กลุ่มสินค้าเกษตรที่มีราคาเพิ่มขึ้น จากสัปดาห์ที่ผ่านมามี 5 รายการ ได้แก่ ลำไยจากภาคเหนือ เนื่องจากโรงงานอบแห้งลำไยเข้ามารับซื้อ ทำให้ตลาดมีการแข่งขันสูงขึ้น คงต้องระมัดระวังเรื่องของพ่อค้าคนกลางอาจจะมีการกดราคาอยู่บ้าง ก็ขอให้แจ้งมายังกระทรวงพาณิชย์ ผมได้สั่งการกระทรวงพาณิชย์ไปแล้วให้แก้ไขในเรื่องของการผูกขาด หรือการกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง ต้องพยายามแก้ให้ได้ เรื่องทุเรียน เงาะ ลองกอง จากภาคใต้ เนื่องจากมีผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง เพราะฉะนั้นมาตรการในการรักษาระดับเพิ่มราคาสินค้าในกลุ่มนี้ ยังคงใช้มาตรการกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตให้ได้ในช่วงที่มีผลผลิตมาก รวมทั้งการผลักดันส่งออกทั้งตลาดเดิมและการหาตลาดใหม่ต่างประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องของกล้วยไม้ ขณะนี้แม้จะมีราคาเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่ถือว่าเพิ่มขึ้นในเกณฑ์ต่ำ เพราะว่าตลาดต่างประเทศมีความต้องการลดลง เนื่องจากผู้บริโภคหันไปซื้อกล้วยไม้พันธุ์ฟาแลนจากสิงคโปร์แทน รวมทั้งคุณภาพกล้วยไม้ไทยยังไม่ค่อยได้มาตรฐาน จะส่งผลให้เกษตรกรขาดทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่สามารถจะซื้อปุ๋ย หรือพัฒนาพันธุ์ให้ดีขึ้นได้ สำหรับมาตรการในการรักษาระดับเพิ่มราคากล้วยไม้ ทางรัฐจะสนับสนุนการวิจัยและทดสอบเทคโนโลยีการปลูก การส่งเสริมการปรับปรุงพันธุ์ และลดภาษีในการนำเข้าผงวุ้น เพื่อการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อกล้วยไม้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กลุ่มสินค้าเกษตรที่มีราคาคงที่ จากสัปดาห์ที่ผ่านมา มี 2 รายการ ได้แก่ มันสำปะหลัง ราคาคงที่ เนื่องจากความต้องการซื้อมันเส้นและแป้งมันยังคงมีต่อเนื่อง มาตรการในการเพิ่มระดับราคาของมันสำปะหลัง เนื่องจากอยู่ในช่วงการเพาะปลูกสำหรับฤดูกาลใหม่ จะเน้นการให้ความรู้ในการดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ รวมทั้งปัจจุบัน คสช. ได้ตั้งคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบาย ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพื่อกำกับดูแลปริมาณ และเสถียรภาพราคา ให้เกษตรกรได้ผลตอบแทนเต็มที่ เหมาะสม เป็นธรรม และสอดคล้องกับการระบายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในสต๊อกของรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เรื่องอ้อยราคายังคงที่ เนื่องจากเราใช้วิธี “การประกาศกำหนดราคาอ้อย” ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อ้อยและน้ำตาลทราย ปีพ.ศ.2527 โดยการประกาศราคาล่าสุด เมื่อ 17 ธันวาคม 2556 ที่ราคาตันละ 900 บาท ส่วนของมาตรการในการเพิ่มราคาของอ้อย เราจะเร่งพัฒนาอ้อยพันธุ์ดี ให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งขยายอ้อยพันธุ์ดีให้เพียงพอกับความต้องการของชาวไร่อ้อย มีการแนะนำการปรับปรุงดิน การใช้ปุ๋ยเคมีที่จะต้องลดลง ให้มีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ให้มากขึ้น มีประสิทธิภาพ และต้องเร่งพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลในทุกระบบ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มนักธุรกิจภาคอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทั่วโลกได้มาร่วมงาน ASIAN SUGAR NIGHT IN BKK 2014 และได้เข้าพบกับคณะ คสช. ซึ่งผมได้ชี้แจงอธิบายถึงสถานการณ์ของไทยและยืนยันกับเขาว่า การดำรงความสัมพันธ์และการค้าขายกับกลุ่มนักธุรกิจเหล่านั้น เราจะดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามนโยบายการผลิตและส่งออกอ้อยและน้ำตาลของไทยจะต้องพิจารณาความต้องการของผู้ซื้อจากต่างประเทศและผู้ผลิตน้ำตาลดิบของไทย ตลอดจนนโยบายของรัฐบาล และจะต้องดูแลเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่มีอยู่ประมาณ 3 แสนราย มีแรงงานอยู่เป็นล้านคน และโรงงานน้ำตาลมีถึง 50 โรงในปัจจุบันจะต้องดูแลควบคู่กันไปกับการผลิตที่มีประสิทธิภาพและเพียงพอ และเหมาะสมกับความต้องการทั้งในประเทศ และกับประเทศผู้ค้าด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกลุ่มสินค้าเกษตรที่มีราคาลดลง จากสัปดาห์ที่ผ่านมา มี 2 รายการ ปาล์มน้ำมัน ราคาปรับลดลงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดน้ำมันปาล์มดิบมาเลเซียปรับตัวลดลง ซึ่ง เป็นไปตามกลไกตลาด แนวทางการกำกับดูแล ติดตามระบบการค้าในประเทศ เพื่อรักษาระดับราคาผลปาล์มให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันปาล์มสู่การบริโภค
“เรื่องข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาปรับลดลง เนื่องจากข้าวโพดที่เก็บเกี่ยวในต้นฤดูฝนมีความชื้นสูง ในแนวทางการกำกับดูแล แนะนำ ให้ความรู้กับเกษตรกรเกี่ยวกับ วิธีการจัดเก็บ การเก็บรักษาเพื่อรักษาความชื้นของข้าวโพดให้อยู่ในระดับมาตรฐาน การกำกับดูแลสินค้าเกษตร ปัจจุบันได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์ช่วยเหลือผลิตผลทางการเกษตร” และ“ศูนย์บริการประชาชนด้านการเกษตร” เพื่อเป็นช่องทางการให้ความร่วมมือ และการให้คำแนะนำการแก้ปัญหาต่างๆ แก่เกษตรกรในทุจังหวัด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับผลผลิตทางการเกษตรของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ มังคุด และลองกอง ซึ่งในปีนี้ คาดว่าจะมีผลผลิตจำนวนมาก และล้นตลาดนั้น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้รายงานขอแนวทางแก้ไขขึ้นมาแล้ว คสช. กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ได้แก่ การหาหรือเพิ่มตลาด การกระจายผลผลิตไปยังพื้นที่อื่น ๆ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เรื่องปัญหาราคายางตกต่ำ สำหรับปัญหาที่พี่น้องเกษตรกรสวนยางพาราประสบอยู่ในปัจจุบัน ในเรื่องปัญหาราคายางตกต่ำ เนื่องจากผลิตผลทั่วประเทศเพิ่มขึ้นจากการรณรงค์การเพาะปลูกยางตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมานั้น คสช. ได้ให้ส่วนราชการเกี่ยวข้องไปพิจารณาหาแนวทาง ทั้งมาตรการทั้งระยะสั้น ระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องสิทธิมนุษยชน วันนี้ คสช. อยากจะเรียนให้ต่างประเทศได้เข้าใจว่า เรามิได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงแต่ประการใด เราไม่มีนโยบายให้เกิดกรณี การทำร้าย ทารุณอย่างรุนแรงต่อศักดิ์ศรีมนุษย์ การฆ่า การทรมาน การข่มขืน แต่ในสภาวะไม่ปกติเช่นนี้ เราคงมีความจำเป็นในบางเรื่องที่อาจจะส่งผลกระทบอยู่บ้างต่อสิทธิ์ของประชาชน เช่น การกำหนดให้สื่อมีความระมัดระวังในการเสนอข่าว ผมใช้คำว่าระมัดระวัง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า การมีมาตรการสำหรับการเดินทางนอกประเทศของบางท่าน คสช. อยากจะขอให้ทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรระหว่างประเทศได้เข้าใจถึงความจำเป็นในการใช้กฎหมายพิเศษเพื่อควบคุมสถานการณ์ และปกป้องประชาชนและความมั่นคงของรัฐในช่วงการเปลี่ยนผ่านและการปฏิรูปในขณะนี้”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการส่งกลับผู้ลี้ภัยจากการสู้รบทางด้านชายแดนไทย-พม่า ว่า เรายังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ เป็นเรื่องของรัฐบาลไทยกับรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้าน ต้องหามาตรการที่เหมาะสมและปลอดภัยให้กับผู้ลี้ภัยจากการสู้รที่สำคัญ จะต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ได้เป็นการดำเนินการโดยฝ่ายความมั่นคงหรือทหารแต่ประการใด ส่วนเรื่องโรฮิงญา ก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากมีขบวนการนำพาโรฮิงญาเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย ฉะนั้นเราจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมอย่างรัดกุมและชัดเจน หากไม่ดำเนินการก็จะเกิดการค้ามนุษย์ และการหลบหนีภัยจากการสู้รบที่ไม่เป็นธรรมชาติเกิดขึ้นในประเทศไทยต่อไปอีก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ รองเสนาธิการทหารบก เข้าร่วมหารือกับคณะผู้แทนองค์กรนิรโทษกรรมสากล (AI) โดยได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อข้อห่วงใยขององค์กรนิรโทษกรรมสากลในประเด็น สถานการณ์ความรุนแรง และการดำเนินการของ คสช. ทั้งก่อนและหลังการประกาศใช้กฎอัยการศึก และการเข้าควบคุมอำนาจ ในเรื่องของการจำกัดสิทธิและเสรีภาพ การเคารพในสิทธิมนุษยชน บทบาทของ คสช.หลังมีรัฐบาล การแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว และผู้ลี้ภัยจากการสู้รบชาวพม่า
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ภายหลังการชี้แจง คณะผู้แทน AI ได้รับทราบและเข้าใจต่อสถานการณ์ในไทย และมีท่าทีเห็นด้วยและมีทัศนคติเชิงบวกต่อแนวทางการดำเนินการของ คสช. ในเรื่องสิทธิมนุษยชนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ผู้แทน คสช. ได้ขอความร่วมมือให้คณะผู้แทน AI ช่วยให้ข้อมูลที่ถูกต้องต่อสถานการณ์ของไทยในเวทีต่าง ๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม คสช. ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอด ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณามอบหมายให้มีคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกมิติ อย่างเช่น มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงไปดำเนินการ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว วันนี้ คสช. ได้รับทราบปัญหาของแรงงานต่างด้าวที่ยังไม่มีพาสปอร์ต ทำให้ไม่สามารถเดินทางเข้าไทยได้ ในขณะนี้ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการดำเนินการขอพาสปอร์ตที่ประเทศต้นทาง คือประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ ได้มอบให้ฝ่ายความมั่นคง ไปหามาตรการแก้ไขโดยเร่งด่วนแล้ว
“ต้องขอขอบคุณทุกส่วนราชการ ที่ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาในห้วงที่ผ่านมา ปัจจุบันปัญหาได้รับการคลี่คลายลงแล้ว โดยผู้ประกอบการธุรกิจต่าง ๆ ดำเนินการได้อย่างคล่องตัวขึ้น เจ้าของเรือประมงที่มีลูกจ้างเป็นแรงงานต่างด้าวได้มาขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวไปแล้ว จำนวน 53,260 คน และเมื่อวันที่ 22 ก.ค. คสช. ได้เปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว one stop service เพิ่มเติมจนครบทั้ง 22 จังหวัดติดชายทะเลแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย นั้นว่า คสช. ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องแปลก แต่ที่แปลกก็มีอยู่เพียงว่า สถานการณ์ประชาธิปไตยไทยที่ผ่านมา มีปัญหามาโดยตลอดในทุกมิติ ทั้งนักการเมือง การเข้าสู่ระบบ อำนาจบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ การทุจริต ความไม่โปร่งใส เอื้อประโยชน์ และผลประโยชน์ทับซ้อน จนทำให้ข้าราชการไม่สามารถปฏิบัติงานในการให้การบริการกับประชาชนได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ผมไม่เข้าใจว่า ผู้เรียกร้องเหล่านั้น มองข้ามเรื่องที่กล่าวมาไปได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ การประท้วงที่ยาวนาน มาตั้งแต่ปี 2549 -2553-2556 และปี 2557 ที่ต่างฝ่ายต่างกล่าวอ้างว่า ทำเพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอด คสช. ต้องการที่จะยุติและแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ยั่งยืน น่าจะมองเหตุผลตรงนี้มากกว่า น่าจะเข้าใจกัน และก็ไปหาว่าใครที่ทำให้เกิดสถานการณ์เหล่านั้น หากท่านมาประณามเรา ซึ่งเราจะเข้ามาแก้ไข ไม่น่าจะถูกต้องเท่าไหร่นัก ก็ขอความเป็นธรรมด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า มีการเรียกร้องผลประโยชน์ ในการแต่งตั้งบอร์ด สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รัฐบาล ผมพูดมาหลายครั้งแล้วก็ยังมีอยู่ ทราบแล้วว่าใครเป็นคนไปเรียกร้อง ยืนยันว่า คสช. ไม่มีทั้งสิ้น และกำลังหาวิธีการดำเนินการตามกฎหมาย ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว และผู้ที่เคยเสียเงินเสียทองให้ไป ให้เรียกคืนโดยทันที มิฉะนั้นท่านอาจจะเสียเงินเปล่า คนที่ได้รับการแต่งตั้งจาก คสช.ในปัจจุบันนั้น คสช. จะมีการตรวจสอบโดยคณะกรรมการของ คสช. ทั้งในด้านประวัติส่วนตัว ผลการปฏิบัติงาน การทุจริตคอร์รัปชัน การถูกฟ้องร้อง หรืออยู่ในกระบวนการฟ้องร้อง โดยจะตรวจสอบทั้งหมด มิได้รับรายชื่อมาจากผู้ใดแล้วแต่งตั้ง ไม่ใช่แบบนั้น หากแต่งตั้งไปแล้วตรวจพบมีความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี ปลดออกเช่นกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้มีการเรียกร้อง มีบัตรสนเท่ห์ โจมตี คสช. และ กองทัพบก ถือว่าเป็นการเรียกร้อง ใส่ความที่ไม่เป็นธรรม ในการจัดซื้อจัดหาอาวุธ สิ่งนี้ได้เรียนมาหลายครั้งแล้วว่ามีการตรวจสอบอยู่แล้ว ฉะนั้นที่ผ่านมาก่อนจะซื้ออะไรได้ มีการตรวจสอบมาทั้งสิ้น หน่วยงานของรัฐ ก็ถามมา คสช. ก็ตอบไป จนบางครั้งทำให้การจัดหาจัดซื้อเกิดความล่าช้าก่อนกำหนด ก็ต้องไปแก้ไขต่อไปเรื่อยๆ เพราะ คสช. ต้องการให้ทุกคนไว้วางใจ เพราะฉะนั้นอย่าโจมตีกันอีกเลยในเรื่องเหล่านี้ เพราะว่าเมื่อซื้อมาแล้วเกิดชำรุด ก็ต้องซ่อมกันต่อไป
“บางอย่างเราไม่ได้ผลิตเอง ไม่ได้ทำเองทั้งสิ้น บางอย่างต้องซื้อมา เพื่อทดลองใช้งาน และนำไปสู่การวิจัยและพัฒนา ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ด้วย นี่ก็เรียนมาให้ทราบเท่านั้นเอง เราก็อยากจะมีการผลิต มีการออกแบบ มีการผลิตเอง มีงบประมาณในการวิจัยพัฒนา แต่บางอย่างต้องใช้เวลานานมาก เพราะ คสช. ทำเองไม่ไหวแน่ ส่วนกรณีการเรียกรับผลประโยชน์ ในโครงการที่ คสช. ได้อนุมัติไปของทุกกระทรวง นั้น ตนยืนยันว่า ทุกกระทรวง ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น รวมทั้งการก่อสร้าง การบริหารจัดการน้ำ การขุดลอกคูคลอง สาธารณูปโภคพื้นฐาน และอื่นๆ ได้มีการอ้างว่า สามารถเคลียร์กับ คสช. เคลียร์กับหัวหน้า คสช. ได้ และมีการแบ่งการเรียกรับผลประโยชน์ให้กับ คสช. อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ พลเรือน ตำรวจ ทหาร หรือใครก็ตาม ขอให้แจ้ง คสช. ทราบโดยทันที คสช. จะดำเนินการโดยด่วน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริต ผิดกฎหมาย ตั้งแต่เริ่มจัดทำแผนงานโครงการ จนกระทั่งถึงขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ มีปัญหามาโดยตลอด ต้องช่วยกันดูแล ต้องทำให้โปร่งใส ตั้งแต่เรื่องการจัดทำงบประมาณ แผนงาน โครงการ การเปิดประมูลให้มีการแข่งขันโดยเสรี รอฟังเวลาเขาประกาศเชิญชวนไปแข่งขัน ก็ไป ถ้าท่านไม่ไป แล้วบอกว่าไม่รู้ไม่เข้าใจ ก็คงไม่ได้ ท่านต้องไปแข่งขันสู้กับเขาโดยเสรี ปัจจุบัน คสช. มีคณะกรรมการตรวจสอบทุกขั้นตอน และแต่ละกระทรวง ทบวง กรม แต่ละระดับก็จะมีความรับผิดชอบตามลำดับชั้นลงไป จะต้องไม่มีเด็ดขาด ในเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การแก้ไขปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน เป็นนโยบายของ คสช. อยู่แล้ว ในช่วงนี้เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยมีคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายภาครัฐ (คตร.) เข้าตรวจสอบแผนงานโครงการที่ใช้งบประมาณมากๆ ของแต่กระทรวง แต่ละส่วนราชการ ก็มีอีกหลายโครงการที่มีลักษณะผิดปกติ ทั้งนี้ได้สั่งให้ทบทวน และระงับในบางกรณี รวมทั้งได้ให้ส่วนราชการต่างๆ ได้วางรากฐานการตรวจสอบ ป้องกัน การทุจริตคอร์รัปชั่น การปลูกฝัง ส่งเสริม การเป็นข้าราชการที่ดีในทุกระดับ เช่น กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการสร้างมาตรการกำหนดให้ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ปฏิบัติงานตามหลักธรรมาภิบาล จริยธรรม และนำหลักการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส มาใช้ในการทำงาน ซึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติที่ดี ส่งเสริมความโปร่งใสในการทำงานของภาครัฐ ซึ่งหากทุกกระทรวง ทุกส่วนราชการ มุ่งเน้นในเรื่องนี้ ก็จะเป็นรากฐานที่ดีต่อข้าราชการไทยต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการกระจายอำนาจการบริหารราชการ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น ว่า ที่มีอยู่แล้วเดิมนั้น คสช. ไม่ได้มองว่ามีปัญหาอะไรที่มากนัก มีแต่เพียงการสรรหาบุคคลในการทำหน้าที่ในเรื่องของความโปร่งใส ความมีประสิทธิภาพ ก็ยังมีปัญหาอยู่บ้างเล็กน้อย ก็ต้องปฏิรูปให้เกิดความชอบธรรม เป็นธรรม และทั่วถึง ไม่ได้มุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เราต้องอย่าลืมว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว เป็นรัฐเดียว ไม่สามารถแบ่งแยกได้ ทั้งดินแดน ประชาชน การปกครอง ตามมาตรา 1 ที่กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญ และมาตราอื่นๆ ก็ได้กำหนดไว้ ให้มีการปกครองในลักษณะส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่นอยู่แล้ว เราให้ความสำคัญกับข้าราชการทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด แต่ก็จำเป็นต้องมีการยึดโยงกับส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคไว้ด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการถ่วงดุลอำนาจไว้ หากสามารถสร้างบุคลากรทั้ง 3 ระดับให้ดีได้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ ตราบใดที่มีการสอดประสานกัน เป็นการดูที่จะได้มีการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เติมช่องว่างที่ขาดได้ ปัญหาสำคัญอยู่ที่คน ถ้าเรามีความรู้ มีคุณภาพ เสียสละ โปร่งใส นึกถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าตนเอง และพวกพ้อง มันก็ต้องดี
“ส่วนกรณีที่มีการเลือกตั้ง ก่อนวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา ของส่วนท้องถิ่น ก็อนุญาตให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สามารถประกาศผลรับรองได้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ผ่านการตรวจสอบเรื่องใบเหลือง ใบแดง ส่วนใดที่ยังมีปัญหาอยู่ก็ชะลอการเลือกตั้งทดแทนไปก่อนเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีคำสั่ง เรื่องนี้ คสช. ได้มอบให้กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ได้ชี้แจงทำความเข้าใจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ กกต. จังหวัด ดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวแล้ว ซึ่งมีไม่กี่แห่งเป็นจำนวน 100 แห่ง ในจำนวนหลายๆ พันแห่งที่หมดอายุลงไปเท่านั้นเอง ขอเวลาสักเล็กน้อยก่อน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ไทยรัฐออนไลน์
- องค์กรสิทธิฯประสานเสียงร้องให้ปล่อยตัว14นักศึกษา หลังถูกขังเรือนจำ กลุ่มปชต.ใหม่แถลงสู้ต่อ
- “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” ทรงเป็นประธาน ในพิธีไหว้ครูและพระราชทานเหรียญรางวัลการศึกษาแก่นักเรียนนายร้อยประจำปีการศึกษา
- “รมว.พลังงาน” จ่อขยับภาษีแอลพีจีภาคขนส่ง
- สหรัฐพร้อมช่วยชาติในอาเซียนรับภาระผู้อพยพ
- “ททท.”ชี้คนจีนแห่เที่ยวไทย-คาดปีนี้ไม่ต่ำกว่า 6ล้านคน