‘นิวัฒน์ธำรง’เมิน’สุเทพ’ ขอถกทางออกประเทศ
‘นิวัฒน์ธำรง’เมิน’สุเทพ’ ขอถกทางออกประเทศ
“นิวัฒน์ธำรง” ลั่น 25 รมต.มีอำนาจรักษาการ ไม่หวั่นกระบวนการโค่นล้ม ซัด ม.7 ไม่มีกฎหมายรองรับ เหน็บ”สุเทพ”ใช้กฎหมายฉบับไหนในมือ เมินคำเชิญ”สุเทพ”อ้างคุยทางออกประเทศต้องหลายฝ่าย
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สำนักงานปลัดกระทรวง กลาโหม เมืองทองธานี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการชี้แจงกับสื่อต่างประเทศว่า การให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย ปัจจุบันเป็นรัฐบาลรักษาการตามรัฐธรรมนูญรัฐมนตรีที่เหลือ 25 คนได้เลือกให้ตนมาปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่าจะมีคณะรัฐมนครี (ครม.) ชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งมาปฏิบัติหน้าที่ และยืนยันอยากให้มีรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว เพราะรัฐบาลรักษาการไม่ได้มีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดินจึงจะต้องสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งให้มีรัฐบาลใหม่โดยเร็วที่สุด ซึ่งวันพุธที่ 14 พ.ค.ได้นัดหารือกับทาง กกต.ไว้ และตนจะเดินทางไปด้วยตัวเองเพื่อหาทางออกในการกำหนดวันเลือกตั้ง และเชื่อว่าสามารถแก้วิกฤติการเมืองได้ในเร็ววัน
ผู้สื่อข่าวถาม จนถึงขณะนี้ยังมั่นใจหรือไม่ว่าการเลือกตั้งยังมีขึ้นในวันที่ 20 ก.ค. นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะจัดการให้เกิดการเลือกตั้งขึ้น ส่วนรัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนการเลือกตั้งเท่านั้นซึ่งในวันที่ 14 พ.ค.ที่พบกันก็จะคุยในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แต่ยังหวังว่าน่าจะเป็นกำหนดการเดิมคือวันที่ 20 ก.ค. ส่วนที่ กกต.บอกว่าการพบกัน วันที่ 14 พ.ค.จะเป็นการหารือในเรื่องความขัดแย้งไม่ใช่หารือเรื่องวันเลือกตั้งนั้นก็เป็นเรื่องที่จะต้องคุยกันว่ามีข้อที่ยังไม่ตรงกัน อย่างไรก็มาหาทางออกร่วมกัน
เมื่อถามว่ายังยืนยันว่าท่านมีอำนาจในการยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฯ พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งหรือไม่ นายนิวัฒน์ได้โชว์เอกสาร พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 พร้อมกล่าวว่า แน่นอนรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจน และคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า กรณีนี้ถือเป็นความผิดเฉพาะตัวย่อมทำให้ ครม.ที่เหลือไม่ขาดคุณสมบัติ และมีลักษณะต้องห้ามของความเป็นรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่ารัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 181 ได้ เพราะฉะนั้นยืนยันว่ารัฐบาลรักษาการชุดนี้มีอำนาจตามกฎหมาย นอกจากนี้ ตามบทพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน 2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 10 ระบุไว้ว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งให้ ครม.ที่เหลือเลือกรองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเข้ามาทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีหากไม่มีรองนายกรัฐมนตรีก็ให้เลือกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเข้ามาซึ่งหมายความว่าทั้ง 25 คนสามารถขึ้นมาทำหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีได้ทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ว.มีความพยายามที่จะเสนอนายกรัฐมนตรีมาตรา 7 นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า การดำเนินการใดๆ จะต้องมีกฎหมายรองรับ ทั้งนี้ ส.ว.อาจจะทำได้แต่เมื่อไปถึงระยะหนึ่งแล้วถ้าไม่มีกฎหมายรองรับหน่วยงานที่จะเดินต่อเขาจะไม่เดินให้ เพราะฉะนั้นก็แล้วแต่ก็ลองดู
“การกระทำทั้งหลายทั้งมวลจะต้องมีกฎหมายรองรับถ้าไม่มีกฎหมายรองรับสุดท้ายไป ณ จุดหนึ่งก็อาจจะทำต่อไม่ได้ แต่ในส่วนของรัฐบาลยืนยันว่าการดำเนินการตามมาตรา 7 ไม่สามารถทำได้เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ ผมขอยืนยันว่ามีอำนาจตามรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี” นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้รับการประสานจากวุฒิสภาที่จะนำรายชื่อ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายฯ หรือยัง นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับเอกสารจากวุฒิสภา แต่ถ้าได้รับแล้วก็จะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาก่อนว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยจะทำกระบวนการเหล่านี้ให้เร็วที่สุด
เมื่อถามว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้มีการประสานขอหารือมาหรือไม่ และจะไปพูดคุยหรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ยังไม่มี ทางรัฐบาลตั้งแต่สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันว่า เปิดกว้างในการพูดจาและพบปะกับกลุ่มต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง กลุ่มต่างๆ ควรที่จะเจอกันเพราะประเทศไทยมีกฎหมาย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลคนเดียว มีหน่วยงานอิสระ มีกลุ่มประชาชนที่ออกมาให้ความคิดเห็นพูดจากัน ซึ่งสิ่งที่ดำเนินการต้องมีกฎหมายปัจจุบันรองรับ
เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าจะมีการขบวนการที่จะทำให้ ครม.ที่เหลือพ้นจากตำแหน่งเพื่อให้เกิดสุญญากาศ และให้มีนายกฯ คนใหม่ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ไม่ห่วง คงต้องดูว่าจะทำอย่างไร ถ้าตามกฎหมาย ตามระเบียบก็ย่อมได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ขณะนี้เหมือนสองฝ่ายจะใช้กฎหมายคนละฉบับ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ตนทำตามกฎหมาย ต้องไปถามเขาว่าเขาทำตามไหนไปขอก๊อบปี้เขาสิ ว่าเขาทำตามกฎหมายและข้อบังคับไหนอย่างไร ตนไม่เพราะตนไม่เห็น เมื่อถามว่า จะหาข้อยุติจากศาลยุติธรรมได้หรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า คงตอบไม่ได้ แล้วแต่ใครจะยกประเด็นไปถามหรือไม่
เมื่อถามว่า วันนี้ประเทศไทยจะเดินไปอย่างไร เมื่อทั้ง 2 มีความขัดแย้งที่ชัดเจน นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า วันนี้ทุกฝ่ายพยายามหาทางแก้ไขปัญหาวิกฤติหลายทาง ซึ่งเดินไปทางเดียวกัน แต่อยู่ที่วิธีการ ซึ่งวิธีการตามกฎหมายคือเมื่อยุบสภาต้องเลือกตั้งและมีรัฐบาลโดยเร็วไม่ต้องการรัฐบาลรักษาการเราก็ทำตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า มวลชนทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการเผชิญหน้าหรือไม่ หากการเมืองยังแก้ไขไม่ได้ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า เรื่องนี้สื่อมวลชนต่างประเทศก็บอกว่า การที่ทุกคนออกมาเรียกร้องอย่างสงบซึ่งเป็นเรื่องที่ดี และเขาอยากให้ประเทศไทยแก้ปัญหาโดยไม่มีการกระทบกระทั่ง ทั้งนี้ อาเซียนเองก็อยากจะให้ประเทศไทยแก้ปัญหาโดยเร็ว โดยสันติวิธี และตามระบอบประชาธิปไตย
เมื่อถามว่า รัฐมนตรีทั้ง 25 คนจะรักษาสนามประชาธิปไตยได้หรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า รัฐมนตรีที่เหลืออยู่มีหน้าที่ปฏิบัติราชการตามกฎหมายต่อไป และเราได้แบ่งงานในกระทรวงต่าง ๆ แล้วและไม่หยุดชะงัก รวมถึงสนับสนุนการเลือกตั้ง
เมื่อถามนายสุเทพ ประกาศปิดเกมภายใน 2-3 วัน มีความเป็นห่วงหรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ต้องรอฟังว่าจะทำอะไรบ้าง ถามต่อว่า หมายความว่ารัฐบาลจะรักษาการต่อไปเรื่อยๆ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ไม่ใช่ วันที่ 14 พ.ค.จะไปพูดคุยเรื่องการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าประเทศจะมีการเลือกตั้ง เราปล่อยให้ประเทศเป็นอย่างนี้ก็เป็นผลเสียทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งต้องมีรัฐบาลใหม่ให้เร็วที่สุดเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเรื่องสัญญาเอฟทีเอ เรื่องเหล่านี้จะแก้ไม่ได้หากไม่มีรัฐบาลใหม่ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเลือกตั้งและรัฐบาลใหม่.
ขอบคุณไทยรัฐออนไลน์
- องค์กรสิทธิฯประสานเสียงร้องให้ปล่อยตัว14นักศึกษา หลังถูกขังเรือนจำ กลุ่มปชต.ใหม่แถลงสู้ต่อ
- “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” ทรงเป็นประธาน ในพิธีไหว้ครูและพระราชทานเหรียญรางวัลการศึกษาแก่นักเรียนนายร้อยประจำปีการศึกษา
- “รมว.พลังงาน” จ่อขยับภาษีแอลพีจีภาคขนส่ง
- สหรัฐพร้อมช่วยชาติในอาเซียนรับภาระผู้อพยพ
- “ททท.”ชี้คนจีนแห่เที่ยวไทย-คาดปีนี้ไม่ต่ำกว่า 6ล้านคน