ไมโครซอฟท์หนุนการศึกษาให้ 14 มหาวิทยาลัยใช้ “Office 365” ฟรี

ไมโครซอฟท์หนุนภาคการศึกษา ระบุ 5 ปีที่ผ่านมาใช้เงินลงทุนทั่วโลกกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญ ทำตามคำมั่นสัญญาในการพัฒนาการศึกษา พร้อมเล็งเห็นโอกาสพัฒนาไทยสู่ศูนย์กลางภูมิภาครับเปิดเสรีอาเซียน นำบริการคลาวด์ด้วย “Office 365” แก่ 14 สถาบันการศึกษา

นายฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยคำมั่นสัญญาของไมโครซอฟท์ในการช่วยเหลือภาคสังคม ประกอบกับมหาวิทยาลัยมีความสนใจในผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์อย่าง Office 365 ไปใช้ในการเรียนการสอน และอีกนัยหนึ่งคือการยกระดับการศึกษาของไทย

“ประเทศไทยถือว่ามีระบบโครงสร้างพื้นฐาน สภาพเศรษฐกิจที่มั่นคง และมีแรงงานที่มีฝีมืออยู่แล้ว ไมโครซอฟท์จึงเข้ามาช่วยส่งต่อเทคโนโลยีอย่างคลาวด์มาช่วยผลักดัน ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ได้ใช้เงินลงทุนในภาคการศึกษามากกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญให้ความรู้แก่อาจารย์กว่า 10 ล้านคน นักศึกษากว่า 20 ล้านคน ใน 119 ประเทศทั่วโลก”

โดยความร่วมมือล่าสุดของไมโครซอฟท์กับ 14 สถาบันการศึกษาที่นำบริการ Office 365 ไปใช้ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีปทุม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยรังสิต

“การนำบริการ Office 365 ในครั้งนี้จะช่วยให้คณาจารย์และนักศึกษากว่า 7.4 แสนรายได้เข้าถึงการใช้บริการคลาวด์ของไมโครซอฟท์ ซึ่งด้วยความที่ไมโครซอฟท์มีการให้บริการคลาวด์ในระดับโลก ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าความปลอดภัยของข้อมูลที่มีการใช้งานจะถูกเก็บรักษาอย่างมั่นคง”

ทั้งนี้ บริการ Office 365 สำหรับสถาบันการศึกษาจะประกอบไปด้วย Office Web Apps ในการใช้งานโปรแกรมอย่าง Word 2013 PowerPoint 2013 Excel 2013 OneNote 2013 Outlook 2013 Publisher และ Access ผ่านพีซี มือถือ หรือเว็บเบราว์เซอร์ บริการ Exchange Online ที่รวมระบบอีเมล ปฏิทิน และรายชื่อผู้ติดต่อ บริการ Share Point ในการสร้างเว็บไซต์เพื่อเชื่อมโยงนักศึกษา และอาจารย์เข้าด้วยกัน สุดท้ายบริการ Lync โปรแกรมสนทนาที่ผู้ใช้สามารถแชร์หน้าจอ ประชุมเสียงและวิดีโอได้

ขณะเดียวกัน หลังจากเข้ามาบริหารงานในประเทศไทยเป็นระยะเวลา 6 เดือน เห็นว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และโอกาสในการเติบโตสูง ที่พร้อมจะก้าวขึ้นเป็นประเทศผู้นำทางเทคโนโลยีในภูมิภาคอาเซียนได้

ที่มา : http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrview.aspx?NewsID=9560000065111