ยกศักดิ์ศรีประเทศไทยโต้ สหรัฐ-อียู ‘บิ๊กตู่’ลั่นในคสช.
ยกศักดิ์ศรีปท.โต้ สหรัฐ-อียู ‘บิ๊กตู่’ลั่นในคสช.
โดย ทีมข่าวหน้า1 ไทยรัฐ
25 มิ.ย. 2557 07:35
ปลัดกต.พบทูตยุโรป อัดผิดหวัง-ด่วนสรุป จี้ให้ทบทวนควํ่าบาตร สั่งทูตไทยเร่งชี้แจง
คสช.มั่นใจทำความเข้าใจ “อียู” ได้ หลังออกแถลงการณ์ประณามกองทัพไทย “ประยุทธ์” ลั่นต้องคิดถึงศักดิ์ศรีประเทศก่อนอื่นใด ยอมรับ คสช.ยังมีปัญหาติดขัดในการขับเคลื่อนประเทศ โฆษก คสช.เชื่อโลกตะวันตกเข้าใจสถานการณ์ในไทยคลาดเคลื่อน กต.เชิญทูตอียูหารือ บอกผิดหวัง ไม่เห็นด้วยกับมาตรการอียู ขอให้ทบทวน ชี้ด่วนสรุปไม่คุยทำความเข้าใจกับไทยก่อน พร้อมสั่งทูตไทยในยุโรปชี้แจงนานาชาติ หลังสินค้าอาหารถูกกีดกันนำเข้า ภาคเอกชนยังเชื่อมั่น มาตรการอียูไม่กระทบการค้า-ลงทุน คสช.ไฟเขียวปรับงบขยายวงเงินสร้างโรงพักฉาว ลุยจัดระเบียบแท็กซี่-รถตู้ แก้ปัญหาถาวร กระทรวงคมนาคมเตรียมชง คสช.ต่ออายุรถเมล์-รถไฟฟรีอีกปีครึ่ง “บิ๊กแจ๊ด” เจ้าของวลีเด็ด “มีวันนี้เพราะพี่ให้” ลาออกประธานบอร์ดท่าเรือแล้ว
หลังจากกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ออกแถลงการณ์ประณามกองทัพไทย จี้ให้รีบคืนอำนาจการปกครองนำไปสู่การเลือกตั้ง พร้อมทั้งระงับการเยือนอย่างเป็นทางการ และเลื่อนการลงนามข้อตกลงเพื่อความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือกับประเทศไทย ล่าสุดคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถอธิบายทำความเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทยได้ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. หัวหน้า คสช. ระบุว่า การดำเนินการใดๆต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีประเทศ
“ประยุทธ์” ยักไหล่ “สหรัฐฯ–อียู” บีบ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุม คสช.ครั้งที่ 3/2557 โดยมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองหัวหน้า คสช. และหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้า คสช. และหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้า คสช.และหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช. หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. พร้อมด้วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในการประชุมว่า “ปัจจุบันงานของ คสช.มีหลายเรื่องที่ต้องเดินหน้าไปด้วยความรวดเร็ว ต้องลดขั้นตอนลง เพราะการดำเนินงานของ คสช.ยังมีปัญหาในการขับเคลื่อน ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ได้ร่วมมือกัน ทำให้งานของ คสช.เดินหน้าไปได้ แม้สหรัฐอเมริกาและยุโรป จะมีท่าทีคัดค้านการเข้าบริหารงานของ คสช.อยู่บ้าง แต่เราก็ต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีของประเทศ ไทยด้วย”
เดินหน้ามาตรการช่วยเหลือเกษตรกร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวาระการประชุมวันนี้มีการพิจารณาเรื่องเพื่อทราบ 2 เรื่องคือ รายงานความก้าวหน้าเกี่ยวกับการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และรายงานการชดใช้คืนเงินสำรองตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกประจำปีการผลิต 2556/2557 และมีเรื่องที่พิจารณาจำนวน 17 เรื่อง อาทิ โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2557, การให้ความ ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย ในฤดูการผลิต ปี 2556/2557, การขออนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 และงบกลางในโครงการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเพื่อควบคุมและลดความสูญเสียของสินค้ากุ้งทะเล, การขออนุมัติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับสุดยอดผู้นำแผนงานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ หรือ GMS ครั้งที่ 5 ในประเทศไทย, การขออนุมัติเปลี่ยนแปลงการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทน จำนวน 396 แห่ง ส่วนเรื่องอื่นๆจะมีการชี้แจงเรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม และความคืบหน้าผลการดำเนินการเกี่ยวกับปัญหาแรงงานต่างด้าว
คสช.มั่นใจทำความเข้าใจอียูได้
เมื่อเวลา 16.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ ของประเทศสมาชิกแห่งสหภาพยุโรป (อียู) ปรับลดระดับความสัมพันธ์ระหว่างอียู-ไทยว่า ไทยจะใช้มาตรการสร้างความเข้าใจในข้อกังวล อย่างเรื่องสิทธิมนุษยชน ไม่ได้ดำเนินการแค่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด การควบคุมตัวยืนยันว่าได้ปล่อยตัวหมดแล้ว แต่ทางตะวันตกในขณะนี้ยังมีการพูดถึงการควบคุมตัว บางกลุ่มองค์กรเอ็นจีโอเองก็ยังมีการพูดถึงการซ้อม การทรมาน ซึ่งค่อนข้างห่างไกลจากความเป็นจริง จึงอาจเป็นสิ่งชี้ให้เห็นว่าข้อมูลที่เผยแพร่ในปัจจุบัน ไม่ใช่ข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือเต็มที่ แต่ไม่ได้ไปตำหนิติเตียนใคร คนส่วนใหญ่เข้าใจเหตุผลความจำเป็นที่ คสช.ได้ทำ และปฏิบัติ ส่วนห้วงเวลากลับคืนสู่ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเรื่องที่ขอความเห็นใจมาตลอดว่า กำลังอยู่ระหว่างการปรับกระบวนการนำไปสู่ระบอบ ประชาธิปไตยที่มีความสมบูรณ์จริงๆ โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่หัวหน้า คสช. กำหนดไว้ 3 ระยะ มีกรอบเวลาที่ชัดเจนที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง อยู่บนหลัก เหตุผล ข้อเท็จจริง เชื่อมั่นทำความเข้าใจอียูได้
อดทน-เคารพการตัดสินใจ“อียู”
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ทีมโฆษก คสช. กล่าวว่า กรณีที่อียูประกาศลดสัมพันธ์กับไทย กระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการมาตรการต่างๆออกมา บางเรื่องการเจรจาเศรษฐกิจ การค้า ไม่ได้มีผลกระทบอะไร สิ่งที่อียูทำเป็นสิ่งที่เราเข้าใจได้ เราก็ต้องมีความอดทนอดกลั้นบนพื้นฐานความเท่าเทียมกันของแต่ละประเทศในการสร้างความเข้าใจและชี้แจง เพราะแต่ละประเทศก็มีศักดิ์ศรีของตัวเอง ต้องยอมรับในสิ่งที่เขาตัดสินใจ อียูก็น่าจะยอมรับในสิ่งที่เราตัดสินใจเช่นกัน ต่อข้อถามว่า จากท่าทีของอียูเช่นนี้ คิดว่ามีการเมืองระหว่างประเทศเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ พ.อ.หญิงศิริจันทร์ตอบว่า ไม่สามารถพูดได้ เมื่อถามว่า หากเราชี้แจงแล้ว แต่ละประเทศตั้งใจที่จะไม่เข้าใจเราจะทำอย่างไร พ.อ.หญิงศิริจันทร์ตอบว่า ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
“บิ๊กเจี๊ยบ” เปิดงาน “AMCDRR” 63 ปท.ร่วม
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศูนย์ประชุมบางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานเปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีแห่งเอเชียว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ครั้งที่ 6 (The 6th Asian Ministerial Conference on Disaster Risk Reduction 2014 – AMCDRR) โดยมีกระทรวงมหาดไทยร่วมกับสำนักงานว่าด้วยกลยุทธ์ระหว่างประเทศเพื่อการลดภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ การประชุมจัดขึ้นในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 22-26 มิ.ย. 2557 โดยมีผู้แทนรัฐบาลระดับรัฐมนตรี 18 คน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ที่รับผิดชอบด้านการจัดการภัยพิบัติจาก 63 ประเทศเข้าร่วมประชุมในหัวข้อ “การส่งเสริมการลงทุนเพื่อทำให้ประเทศและชุมชนพร้อมรับและฟื้นกลับเร็วจากภัยพิบัติ”
พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวตอนหนึ่งว่า ดีใจที่ได้รับเกียรติจากพวกท่าน เวทีนี้เป็นการหารือระหว่างประเทศระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ผลที่ได้จากการประชุมครั้งนี้ จะนำเสนอต่อที่ประชุมระดับโลกเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ สมัยที่ 3 ในเดือน มี.ค. 2558 ณ ประเทศญี่ปุ่น
ชี้นานาชาติยังเชื่อมั่น คสช.
พล.อ.ธนะศักดิ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศคว่ำบาตรกองทัพไทย พร้อมเรียกร้องให้คืนการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยว่า เราได้ใช้เวทีการประชุมระดับรัฐมนตรีแห่งเอเชียว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ครั้งที่ 6 ที่มี 63 ประเทศ 18 รัฐมนตรี เข้าร่วมในวันนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่า ต่างประเทศ มีความเชื่อมั่นในประเทศไทยและ คสช. ส่วนกรณีที่อียู ประกาศคว่ำบาตรไทยนั้น กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ชี้แจง
“ปนัดดา” ยันกลับสู่ภาวะปกติแล้ว
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าประเทศไทยและ คสช.มีนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ การที่ พล.อ.ธนะศักดิ์มาเป็นผู้เปิดงานในวันนี้ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยได้กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากที่มีปัญหาทางการเมืองมายาวนาน และเกิดผลกระทบกับหลายฝ่าย การเมืองไทยสงบลงแล้วอย่างชัดเจน ตนดีใจที่เกิดวันนี้ขึ้น และหวังว่าการเปลี่ยนแปลงจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น และบ้านเมืองกลับคืนสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ปฏิญญากรุงเทพที่จะเกิดขึ้นมีรายละเอียดให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลดความเสี่ยงและป้องกันภัยพิบัติ โดยชุมชนจะมีบทบาทอย่างชัดเจนในการนำกลไกและความร่วมมือไปปฏิบัติเพื่อการป้องกันภัยพิบัติ สำหรับข้อเป็นห่วงการคอร์รัปชันในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติรัฐบาลไทยจะดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเพราะเป็นเรื่องที่มีนโยบายชัดเจน
กต.ผิดหวังตอบโต้อียูด่วนสรุป
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่แทน รมว.ต่างประเทศ ได้เชิญนายเฆซูส มิเกล ซานส์ เอกอัครราชทูตแห่งสหภาพยุโรป (อียู) ประจำประเทศไทย เข้าหารือถึงกรณีที่อียูออกแถลงการณ์ประณามประ– เทศไทย และออกมาตรการระงับและทบทวนกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือ หรือ PCA กับไทย พร้อมเรียกร้องให้ประเทศไทยกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว
ภายหลังการหารือนายสีหศักดิ์แถลงว่า ได้แสดงความผิดหวังต่อมาตรการที่อียูประกาศ เพราะไม่ได้สะท้อนถึงพัฒนาการล่าสุดของการเมืองไทย แต่ท่าทีดังกล่าวไม่ได้เหนือไปจากที่คาดหมายไว้ ขณะเดียวกันได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการฝ่ายเดียวของอียู เพราะความจริงประเทศไทยเปิดกว้าง หากมีข้อสงสัยก็พูดคุยกันได้ ส่วนกรณีที่อียูไม่มั่นใจในโรด–แม็ป 3 ขั้นนั้น ตนชี้แจงไปว่าอียูไม่ควรด่วนสรุปควรติดตามการปฏิบัติของไทย แสดงความเข้าใจและเอาใจช่วยไทย ซึ่งฝ่ายไทยก็เข้าใจถึงท่าทีของอียู
เผยทูตอียูแจงไม่ใช่การคว่ำบาตร
นายสีหศักด์กล่าวว่า สำหรับเรื่องอียูระงับการเยือนไทยของรัฐมนตรีในกลุ่มประเทศสมาชิกและการระงับลงนาม PCA นั้น ตนเรียนว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายไม่ใช่ประโยชน์ของประเทศไทยฝ่ายเดียว จึงขอให้เขาพิจารณาให้ดีและขอให้ทบทวนมาตรการต่างๆของเขา รวมทั้งให้คำนึงถึงผลประโยชน์ในระยะยาวด้วย อย่างไรก็ตาม การระงับการลงนาม PCA ไม่ส่งผลกระทบไปถึงการเจรจาข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-อียู เพราะไม่ได้อยู่ในแถลงการณ์ของอียู อย่างไรก็ตาม การเจรจาด้านเทคนิคก็คงดำเนินต่อไป เพราะขณะนี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น กว่าทางอียูจะพร้อมก็ใช้เวลาอีก 2-3 ปี
ดังนั้นมาตรการที่ออกมาจึงเป็นเชิงสัญลักษณ์เสียมากกว่า ทั้งนี้เอกอัครราชทูตอียูได้ยืนยันว่า สิ่งที่อียูมาตรการออกมา เป็นการจำกัดเพียงเฉพาะบางด้าน ไม่ใช่การคว่ำบาตร ขณะที่การท่องเที่ยว การค้า การลงทุน และภาคเอกชน ยังเป็นไปตามปกติ อย่างไรก็ตาม อียูยังเห็นความสำคัญของไทยและคาดหวังไทยกลับสู่ประชาธิปไตย ยังอยากเห็นบทบาทของไทยในอาเซียน ดังนั้นความสัมพันธ์จึงเดินหน้าต่อไป
สั่งทูตไทยในยุโรปลุยชี้แจงเอกชน
นายสีหศักดิ์กล่าวด้วยว่า สำหรับข่าวที่สินค้าอาหารทะเลของไทยอาจถูกจำกัด หรือถูกกีดกันการนำเข้าในต่างประเทศนั้น เราก็ได้ชี้แจงทำความเข้าใจ และหลายประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส และอังกฤษ ก็เข้าใจดี ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เอกอัครราชทูตไทยที่ประจำการในยุโรป ทำงานร่วมกับผู้ช่วยทูตพาณิชย์ เดินหน้าพบปะกับภาคเอกชนของแต่ละประเทศเพื่อให้เขามีความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องการใช้แรงงานบังคับ แรงงานเด็ก และแรงงานภาคประมง ต่อข้อถามว่าแถลงการณ์ของอียูกระทบภาพลักษณ์ของไทยหรือไม่ นายสีหศักดิ์ตอบว่า หลายประเทศมองข้ามสถานการณ์ในวันที่ 22 พ.ค.ไปแล้ว โดยมองไปข้างหน้าว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่คาดหวังและปรารถนาให้ประเทศไทยเดินสู่ประชาธิปไตย อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังคงเข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียน-อียู ในเดือน ก.ค.นี้ตามปกติ
หอการค้ายันไม่กระทบการลงทุน
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่สหภาพยุโรป (อียู) ประกาศปรับลดระดับความสัมพันธ์กับไทยลงว่า ไม่น่าจะกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างกัน เพราะเรื่องนี้เป็นประเด็นการเมืองล้วนๆ และอียูไม่มีสิทธิ์ที่จะแซงก์ชั่น หรือคว่ำบาตรการค้าไทยได้ เพราะผิดกฎขององค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) แต่หากอียูคว่ำบาตรทางการค้าไทยจริง ไทยสามารถฟ้องร้องต่อดับบลิวทีโอได้ทันที
“เชื่อว่าไม่กระทบการค้าระหว่างกันแน่นอน เพียงแต่อาจทำให้การเจรจาต่างๆ ต้องล่าช้าออกไป โดยเฉพาะการเจรจาจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-อียู ที่อยู่ระหว่างการเจรจา และจะทำให้การแก้ปัญหากรณีที่อียูเตรียมตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ที่ให้กับไทยในปี 58 ต้องล่าช้าออกไปด้วย เพราะไทยต้องการนำเอาสินค้าที่อาจถูกตัดจีเอสพีมาบรรจุในกลุ่มสินค้าที่จะลดภาษีนำเข้าภายใต้เอฟทีเอ”
เชื่อ คสช.จัดการได้ไม่ถูกคว่ำบาตร
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กรณีสหภาพยุโรปลดความสัมพันธ์ระงับการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และอาจทำให้อียูหยุดการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับไทยนั้น จะเสียประโยชน์ทางการค้าต่อกันทั้ง 2 ฝ่าย อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการลงนาม FTA เอกชนจะยังสามารถค้าขายเป็นปกติ ไม่มีปัญหา เอกชนต้องเร่งชี้แจงกับคู่ค้าให้เกิดความมั่นใจในการส่งมอบสินค้าตรงต่อเวลา สำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบัน หรือ กกร. ในเดือนหน้า จะนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งสหรัฐอเมริกาและอียูไปหารือในที่ประชุมเพื่อเตรียมพร้อม ประเมินถึงผลกระทบ และแนวทางการแก้ไข ขณะนี้มีเพียงผลกระทบที่เกิดขึ้นระยะสั้นทางจิตวิทยาเท่านั้น ไม่กระทบต่อด้านการค้า เชื่อว่า คสช. ที่มีทีมเศรษฐกิจและต่างประเทศจะชี้แจงกับอียูให้เกิดความเข้าใจ เชื่อว่าทั้งสหรัฐอเมริกาและอียูจะไม่คว่ำบาตรไทยแน่นอน
แนะรีบแจงให้เกิดความเข้าใจ
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป็นเรื่องของกระทรวงต่างประเทศและผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรีบทำการชี้แจง เพื่อให้เกิดความเข้าใจ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสากลทุกคนต้องรับฟัง สิ่งที่เป็นห่วงคือไม่สามารถซื้อวัตถุดิบได้ และอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องของไทยถูกกีดกัน ไม่สามารถเข้าไปขายในยุโรปได้ ส่วนการทำธุรกรรมทางการเงินยังไม่ทราบว่าจะได้รับผลกระทบหรือไม่ และมาตรการดังกล่าวครอบคลุมไปถึงไหน
แถลงผลงาน 1 เดือน คสช. 27 มิ.ย.
เมื่อเวลา 16.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช.ฝ่ายพลเรือน กล่าวถึงการเตรียมการแถลงผลงาน คสช.รอบ 1 เดือนว่า คาดว่าจะสามารถแถลงผลงานได้ในวันศุกร์ที่ 27 มิ.ย. ในช่วงรายการเดินหน้าประเทศไทย แต่หัวหน้า คสช.ไม่ได้เป็นคนแถลงเอง เพราะท่านมีรายการที่จะแถลงของท่านในวันศุกร์อยู่แล้ว โดยจะเป็นศูนย์ประชาสัมพันธ์จัดทำในรูปแบบวีดิโอเทปความยาวประมาณ 15-20 นาที
คสช.ไฟเขียวปรับงบฯโรงพักฉาว
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษก คสช. แถลงว่า ที่ประชุม คสช.มีมติ เห็นชอบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เสนอเปลี่ยนแปลงโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทนจำนวน 396 แห่ง และเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันจากเดิมโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่งในวงเงิน 6,672 ล้านบาท โดยผูกพันงบประมาณรายจ่ายปี 2552-2557 เป็นวงเงิน 8,357 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงวงเงินที่ได้ใช้จ่ายไปแล้วจำนวน 1,500 ล้านบาท สำหรับโครงการใหม่ที่เปลี่ยนแปลงนี้จะใช้งบประมาณเงินกันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีตั้งแต่ปี 2552-2557 ที่สะสมมาได้จำนวน 2,459 ล้านบาท จากเงินจำนวนนี้จะสามารถอนุมัติก่อสร้างอาคาร
บางส่วนที่จำเป็นได้ก่อนจำนวน 181 แห่ง ส่วนอีก 215 แห่งที่จะใช้วงเงินประมาณ 4,000 กว่าล้านบาทนั้น คงจะตั้งเรื่องของบประมาณของปี 2558 ต่อไป ส่วนการดำเนินคดีทุจริตในการก่อสร้างโครงการดังกล่าวนั้น ทาง สตช.ได้ชี้แจงในที่ประชุม คสช.ว่า เป็นการดำเนินการคนละส่วน เพราะเป็นการขออนุมัติเปลี่ยนแปลงชื่อโครงการเท่านั้น การดำเนินคดีทุจริตของกรมสอบสวนคดีพิเศษยังดำเนินการต่อไป
“บิ๊กตู่” ย้ำให้เร่งสร้างเพื่อหน้าตา สตช.
พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ในที่ประชุม คสช. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้สอบถามพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ถึงความจำเป็นเร่งด่วนในโครงการดังกล่าว อยากให้ดำเนินการอย่างรวดเร็วจะได้เป็นหน้าเป็นตาต่อหน่วยงานด้านความมั่นคงด้วยรวมทั้งได้ถามถึงเรื่องของคดีการทุจริตของโครงการ โดย พล.ต.อ.วัชรพลได้ชี้แจงว่า คดีทุจริตได้ดำเนินการตามกฎหมายหลังจากโครงการแล้วเสร็จก็อาจจะฟ้องร้องค่าเสียหายทางแพ่ง เช่น กรณีที่ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่มีสถานที่ทำงาน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ถือว่าการก่อสร้างดำเนินการไปมากกว่าเงินที่เสียไป
มอบ สศช.จัดถกผู้นำลุ่มน้ำโขง
พ.อ.วินธัยกล่าวด้วยว่า ที่ประชุม คสช.มีมติอนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับสุดยอดผู้นำแผนงานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 19-20 ธ.ค. ที่โรงแรมแชงกรีลา กรุงเทพฯ
เล็งต่ออายุรถเมล์รถไฟฟรีอีกปีครึ่ง
นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ได้เสนอผลศึกษาความเหมาะสมในการดำเนินงานการสนับสนุนมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชน รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี มาให้กระทรวงคมนาคม พิจารณาขยายมาตรการต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี 58 เพื่อรอจนกว่าจัดทำระบบการให้บริการอี-ทิคเก็ต หรือตั๋วร่วมให้แล้วเสร็จ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาจัดทำประมาณปีครึ่ง ทั้งนี้กระทรวงจะต้องเสนอให้ คสช.พิจารณาอนุมัติ เป็นครั้งๆไป ครั้งต่อไปจะเสนอในช่วงเดือน ก.ค.ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่มาตรการเดิมจะหมดอายุในวันที่ 31 ก.ค. 57 สำหรับมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชน รถเมล์ฟรี รถไฟฟรีในระยะยาวหลังจากมีการใช้ระบบตั๋วอี-ทิคเก็ต คาดว่ากลางเดือน ก.ค.นี้ จะนำผลศึกษาให้ คสช.พิจารณามาตรการที่เหมาะสม 2 แนวทาง คือ ให้ยกเลิกมาตรการลดค่าครองชีพเดิมทั้งหมด ทั้งรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี หรือใช้มาตรการเดิมแบบมีเงื่อนไข โดยให้ใช้ฟรีเฉพาะกลุ่มคนพิการ ผู้สูงอายุ และพระภิกษุ ส่วนนักเรียน นิสิต นักศึกษาให้ส่วนลด 50%
ติวเข้ม จป.ช่วยสร้างสมานฉันท์
เมื่อเวลา 09.49 น. ที่ห้องประชุมจอมพล ป. พิบูลสงคราม กระทรวงแรงงาน นายพานิช จิตต์แจ้ง อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เป็นประธานเปิดงาน “เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) ทั่วไทย ร่วมใจสร้างความปรองดอง ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์” ให้ความรู้ ความเข้าใจ แก่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยในสถานประกอบการแต่ละแห่ง เพื่อสร้างเครือข่ายในการปกป้องสถาบัน สร้างความปรองดองภายในสถานประกอบการ และชุมชนข้างเคียง โดย พ.อ.ธเนศ กาลพฤกษ์ รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน ส่วนงานการรักษาความสงบเรียบร้อย
(สรส.) สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ชี้แจงแนวทางการสร้างความปรองดองและการแสดงความจงรักภักดี ให้ผู้บริหาร ข้าราชการกระทรวงแรงงาน และ จป.จากทั่วประเทศ 1,400 คน ทราบถึงแนวทางของ คสช. เพื่อให้นำไปปรับใช้ในหน่วยงาน รัฐและเอกชน เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนไปสู่แนวทางที่ดี สร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น
ขอรับฟังเสียงเครือข่ายแรงงาน
พ.อ.ธเนศกล่าวว่า หลังบ้านเมืองมีการรีเซตใหม่เพื่อก้าวเดินไปพร้อมกัน ในมุมใหม่ของประชา– ธิปไตยทุกคนอยากให้มีเรื่องใหม่ๆเกิดขึ้น 1 เดือนที่ผ่านมา คสช.ได้แก้ปัญหาต่างๆ ก้าวหน้าพอสมควร แต่คงไม่สามารถทำให้ทุกเรื่องดีขึ้นในพริบตา ต้องค่อยเป็นค่อยไป ทุกคนสามารถเป็นเครือข่ายร่วมมือร่วมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว สร้างความปรองดองในทุกภาคส่วนตามหลักธรรมาภิบาล ขอให้ช่วยกันสะท้อนความคิดเห็นในปัญหาที่ประสบทั้งในองค์กรของตัวเองและเรื่องในสังคมว่า อยากให้ คสช.ทำอย่างไรกับปัญหาเหล่านั้น ขอยืนยันว่าการปรองดองจะไม่นำไปสู่การนิรโทษกรรม เพราะบางเรื่องได้มีการดำเนินคดีไปแล้ว ขอให้มั่นใจในการทำหน้าที่ของหัวหน้า คสช. ที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาบ้านเมือง ทั้งที่สามารถอยู่จนเกษียณอายุราชการไปแบบสบายๆก็ได้
เร่งมือสะสางปัญหาค้ามนุษย์
เวลา 09.00 น. ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ถนนรัชดาภิเษก ม.ล.ปุณฑริก สมิติ รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวในงานสัมมนา “ปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน โจทย์ที่ประเทศไทยต้องเร่งแก้ไข” ว่า ไทยถูกสหรัฐฯจัดอันดับการค้ามนุษย์ลดลงมาเป็นระดับ 3 อาจทำให้ถูกกีดกันทางการค้าและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาได้ป้องกันและแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ในปี 58 ได้รับการจัดอันดับดีขึ้น แต่หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือด้วย ทั้งนี้ การจัดอันดับการค้ามนุษย์ลดลงมาเป็นระดับ 3 คงไม่ส่งผลกระทบต่อการที่ไทยจะเสนอขอปลดล็อกสินค้าที่ถูกขึ้นบัญชีดำของไทยใน 4 รายการ ที่ถูกกล่าวหาใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ คือ กุ้ง ปลา อ้อย และเครื่องนุ่งห่ม โดยจะยังเดินหน้าป้องกันและแก้ปัญหาการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับตามมาตรการที่กำหนดไว้ เช่น การแยกเด็กออกมาจากสถานประกอบการโดยเด็ดขาด
เชื่อถูกลดระดับไม่เกี่ยวการเมือง
นายแล ดิลกวิทยรัตน์ ผอ.ศูนย์พัฒนาแรงงานและการจัดการ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแรงงานแห่งชาติ กล่าวว่า การจัดอันดับให้ไทยตกไปอยู่ในระดับที่ต่ำสุดเรื่องการค้ามนุษย์ เชื่อว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของไทย ต้องรอดูท่าทีของสหรัฐอเมริกาว่าจะออกมาตรการใดมากดดัน ไม่น่าจะถึงขั้นคว่ำบาตรไทย เพราะต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย แต่อุตสาหกรรมประมงและเครื่องนุ่งห่มที่มีการใช้แรงงานเข้มข้นจะกระทบหนัก โดยเฉพาะลูกจ้างที่ส่วนใหญ่เป็นแรงงานรายวัน แรงงานนอกระบบ ไม่ได้เป็นผู้ประกันตนตามระบบประกันสังคม หากมีผลกระทบจนต้องถูกเลิกจ้างจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือกรณีว่างงาน ดังนั้นภาครัฐควรจะแก้ปัญหานี้ควบคู่กับการเร่งจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวและส่งเสริมการใช้แรงงานต่างด้าวให้ถูกกฎหมาย รวมทั้งหามาตรการดูแลลูกจ้างสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ส่วนการเดินทางกลับของแรงงานกัมพูชาก็ต้องเร่งสร้างความเข้าใจ
ผบ.มทบ.11 ลุยจัดระเบียบรถแท็กซี่
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่มณฑลทหารบก ที่ 11 พล.ต.นิรันดร สมุทรสาคร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (ผบ.มทบ.11.) เป็นประธานการประชุมเพื่อหาแนวทางการจัดระเบียบรถรับจ้างสาธารณะ (รถแท็กซี่) ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล พร้อมทั้งทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ประกอบการ ตามนโยบายคสช. โดยมีตัวแทนผู้ประกอบการรถแท็กซี่นิติบุคคล จำนวน 113 ราย ศูนย์วิทยุแท็กซี่ จำนวน 13 ราย ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล รวมถึงผู้แทนจากกรมการขนส่งทางบก กองบัญชาการตำรวจนครบาล กรุงเทพมหานคร และหน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ เข้าร่วม โดย พล.ต.นิรันดรระบุว่า มทบ.11 รับผิดชอบดูแลเรื่องรถแท็กซี่สาธารณะ จึงเปิดพื้นที่เพื่อรับฟังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่แนวทางการปฏิบัติ
วางบันได 3 ขั้นแก้ปัญหายั่งยืน
พล.ต.นิรันดรกล่าวว่า ในส่วนของขั้นตอนการดำเนินการของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยภาค 1 (กกล.รส.ภ.1) ได้แบ่งขั้นตอนต่างในการปฏิบัติงาน คือ ขั้นที่ 1 จัดระเบียบการบังคับใช้กฎหมายให้เรียบร้อย เพื่อไม่มีผู้มีอิทธิพลเข้ามา และจัดตั้งคณะทำงานจากทุกฝ่ายในการรวบรวมข้อมูลและความคิดเห็น ทั้งเรื่องปากท้องของประชาชน และอัตราค่าโดยสาร เพื่อนำไปสู่การดำเนินการขั้นที่ 2 คือการ แก้ไขกฎระเบียบที่มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแล โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน อะไรที่สามารถแก้ไขได้จะเร่งดำเนินการทันที และระยะที่ 3 คือการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน เมื่อครบทั้ง 3 ขั้นตอน จะทำข้อสรุปเสนอไปยัง พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะ ผบ.กกล.รส.เพื่อรายงานต่อหัวหน้า คสช.
ผุดโมเดลจัดแถวรถตู้โดยสาร
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน ผู้บังคับการกรมนักเรียน โรงเรียนทหารม้าศูนย์การทหาร จ.สระบุรี ร่วมประชุมผู้ประกอบการรถตู้ประมาณ 30 บริษัท เพื่อแก้ไขปัญหารถตู้โดยสารในพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิให้เกิดความเรียบร้อย โดย พ.อ.สมบัติกล่าวว่า ขั้นตอนการจัดระเบียบรถตู้โดยสารบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯแบ่งออกเป็น 6 ระยะ คือ 1.ห้ามรถตู้จอดแช่ ยกเว้นการจอดรถรับส่งผู้โดยสารที่ต้องจอดชิดขอบทาง ให้วินรถตู้ตั้งโต๊ะขายตั๋วได้เพียงโต๊ะเดียวต่อวินและจะจัดระเบียบบนทางเท้าควบคู่ไปด้วย 2.หาสถานีเพื่อมารองรับอย่างถาวร ต้องไม่ทำให้เกิดปัญหาการจราจร 3.จัดระเบียบใน บขส. 4.จัดระเบียบกรมการขนส่งทางบก 5.ลดการจ่ายส่วยกับเจ้าหน้าที่ อาทิ ยกเลิกสินบนนำจับทุกประเภท แก้ไข พ.ร.บ.จราจร เรื่องความเร็วและวิ่งรถ 2 เลนได้ ลดอัตราค่าปรับ และ 6.นำรถตู้ที่ตกสำรวจมาจดทะเบียนให้ถูกต้องใน 59 เส้นทาง เมื่อจัดระเบียบรถตู้ที่นี่เรียบร้อย จะใช้เป็นโมเดลจัดระเบียบรถตู้ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยจะมีผลบังคับตั้งแต่ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ และต้องจัดระเบียบทั้งต้นทางและปลายทาง จะให้หน่วยทหารที่อยู่ในพื้นที่แต่ละจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ
สิ้น มิ.ย.ย้ายท่ารถตู้ไปแอร์พอร์ตลิงค์
พ.อ.สมบัติกล่าวว่า เราดูแลให้ราคาต้นทุนของรถตู้ลดลง เชื่อว่าราคาค่าโดยสารต้องลดตามด้วย ผลประโยชน์จะไปตกที่ประชาชน เมื่อทหารจัดระเบียบคืนความสุขให้กับประชาชนทุกคน การดำเนินการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบกับผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ เพราะการย้ายสถานที่จอดรถตู้ยังคงใช้พื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับอนุสาวรีย์ชัยฯ ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 30 มิ.ย.เป็นต้นไป รถตู้ทุกคันที่จอดอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ จะต้องย้ายไปจอดบริเวณใต้แอร์พอร์ตลิงค์ มักกะสัน โดยขอใช้พื้นที่ดังกล่าวชั่วคราวเพื่อดำเนินการจัดระเบียบรถตู้จนกว่าจะแล้วเสร็จและขอขอบคุณการทางพิเศษที่มองเห็นความสำคัญให้ใช้พื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ จะจัดชุดตรวจประกอบด้วยทหาร ตำรวจ พลเรือน กรมการขนส่งทางบก ขสมก. เข้าตรวจสอบรถตู้ทุกคันว่าปฏิบัติตามที่ได้ตกลงกันไว้หรือไม่
แนะตั้งสหกรณ์รถตู้ดูแลสิทธิ
พ.อ.สมบัติกล่าวด้วยว่า เพื่อให้การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ทางทหารอยากให้มีการร่วมกลุ่มกันเป็นสหกรณ์รถตู้ โดยยึดแนวทางพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อดูแลสิทธิของตัวเอง อยากให้ไปดูและเสนอรูปแบบจัดตั้งสหกรณ์รถตู้ในรูปแบบใด ทหารจะให้คำแนะนำ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจะถอนตัวออกมา
“บิ๊กแจ๊ด” ลาออกประธานบอร์ดท่าเรือ
ที่มูลนิธิมงคลจงกล ธูปกระจ่าง (คลินิกการแพทย์แผนไทย) ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ช่วยราชการ ศปก.ตร. แถลงข่าวว่า ช่วงสายวันเดียวกันนี้ ตนในฐานะประธานบอร์ดการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ดการท่าเรือฯ พร้อมคณะกรรมการทั้งหมดในที่ประชุม เหลือแต่เพียงตัวแทนจากกระทรวงการคลังผู้เดียวเท่านั้น เดิมมีความตั้งใจที่จะลาออกอยู่แล้วตั้งแต่วันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อต้องการแสดงสปิริต เพราะเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลต้องเปลี่ยนบอร์ดบริหารของรัฐวิสาหกิจทุกแห่งตามปกติ เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐบาลใหม่สรรหาบอร์ดบริหารชุดใหม่ แต่บอร์ดหลายคนเห็นว่า หากตนลาออกในช่วงนั้นจะส่งผลกระทบกับการบริหารงานของการท่าเรือฯ อาทิ เรื่องการนำเข้าและส่งออกของสินค้าต่างๆ แต่เมื่อทุกอย่างล
- องค์กรสิทธิฯประสานเสียงร้องให้ปล่อยตัว14นักศึกษา หลังถูกขังเรือนจำ กลุ่มปชต.ใหม่แถลงสู้ต่อ
- “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” ทรงเป็นประธาน ในพิธีไหว้ครูและพระราชทานเหรียญรางวัลการศึกษาแก่นักเรียนนายร้อยประจำปีการศึกษา
- “รมว.พลังงาน” จ่อขยับภาษีแอลพีจีภาคขนส่ง
- สหรัฐพร้อมช่วยชาติในอาเซียนรับภาระผู้อพยพ
- “ททท.”ชี้คนจีนแห่เที่ยวไทย-คาดปีนี้ไม่ต่ำกว่า 6ล้านคน