คสช.เตรียมกวาดล้างบุหรี่เถื่อน


 0011

        20 มิ.ย.2557 คสช.เข้มงวดขนส่งบุหรี่เถื่อนแถบชายแดนดันยอดขายรยส.พุ่ง 20% พร้อมเดินหน้าสร้างโรงงานที่นิคมฯ โรจนะ

       นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ (รยส.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ ทำให้การลักลอบนำเข้าบุหรี่ตามแนวชายแดนลดลงไปมาก เนื่องจากมีการเข้มงวดการขนส่งสินเค้าเถื่อนตามแนวชายแดน ส่งผลให้ยอดขายของโรงงานยาสูบในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 20% และเป็นการปรับตัวดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้ยอดขายลดไปถึง 10%  หากยอดขายเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างนี้คาดว่าตลอดทั้งปียอดขายปรับลดลงเพียง 5% จากเดิมที่คาดว่าจะลดลง 10%  จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 70,000 ล้านบาท

      ขณะที่ ความคืบหน้าของการก่อสร้างโรงงานยาสูบแห่งใหม่นั้น รยส.กำลังเดินหน้าสร้างโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะอย่างเต็มที่ จากเดิมเคยมีแนวคิดจะสร้างโรงงานอีกแห่งที่ จ.เชียงใหม่เพื่อลดความเสี่ยงกรณีโรจนะเกิดน้ำท่วมตามนโยบายของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้เสนอแผนใหม่เข้าสู่ที่ประชุม ครม.จนยุบสภาฯ ดังนั้น รยส.คงต้องเดินหน้าตามแผนเดิมคือลุยก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่โรจนะมูลค่าลงทุน 16,200 ล้านบาท ซึ่งคืบหน้าไปแล้วกว่า 85% ขณะนี้กำลังเปิดประมูลซื้อเครื่องจักรมูลค่า 7,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาเปิดประมูลมารอบที่ 4 แล้วยังไม่มีผู้ที่ผ่านการชนะประมูล ทำให้ต้องเปิดประมูลรอบที่ 5  คาดว่าโรงงานโรจนะจะแล้วเสร็จช่วงต้นปี 60 ล่าช้ากว่าแผนเดิม 1 ปี เพราะต้องรอผลการศึกษาเรื่องย้ายโรงงานหลังน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 54

       สำหรับการออกผลิตภัณฑ์บุหรี่ใหม่ ซึ่งจะเป็นเกรดพรีเมี่ยม เพื่อนำมาบุกตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)นั้น คาดว่าจะเปิดตัวบุหรี่ตัวใหม่ช่วงต้นปี 58 โดยได้สั่งซื้อเครื่องจักรมูลค่า 300-400 ล้านบาทมาแล้ว เหลือแต่การติดตั้งและทดสอบการผลิต โดยบุหรี่ตัวใหม่นี้จะมีทั้งลดขนาดมวนให้เล็กลง เพื่อให้สอดคล้องกับยี่ห้ออื่น ๆ ที่ลดขนาดลง โดยยาสูบจะใช้ตรายี่ห้อเดิม (กรองทิพย์) ที่เป็นจุดแข็งของยาสูบแต่ผลิตเป็นเกรดพรีเมี่ยม

        อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา รยส.ได้ลงนามสัญญาร่วมกับบริษัท โกลด์ ดาร์กอน อินเวสเมนท์ จำกัด จากสิงคโปร์ เพื่อทดลองสร้างภูมิคุ้มกันใบยาสูบต่อต้านโรคไวรัส ซึ่งจะเป็นการทดลองด้วยการนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาทดลองกำจัดโรคของใบยาสูบ อาทิ  โรคไวรัสใบหด ไวรัสใบด่าง ไวรัสแผลละเอียด ซึ่งส่งผลเสียหายต่อใบยาสูบปีละกว่า 2,000 ล้านบาท คาดว่าการทดลองดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 2 ปี ถ้าสำเร็จจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมใบยาสูบที่มีมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี และส่งผลดีต่อชาวไร่ยาสูบที่ขณะนี้ใช้สารเคมีมาป้องกันโรคค่อนข้างมาก

       ด้านนายชัยวาลย์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บริษัท โกลด์ ดาร์กอน อินเวสเมนท์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีนักวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านภูมิต้านทานวิทยาซึ่งมีชื่อเสียงในการวิจัยโรคไวรับพืชและสัตว์ที่ผ่านมาทำงานวิชัยไวรัสในพืชและสัตว์ประสบความสำเร็จมาแล้วที่ประเทศอิสราเอล มาเลเชีย หากการวิจัยเกี่ยวกับยาสูบสำเร็จจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการพืชผลการเกษตรของไทย


uasean

 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ chaoprayanews.com ดูทั้งหมด

296

views
Credit : chaoprayanews.com


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน