ชี้ตั้ง‘รัฏฐาธิปัตย์’แค่สมมติเทือกแจงปลัดกห. ( หน้า 1 ไทยรัฐ )
ชี้ตั้ง‘รัฏฐาธิปัตย์’แค่สมมติเทือกแจงปลัดกห. โดย ทีมข่าวหน้า 1 10 เม.ย. 2557 08:25
‘บิ๊กตู่’ลั่นผิดกม.ต้องดำเนินคดีปาบึมป่วนกปปส.ที่มหาดไทยนายกฯจี้เอาผิดโกตี๋หมิ่นสถาบัน
ผบ.ทบ.ฮึ่ม! ตั้งรัฏฐาธิปัตย์ผิดกฎหมาย ปฏิเสธไม่ใช่หน้าที่ทหารออกโรงจัดการโบ้ยเป็นหน้าที่ตำรวจ-ศอ.รส.-ดีเอสไอจับติดคุก ย้ำทหารเป็นกลางไม่เข้าข้าง “สุเทพ-จตุพร” อ้ำอึ้งไม่กล้ารับปาก กองทัพไม่ทำปฏิวัติ “ปึ้ง” ฉุน ขรก.ร่วมต้อนรับม็อบ กปปส. สั่งไล่เช็กบิลผิดวินัยร้ายแรง ศอ.รส.เล็งเรียกปลัดกระทรวงกำราบ ห้ามภักดี กปปส. “มาร์ค” ชิ่งหนี ปัดพัลวัน ปชป.ไม่สนับสนุนตั้งรัฏฐาธิปัตย์ เตือน “ยิ่งลักษณ์” เร่งจับเข่าเจรจา “สุเทพ” หาทางออกประเทศก่อนเกิดวิกฤติ “เทือก” ขนมวลชนเยือนกระทรวงกลาโหม ออกลูกพลิ้วตั้งรัฏฐาธิปัตย์แค่เรื่องสมมติ โดนลองของปาบึมป่วนขณะเดินสายเยี่ยม สรส.ที่กระทรวงมหาดไทย “เต้น” ปูด “มีชัย” อยู่ เบื้องหลังวางหมากโค่นรัฐบาล
หลังจากที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ให้ออกมาแสดงจุดยืนถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศตั้งตนเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนกลาง ซึ่งเข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ออกมาแสดงจุดยืนถึงการตั้งรัฏฐาธิปัตย์ว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
“บิ๊กตู่” เตือนตั้งรัฏฐาธิปัตย์ผิด ก.ม.
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศตั้งรัฏฐาธิปัตย์ว่า อยากให้ไปดูความหมายว่า แปลว่าอะไร มีหลายคนออกมาแปลความหมายคำนี้ แต่ต้องไปดูว่า ตามกฎหมายสามารถทำได้หรือไม่ หากผิดกฎหมายก็ดำเนินคดี จุดยืนของกองทัพคือ ไม่เข้าข้างคนทำผิดกฎหมายทุกพวกทุกฝ่าย ซึ่งวันนี้ ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) นำเรื่องนี้ไปพูดคุยกัน ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็กำลังดำเนินคดี ตนคงไม่ไปวิจารณ์กรณีนายสุเทพประกาศจัดตั้งรัฏฐาธิปัตย์ว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะสิ่งใดที่ผิดกฎหมายก็ไม่เหมาะสมทั้งนั้น มันมีคำตอบในตัวอยู่แล้ว
a ทหารไม่เข้าข้าง “สุเทพ-จตุพร”
“ผมถามว่า ขณะนี้มีใครทำความผิด พ.ร.บ.ความมั่นคงบ้าง มีกันหลายกลุ่มหลายฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะนายสุเทพเพียงอย่างเดียว ผมไม่ได้เข้าข้างสุเทพหรือณัฐวุฒิหรือจตุพรหรือใครทั้งนั้น ทหารต้องทำหน้าที่ไป แต่ในวันนี้ไม่ใช่หน้าที่ทหาร ซึ่งทหารก็ต้องมาทำ ถามว่าเป็นหน้าที่ของใคร ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตำรวจใช่หรือไม่ หน้าที่ของทหารตามรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจน ทหารไม่สามารถไปจับกุมใครมาดำเนินคดีได้ คนที่จะจับได้ก่อนคือตำรวจก็เข้าไปจับ เพราะนายสุเทพก็อยู่ในม็อบ แต่พอจับไม่ได้ก็บอกให้ทหารไปจับ มันถูกต้องหรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ใครทำผิดต้องจับติดคุก
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายสับสนกับจุดยืนของ ผบ.ทบ. เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฏฐาธิปัตย์ พล.อ. ประยุทธ์ตอบว่า ที่ตนพูดยังไม่ชัดอีกหรือ บอกแล้วว่าให้ไปดูว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าผิดก็ดำเนินคดี จับติดคุก ใครที่ทำผิด พ.ร.บ.ความมั่นคงก็ไปจับมา คนที่ดำเนินการก่อนคือตำรวจ โดย ศอ.รส.สั่งการไป รวมถึงอธิบดีดีเอสไอ ทำไมไม่ไปไล่ให้คนมีหน้าที่โดยตรงไปทำงาน ตนไม่เข้าใจ ทุกสิ่งทุกอย่างลงมาที่ทหารหมด ไม่ว่าจะรบกับศัตรูนอกประเทศ หรือในประเทศเอง บางพวกไม่ชอบใจว่าทหารมายุ่งกับการเมืองอยาก ถามว่ายุ่งที่ไหน ตนอยู่ดีๆทำหน้าที่ตามคำสั่งและกฎหมายที่มีอยู่ ยืนมาอย่างนี้ตลอด
เมื่อถามว่าคิดว่า การตั้งรัฏฐาธิปัตย์ทำได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ตนไม่คิด เพราะไม่ได้เป็นคนพูด ทุกวันนี้มีหลายเรื่อง หลายคนพูดในสิ่งที่ผิดกฎหมาย สถาบัน เรื่องกบฏแบ่งเป็น 2 เรื่อง คือ รัฏฐาธิปัตย์ และแบ่งแยกประเทศ อยากให้พูดกันหมด และนำมาแก้ไขปัญหา ไม่ใช่แก้กันทีละข้าง ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาต้องไปถามฝ่ายบริหาร ฝ่ายการเมืองและรัฐบาล เมื่อถามว่า เมื่อมีการตั้งรัฏฐาธิปัตย์ได้ ผบ.ทบ.จะรายงานตัวต่อนายสุเทพหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เขาตั้งได้หรือยัง ถ้าตั้งไม่ได้ก็อย่าไปคิด สื่อบอกเองว่าผิดกฎหมายและตั้งไม่ได้ จะมาถามให้เสียสมองทำไม
อ้ำอึ้งไม่กล้ารับปากไม่ปฏิวัติ
เมื่อถามว่า ประชาชนอยากได้ทหารเป็นที่พึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า ทุกวันนี้ทหารยังพึ่งไม่ได้อีกเหรอ ต้องการพึ่งทหารระดับไหน อยากให้ทหารแก้ไขปัญหาอย่างไรก็ให้บอกมา เมื่อถามว่า ถ้าแก้ไขปัญหาไม่ได้ ทหารจะปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เขายอมหรือไม่ก็ให้ไปถามเขา ที่โวยวายกันทุกวันนี้จะสู้กันให้ตายกันไปข้าง เมื่อถามว่า ถ้าประชาชนฆ่ากันตาย ทหารค่อยออกมาปฏิวัติใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่ใช่เรื่องที่ตนจะตอบ ถ้าตอบอย่างนั้น สื่อจะไปเขียนว่าไม่ห่วงประชาชน ปล่อยให้ประชาชนตายก่อนแล้วค่อยออกมาเป็นอัศวินขี่ม้าขาวยึดอำนาจ อยากให้ใช้สติปัญญา เหตุผลแก้ไขปัญหา เคารพกฎหมายก็จะแก้ไขปัญหาได้ ส่วนวิธีการนอกกฎหมาย ไม่ต้องกังวล อย่างไรก็ตาม ไม่สัญญากับใครทั้งสิ้นว่า ใครทำอะไรหรือไม่ทำอะไร
ฉุนมีเรื่องอะไรก็โยนให้ทหาร
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่ทหารถูกการ์ดคปท.ยิงว่า ต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น อย่าเคลื่อนไหวในที่มืด เพราะทหารไม่ได้ติดอาวุธ ไปยืดอกรับกระสุนใครก็ไม่รู้ ทั้งที่เป็นหน้าที่ของตำรวจ ขณะนี้เป็นเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย การเฝ้าระวัง ทหารไม่อยากไปทะเลาะกับใครไม่ว่าตำรวจหรือกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ตนต้องฟังทุกฝ่าย ต้องทำกองทัพให้ยืนอยู่ให้ได้ อยากให้กองทัพไปซ้ายที ขวาที ตนไปไม่ได้ ถ้าไปทางไหนเพื่อไปหยุดสถานการณ์จะไม่เกิดความชอบธรรมกับอีกฝ่ายหนึ่ง หากพูดเข้าข้างใครอีกฝ่ายหนึ่งจะเอาไปโจมตี อีกฝ่ายก็ไม่พอใจ ดังนั้นตนไม่อยู่ข้างไหนทั้งนั้น อย่ามาเลือกข้างให้ ตนจะอยู่ข้างความถูกต้องชอบธรรม เคารพกฎหมาย ปฏิบัติงานด้วยความเสียสละ อดทน เหมือนที่อดทนอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งก็ไม่ได้มีความสุข
“ปึ้ง” พิงสหรัฐฯ–อียูหนุน ปชต.
ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวว่า คณะทูตสหรัฐอเมริกาที่เข้าพบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 เม.ย.แสดงความเป็นห่วงถึงสถานการณ์ทางการเมืองไทย และสนับสนุนแนวทางประชาธิปไตยในประเทศ เช่นเดียวกับกลุ่มประเทศในยุโรป โดยเฉพาะอังกฤษมีความคิดสนับสนุนแนวทางประชาธิปไตยในไทย ไม่ต้องการการเมืองนอกระบบ ทั้งนี้ขอฝากถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าคงจะมีความเข้าใจและสนับสนุนแนวทางประชาธิปไตยในประเทศมากขึ้น
ขู่เล่นงาน ขรก.ต้อนรับ “เทือก”
นายสุรพงษ์กล่าวว่า ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เดินทางไปยังหน่วยงานราชการต่างๆนั้น อยากเตือนปลัดกระทรวงและข้าราชการขอให้ทำงานตามปกติ ไม่จำเป็นต้องออกมาให้การต้อนรับนายสุเทพกับพวก เพราะเป็นกบฏ หากปลัดหรือข้าราชการคนใดใช้เวลาราชการออกมาสนับสนุนถือว่ามีความผิดวินัยร้ายแรง และผิดกฎหมาย เพราะนายสุเทพประกาศจะยึดอำนาจการปกครอง อยากให้ข้าราชการเข้าใจ ใช้วิจารณญาณให้รอบคอบ ตนจะนำเรื่องนี้หารือใน ศอ.รส. และเตรียมเรียกปลัดกระทรวงมาประชุมที่ ศอ.รส. เพื่อรับทราบคำสั่ง และข้อห้ามดังกล่าว พอกันทีกับการใช้เวลาราชการไปสนับสนุนนายสุเทพ เพราะทุกคนรับเงิน เดือน ซึ่งเป็นภาษีราษฎร ดังนั้นในเวลาราชการต้องยึดมั่นวินัยข้าราชการเพราะเป็นข้ารับใช้ประชาชน
อุ้ม ศอ.รส.เล่นงานข้อหากบฏ
นายสุรพงษ์กล่าวว่า ส่วนกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับพิจารณาคดีเอาผิดนายสุเทพกับพวกรวม 58 คน ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 เป็นครั้งที่สองนั้น ไม่ใช่การเลือกปฏิบัติ เนื่องจากคำปราศรัยของนายสุเทพมีความชัดเจนว่าเป็นกบฏ จะดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเข้มงวด เมื่อถามว่า กรณีการแบ่งแยกดินแดนของคนเสื้อแดง กับสิ่งที่นายสุเทพปราศรัยต่างกันหรือไม่ นายสุรพงษ์ตอบว่า กลุ่มเสื้อแดงที่ออกมาประกาศนั้น เป็นในด้านการขอแยกไม่ได้แบ่งแยก แต่นายสุเทพมีการประชุมแกนนำที่สนับสนุนกว่า 1,800 องค์กร แสดงถึงความตั้งใจชัดเจน สามารถตีความสีหน้าที่นายสุเทพร้องไห้ได้ 2 ทางคือ นายสุเทพแสดงความดีใจอย่างมากที่ได้เป็นผู้นำอย่างที่ปรารถนา หรือนายสุเทพเสียใจที่ถูกคนอยู่เบื้องหลังลอยแพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน และ ผอ.ศอ.รส. ไม่ได้เข้าทำงานในศอ.รส.เนื่องจากลาราชการเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งจะกลับเข้าทำงานในวันศุกร์ที่ 11 เม.ย.
ซัด “เทือก” ฟื้นชีพเผด็จการ 14 ตุลา
นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศตั้งตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ไม่เพี้ยนก็บ้า คิดจะเอาโมเดลเมื่อปี 2514 ที่จอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลประภาส จารุเสถียร ทำไว้มาเลียนแบบเป็นเผด็จการคืนชีพ ทำปฏิวัติซ่อนรูป ล้มล้างรัฐบาลและระบอบประชาธิปไตย เดิมพันตัวเองถ้าสำเร็จก็เป็นใหญ่ ไม่ต้องติดคุก ไม่ต้องโทษประหารข้อหากบฏ ครั้งนั้นเมื่อ 2 จอมพลยึดอำนาจตั้งตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์มี ส.ส.3 คน ไปฟ้องศาลอาญา แต่ศาลยกฟ้องอ้างว่าเมื่อยึดอำนาจได้ย่อมมีอำนาจ ซึ่ง 3 ส.ส.ถูกสั่งจำคุก และเกิดวิกฤติ 14 ตุลา 2516 ขอฝากเตือนประชาชนอย่าถลำลึกตกเป็นเครื่องมือ จะติดร่างแหไปด้วย และขอเรียกร้องให้ผู้รักประชาธิปไตยออกมาต่อต้านเผด็จการคืนชีพ รักษารัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตยไว้ให้นานที่สุด แม้ว่าจะต้องเสียเลือดเสียเนื้อก็ตาม นายสุเทพเลิกฝันเฟื่องได้แล้ว จะยึดอำนาจต้องข้ามศพประชาชนไปก่อน
ศอ.รส.ยก “มูดีส์”จวกศาล รธน.
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) น.ส.สิริมา สุนาวิน คณะทำงานศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) แถลงผลประชุม ศอ.รส.ว่า ศอ.รส.มีข้อห่วงใยถึงความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศจากการชุมนุม กปปส. ที่ยืดเยื้อ โดย ศอ.รส.ได้รับรายงานว่า มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ออกรายงานฉบับล่าสุดถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นผลลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของไทย ทำให้เกิดความเสี่ยงว่าภาวะชะงักงันทางการเมืองจะยืดเยื้อต่อไปอีกนานจนถึงครึ่งปีหลังของปี 57 เพิ่มความเสี่ยงด้านลบต่อแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเพิ่มความเสี่ยงที่จะมีการประท้วงที่รุนแรงในวงกว้าง และจากรายงาน East Asia Economic Update 2014 ของธนาคารโลกยังคาดการณ์ว่าในปี 57 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่ำที่สุดในอาเซียนด้วย ศอ.รส.จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นโดยเร็ว โดยเฉพาะองค์กรในกระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้ควรจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด และขอเรียกร้องประชาชนไม่ให้เข้าร่วมสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดๆที่ขัดแย้งกันอยู่ในขณะนี้
ตำหนิปลัด ยธ.ออกหน้ารับ “เทือก”
น.ส.สิริมากล่าวอีกว่า ศอ.รส.เห็นว่าการที่กปปส.เรียกร้องให้ข้าราชการมาเข้าร่วมเป็นสิ่งไม่เหมาะสม เป็นการสร้างแรงกดดันให้ข้าราชการ เพราะพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนกำหนดให้ข้าราชการเป็นกลางทางการเมือง จึงขอตำหนินายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่ไปปราศรัยกดดันเจ้า– หน้าที่กระทรวงยุติธรรม และตำหนินายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ออกมาต้อนรับนายสุเทพในลักษณะให้การรับรอง เข้าข่ายการกระทำไม่เหมาะสม เพราะเป็นผู้บังคับบัญชากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเป็นกรรมการคดีพิเศษ ควรให้พนักงานสอบสวนจับกุมนายสุเทพกับพวกที่ถูกดำเนินคดีพิเศษ ฐานร่วมกันเป็นกบฏ และมีหมายจับ มิใช่ให้การรับรอง ซึ่ง ศอ.รส.จะเรียกปลัดกระทรวงทุกกระทรวงมาประชุมเพื่อกำชับตักเตือน และทำความเข้าใจในวันที่ 17 เม.ย. เวลา 14.00 น.
ปลัด ยธ.พร้อมรับผิดต้อนรับม็อบ
นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.นำมวลชนเข้าชี้แจงแนวทางการปฏิรูปประเทศไทยว่า เป็นเรื่องที่ไม่ทราบล่วงหน้า ได้รับแจ้งว่ากลุ่ม กปปส. เดินทางมาที่กระทรวงยุติธรรม ในฐานะปลัดกระทรวงยุติธรรมจึงลงมาดูแลเป็นการตัดสินใจของตน ไม่เกี่ยวกับผู้บริหารกระทรวงคนอื่น พร้อมจะรับผิดชอบในการตัดสินใจ เห็นว่ามีคนจำนวนมากอาจเกิดการเผชิญหน้า จึงให้ กปปส.นำตัวแทนเข้าพูดคุย 4-5 คน โดยนายสุเทพได้ชี้แจงแนวทางปฏิรูปกับตน และผู้บริหารกระทรวง จากการรับฟังเห็นว่า ทุกฝ่ายมีเป้าหมายตรงกัน เหลือแต่วิธีการเดินไปสู่เป้าหมาย จึงอยากให้ทุกฝ่ายมองที่เป้าหมายและมาหารือร่วมกัน ขณะนี้โอกาสเปิดพอสมควรเพราะยังไม่มีการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ถ้าทุกฝ่ายยอมถอยคนละก้าว มาคุยกันทั้งคู่ขัดแย้ง พรรคการเมืองมาวางแผนโรดแมปว่าจะทำอะไรบ้างให้มีการเลือกตั้งนำไปสู่รัฐบาลเพื่อการปฏิรูป มีระยะเวลาการปฏิรูปให้ชัดเจน เชื่อว่าหากยอมถอยคนละก้าว จะทำให้ประเทศก้าวเดินต่อไปได้
“ปู” สั่งเฉียบเล่นงาน “โกตี๋”
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.)ทำหนังสือถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ดำเนินคดีอาญากับนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี จากกรณีปรากฏคลิปเผยแพร่ทางสื่อต่างๆมีเนื้อหาเข้าข่ายกระทำหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยเฉพาะคลิปที่มีการเผยแพร่ของนายวุฒิพงศ์ ดังนั้น นายกฯจึงมีบัญชาให้สืบสวนข้อเท็จจริง และสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหนังสือดังกล่าวได้ส่งถึง ผบ.ตร.แล้ว
ผบ.ตร.บล็อกคลิปหมิ่นสถาบัน
พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผบ.ตร. สั่งการเร่งด่วนให้ บก.ปอท. ประสานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ปิดกั้นการเข้าถึงคลิปวีดิโอผ่านทางเว็บไซต์ยูทูบที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบัน ซึ่งเป็นคำพูดของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” แกนนำเสื้อแดง จ.ปทุมธานี พร้อมมอบให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะเร่งจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ขอเตือนว่าหากใครเผยแพร่หรือส่งต่อคลิปดังกล่าวถือเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มีโทษจำคุก 3-15 ปี ส่วนกรณีคนร้ายขว้างระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.บริเวณกระทรวงมหาดไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพื้นที่พบกระเดื่องและสลักนิรภัยของระเบิดชนิดเอ็มเค 2 ซึ่ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. กำชับให้ สน.สำราญราษฎร์ และ บก.น.6 เร่งหาตัวผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับผิดชอบดูแลคดีระเบิดที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ให้นำข้อมูลของเหตุขว้างระเบิดครั้งนี้ รวมเป็นฐานข้อมูลเพื่อเทียบเคียงกับเหตุระเบิดครั้งอื่นที่มีการใช้ระเบิดชนิดหรือประเภทเดียวกัน
ทบ.จับตา ตร.เร่งเอาผิด
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศตั้งรัฏฐาธิปัตย์ว่า เป็นเรื่องที่ผู้รับผิดชอบหลักทั้ง ศอ.รส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำไปพิจารณาประเมินตามมุมมองทางกฎหมาย เชื่อว่าคงอยู่ระหว่างดำเนินการ ถ้าเข้าข่ายผิดกฎหมายคงจะดำเนินการอย่างเท่าเทียมในทันทีแน่นอน ส่วนกรณีการเผยแพร่คลิปวีดิโอคำพูดของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ทางยูทูปที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบัน ทั้ง ศอ.รส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการแล้ว ส่วนกองทัพบกจะเฝ้าติดตามดูความคืบหน้าทางคดีต่อไป
“มาร์ค” รีบชิ่งปัดหนุนรัฏฐาธิปัตย์
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี (อสมท) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาสถานการณ์ในบ้านเมืองว่า พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า ไม่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงใดๆที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่ที่มีการพูดถึงรัฎฐาธิปัตย์เกิดจากการตอบโต้กันไปมา หลังจากที่รัฐบาลประกาศว่า หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลแล้วจะไม่ยอมรับ จึงมีการพูดถึงการที่ประชาชนจะเข้ามาดูแลเพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ส่วนตัวเห็นว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้น ทุกคนควรเคารพรัฐธรรมนูญ หากทุกคนเคารพ เชื่อว่าปัญหาจะจบ ดังนั้นรัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ไม่ควรปล่อยให้มีการคุกคามองค์กรอิสระ ควรเร่งหาทางพูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เพื่อหาทางออกของประเทศ ก่อนที่สถานการณ์บ้านเมืองจะบานปลาย หากปล่อยไว้จะสุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรง เพราะทุกเวลาที่ผ่านไปมีความสุ่มเสี่ยงมากขึ้นต่อการปะทะ หากอยากคลี่คลายรัฐบาลต้องขยับให้เร็วที่สุด ยอมรับการพูดคุยกับนายสุเทพ และถ่ายทอดสดให้ประชาชนได้ทราบ ขณะนี้ทุกฝ่ายรวมทั้งมิตรประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา ที่มาพบตน เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ก็ห่วงใย และอยากเห็นการพูดคุยเพื่อให้กระบวนการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
สั่งทีม ก.ม.แจ้งจับ “โกตี๋” หมิ่นสถาบัน
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศพาดพิงสถาบันว่า ในการสัมภาษณ์มีการระบุถึงสถาบันโดยตรง สะท้อนแนวคิดการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่มีมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มแกนนำเสื้อแดง นักวิชาการเสื้อแดง จนมาถึงนายโกตี๋ ถือเป็นภัยความมั่นคงของรัฐที่เจ้าหน้าที่รัฐ และฝ่ายความมั่นคงต้องเร่งจัดการ พรรคเห็นเป็นเรื่องสำคัญมาก หากปล่อยให้มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถาบัน ประเทศไทยจะอยู่ในภาวะไม่มั่นคงทางการเมืองและการปกครอง โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค มอบให้ฝ่ายกฎหมายพรรคทำคำร้องถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ. ศอ.รส. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รวมถึงให้แจ้งความดำเนินคดีที่กองปราบปราม ซึ่งกำลังพิจารณาดำเนินคดีทั่วประเทศด้วย และในวันที่ 10 เม.ย. น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ จะไปยื่นคำร้องถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ให้ฝ่ายความมั่นคงจริงจังกับการให้ร้ายและดูหมิ่นสถาบัน
จับโกหก “ปู” อยากเปิดโต๊ะเจรจา
นายชวนนท์กล่าวว่า ส่วนกรณีนายแดเนียล อาร์รัสเซล ผช.รมช.การต่างประเทศ สหรัฐฯเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น สหรัฐฯระบุชัดว่า สนับสนุนให้ทุกฝ่ายได้แสดงสิทธิความคิดเห็นอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้มีเวทีแสดงออกถึงความต้องการและขอให้รัฐบาลรวมทั้งทุกฝ่ายรับฟังเพื่อกำหนดแนวทางที่เป็นคำตอบอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังสนับสนุนว่าการเลือกตั้งเป็นทางออกที่เหมาะสม แต่ต้องเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ซึ่งตรงกับแนวทางพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น คำสัมภาษณ์ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อ้างว่าจะเปิดการเจรจานั้น ไม่เป็นความจริง เพราะปฏิเสธการเจรจากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.มาตลอด หากต้องการเจรจาจริง เชื่อว่านายสุเทพสามารถนัด น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ภายในวันที่ 10 เม.ย. ด้วยซ้ำ จะทำให้ประตูทางออกของประเทศเปิดออก
เครือข่าย ปชช.แจ้งจับ “สุเทพ”
ที่กองปราบปราม นายสัญชัย สวยพรมราช ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายคนรักประเทศไทย เข้าพบ พ.ต.ท.ชวลิต หาญเสน่ห์ลักษณ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.กับพวก ในความผิดฐานเป็นกบฏ ร่วมกันยึดอำนาจ กระทำการให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ประชาชน หรือให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลอันมิใช่การกระทำในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ โดยนายสัญชัยกล่าวว่า การที่นายสุเทพประกาศความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ยึดอำนาจประเทศไทย เป็นการขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังล้มล้างเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา จึงมาแจ้งความดำเนินคดี
ด้าน พ.ต.ท.ชวลิตกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ จากนั้นจะเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการ โดยกรณีดังกล่าวมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว ก็อาจจะเสนอให้พิจารณารวมคดีไว้ที่ดีเอสไอต่อไป
กลุ่มเที่ยงตรงบี้ ผบ.ทบ.กำราบ
ที่กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน 1 รอ.) นายอุดร-พันธ์ เครือมูล ตัวแทนกลุ่มเที่ยงตรงเที่ยงธรรม ร่วมกันสวมเสื้อสีขาวชูป้ายรูปนาฬิกาเวลาเที่ยงตรง มายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. แสดงความไม่เห็นด้วยต่อท่าทีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ที่ประกาศตั้งตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ มี ร.ท.อนุวัต จันทวี นายทหารเวรผู้ใหญ่ เป็นตัวแทนรับหนังสือ โดยนายอุดรพันธ์กล่าวว่า อยากให้ ผบ.ทบ.จัดการกับนายสุเทพที่ประกาศตั้งรัฏฐาธิปัตย์ เพราะนายสุเทพมีหมายศาลข้อหาเป็นกบฏในราชอาณาจักร จึงอยากให้ ผบ.ทบ.ดูแลความมั่นคง ความสงบสุขของประเทศ
กวป.พึ่งไสยศาสตร์ไล่ ป.ป.ช.
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.นนทบุรี นายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษกกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาชน (กวป.) นำมวลชนมาตั้งเต็นท์ที่ด้านหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อทำพิธีสาปแช่งและขับไล่วิญญาณชั่วร้ายที่สิงสถิตคณะกรรมการ ป.ป.ช. 5 คน โดยนำหุ่นฟางทำเป็นตัวแทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. 5 คน มียมทูตถือหอกมาคอยรับวิญญาณ ก่อนให้หมอไสยศาสตร์ทำพิธีสาปแช่งและเรียกวิญญาณชั่วร้ายให้ออกจากร่างของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จับใส่หม้อดินเผา พร้อมใช้มีดหมอชุบเลือดนำกรีดที่รูปภาพคณะกรรมการทั้ง 5 คน ก่อนมาสาดใส่หุ่น จากนั้นนำดวงวิญญาณของกรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 5 คน ถ่วงแม่น้ำเจ้าพระยาที่ท่าน้ำวัดแคนอก จ.นนทบุรี โดยนายศรรักษ์กล่าวว่า การนำมวลชนมาทำพิธีครั้งนี้ เพราะเห็นว่ากรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 5 คน ไม่สมควรอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อ เนื่องจากไม่ได้มาจากการโปรดเกล้าฯ จึงต้องทำพิธีไสยศาสตร์ขับไล่ดวงวิญญาณชั่วร้ายในตัวกรรมการ ป.ป.ช.ออกไป ซึ่ง กวป.จะปักหลักชุมนุมต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 9-11 เม.ย. และในช่วงเย็นจะนิมนต์พระสงฆ์ 45 รูป มาทำพิธีสวดมนต์ขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ออกจาก ป.ป.ช.ด้วย
นปช.จัดงานรำลึก 4 ปีสลายชุมนุม
ที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. แถลงว่า ในวันที่ 10 เม.ย. กลุ่ม นปช.จะจัดงานทำบุญรำลึก 4 ปี เหตุการณ์สลายชุมนุม นปช. 10 เม.ย.53 ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว เนื่องจากบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการชุมนุมของกลุ่มโพธิรักษ์และคปท. โดยจะมีพิธีสงฆ์ การสดุดีวีรชน ขณะที่กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ ยังนัดหมายไปจัดทำบุญที่วัดพลับพลาไชย
แฉ “มีชัย” อยู่เบื้องหลังวางเกม
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. กล่าวว่า ความหมายใหม่ของรัฏฐาธิปัตย์ ที่นายสุเทพประกาศคือ รัฐประหารบวกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะนายสุเทพเป็นอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น ถ้า กปปส.จะตั้งนายกฯ สภาประชาชนก็ไม่ต่างกับพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนตั้ง ขอถามว่า การที่นายสุเทพประกาศเป็นรัฏฐาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยหรือไม่ ถ้าบอกว่าทำได้ ขอให้ยุติบทบาททางการเมือง แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นพรรครัฏฐาธิปัตย์ ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวนายกฯคนกลาง ขอให้จับตาตัวเต็งคือ นายพลากร สุวรรณรัฐ พล.อ.ประ-วิทย์ วงษ์สุวรรณ นายอานันท์ ปันยารชุน และม้ามืด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และยังทราบว่าขณะนี้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เข้ามาทำหน้าที่กำหนดเกม วางช่องกฎหมายให้นายสุเทพมาอ้างบนเวทีกปปส. ถ้าไม่จริงขอให้ออกมาปฏิเสธ ดังนั้น สูตรที่ใช้ในการจัดการบ้านเมืองหลังเกิดรัฏฐาธิปัตย์จึงคล้ายรัฐประหารปี 49 จะเรียกว่ามีชัยโมเดลก็ได้ ขอเอาชีวิตเป็นเดิมพันว่า หลังจากที่นายสุเทพเสนอชื่อนายกฯ ตั้งสภาประชาชนเสร็จ จะไม่กลับไปเป็นกำนันแก่ๆที่บ้านเด็ดขาด แต่อันดับแรกจะประกาศกฎอัยการศึก ย้ายข้าราชการที่ไม่ใช่พวกตัวเอง ออกกฎหมายนิรโทษกรรมตัวเองและพวกรวมถึงคดีสั่งฆ่าประชาชนปี 53 ด้วย ขณะนี้กำลังรอว่าศาลรัฐธรรมนูญประกาศตัดสินคดีเมื่อไร วันนั้นจะเป็นวันชุมนุม นปช. เป็นวันไทยแลนด์โอเพ่นเดย์ใครอยากทำอะไรก็ทำ
หลวงปู่ควัก 1 แสนจ่ายค่าทางด่วน
ด้านการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 9 เม.ย. หลวงปู่พุทธอิสระ แกนนำ กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ นำมวลชน กปปส.และตัวแทนชาวนา เดินทางด้วยรถบัส รถตู้ ออกจากเวทีแจ้งวัฒนะมายังกระทรวงการคลัง โดยใช้เส้นทางด่วนแจ้งวัฒนะ เมื่อมาถึงช่องทางจ่ายเงินค่าผ่านทาง หลวงปู่พุทธอิสระได้สั่งให้รถในขบวนทุกคันหยุดจอดรอ จากนั้นได้ลงไปที่ช่องจ่ายเงินค่าผ่านทางเพื่อชำระเงินค่าทางด่วนให้รถในขบวน กปปส.ทุกคัน เนื่องจากก่อนหน้านี้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ออกมาให้ข่าวว่า กปปส.ทำผิดกฎหมายไม่ยอมจ่ายค่าทางด่วน และร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดี โดยหลวงปู่พุทธอิสระกล่าวว่า เตรียมเงินมา 1 แสนบาท เพื่อชำระค่าผ่านทางให้รถทุกคันในขบวน แต่พนักงานเก็บค่าผ่านทางบอกว่า จำนวนเงินไม่มากถึงขนาดนั้น จึงขอให้ทางด่วนตรวจสอบจำนวนรถในขบวนที่จะผ่านด่าน และให้ส่งบิลค่าผ่านทางย้อนไปให้เวทีแจ้งวัฒนะอีกครั้ง
บี้คลังหาที่ดินให้ชาวนาเช่า
จากนั้นเมื่อขบวนหลวงปู่พุทธอิสระเดินทางมาถึงกระทรวงการคลัง ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้กรมธนารักษ์ตรวจสอบที่ดินราชพัสดุ เพื่อให้ชาวนาได้เช่าทำกินในราคาถูก มีนางปนัสย์สร อริยวงศ์ รองอธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นตัวแทนรับหนังสือ โดยหลวงปู่พุทธอิสระกล่าวว่า ขอให้กรมธนารักษ์ไปตรวจสอบที่ดินราชพัสดุที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ นำมาให้ชาวนาเช่าทำกินในราคาเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมาต้องเช่าต่อจากคนกลางจึงถูกเอาเปรียบ เบื้องต้นให้ไปตรวจสอบพื้นที่ 16 จังหวัดภาคกลางว่ามีพื้นที่ใดไม่ได้ใช้ประโยชน์ ขอให้นำมาให้ชาวนาที่เดือดร้อนเช่าทำกิน โดยนางปนัสย์สรรับปากจะประสานให้แต่ละจังหวัดในพื้นที่ภาคกลางส่งข้อมูลการสำรวจพื้นที่ตามที่ กปปส.ต้องการ เพื่อแจ้งให้ทราบภายใน 15 วัน
ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯ 100 ล้าน
ต่อมาเวลา 11.00 น. หลวงปู่พุทธอิสระเคลื่อนขบวนไปที่ศาลอาญา เพื่อยื่นฟ้องนายนพรัตน์ เบญจ–วัฒนานันท์ ผอ.สำนักพระพุทธศาสนา ข้อหาหมิ่นประมาท กรณีให้สัมภาษณ์ถึงการจัดโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนที่ศูนย์ราชการ เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากพระพุทธอิสระไม่ใช่พระอุปปัชฌาย์ จึงไม่สามารถบวชให้ใครได้ ศาลรับคำฟ้องไว้พร้อมนัดไต่สวนมูลฟ้องว่าคดีมีมูลหรือไม่ ในวันที่ 16 มิ.ย.57 โดยหลวงปู่พุทธอิสระกล่าวว่า ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาให้สัมภาษณ์หมิ่นประมาท เรื่องจัดโครงการบรรพชาสามเณร โดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงมายื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญา นอกจากนี้เตรียมยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาทด้วย
ยื่นกองปราบเช็กบิล “โกตี๋”
จากนั้นเวลา 13.30 น. หลวงปู่พุทธอิสระนำมวลชนไปที่กองปราบปราม เพื่อยื่นหลักฐานให้ดำเนินคดีนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” แกนนำเสื้อแดง จ.ปทุมธานี กรณีหมิ่นสถาบัน โดยนำซีดีคำให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศมาเป็นหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากที่เคยยื่นเรื่องไว้ในครั้งแรก เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา มี พ.ต.ท.จอม สิงห์น้อย สว.กก.1 บก.ป. มารับหลักฐาน พร้อมระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมหลักฐานออกหมายเรียกนายวุฒิพงศ์มารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 5 วัน โดยหลวงปู่พุทธอิสระให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 วัน แล้วจะมาติดตามคดีนายวุฒิพงศ์ หากไม่มีความคืบหน้าอาจจะมาปักหลักหน้ากองปราบปราม
“สุเทพ”ขนมวลชนบุก กห.
ด้านบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่เวทีสวนลุมพินี ในวันที่ 9 เม.ย. เมื่อเวลา 10.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อมแกนนำ ได้นำมวลชนเคลื่อนขบวนออกจากสวนลุมพินีไปยังกระทรวงกลาโหม เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร เมื่อเดินทางถึงกระทรวงกลาโหม แกนนำให้มวลชนกระจายตัวรอบรั้วกระทรวง พร้อมกำชับไม่ให้เข้าไปภายในเด็ดขาด ขณะ
- องค์กรสิทธิฯประสานเสียงร้องให้ปล่อยตัว14นักศึกษา หลังถูกขังเรือนจำ กลุ่มปชต.ใหม่แถลงสู้ต่อ
- “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” ทรงเป็นประธาน ในพิธีไหว้ครูและพระราชทานเหรียญรางวัลการศึกษาแก่นักเรียนนายร้อยประจำปีการศึกษา
- “รมว.พลังงาน” จ่อขยับภาษีแอลพีจีภาคขนส่ง
- สหรัฐพร้อมช่วยชาติในอาเซียนรับภาระผู้อพยพ
- “ททท.”ชี้คนจีนแห่เที่ยวไทย-คาดปีนี้ไม่ต่ำกว่า 6ล้านคน