‘เวิลด์แบงก์’ หั่นจีดีพีไทยโตแค่ 3% จากปมจำนำข้าว-การเมือง

‘เวิลด์แบงก์’ หั่นจีดีพีไทยโตแค่ 3% จากปมจำนำข้าว-การเมือง

“เวิลด์แบงก์” คาดจีดีพีไทยปีนี้โต 3% ลดลง 1.5% จากที่คาดการณ์ เพราะผลกระทบการเมือง ถือว่าโตต่ำสุดในภูมิภาค ชี้หากมีรัฐบาลที่มั่นคง เคลียร์ปัญหาจำนำข้าวได้ จะเรียกเชื่อมั่นกลับและโตได้มากกว่านี้…

เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 57 ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ได้ระบุในรายงานเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกฉบับปรับปรุง ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเอเชียตะวันออกปีนี้ จะขยายตัวในอัตราเดียวกับปีก่อน 7.1% ซึ่งไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้วนัก ทำให้จีดีพีภูมิภาคนี้ขยายตัวมากที่สุดในโลก แต่ถือว่าขยายตัวลดลงเมื่อเทียบกับอัตราเฉลี่ย 8% ระหว่างปี 2552-2555 หากแยกเฉพาะจีน จีดีพีจีนปีนี้จะขยายตัว 7.6% ลดลงจาก 7.7% เมื่อปีก่อน เพราะอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้าง ถ้าไม่รวมประเทศจีน ประเทศที่เหลือในภูมิภาคจะเติบโตได้ที่ 5% ลดลงจาก 5.2% ในปีที่แล้ว

พร้อมกับคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของไทยจะขยายตัว 3% ในปีนี้ ซึ่งลดลงราว 1.5% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากรับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน ขณะที่ประเทศในอาเซียน โตเฉลี่ย 4.8% โดยประเทศที่เศรษฐกิจน่าจะโตมากที่สุด คือ ประเทศเมียนมาร์ ที่ 7.8% ซึ่งถ้าการเมืองไทยคลี่คลายได้ มีรัฐบาลที่มั่นคง จัดการปัญหาเงินจำนำข้าวที่ยังค้างชาวนาอยู่ ซึ่งคิดเป็น 1% ของ จีดีพี และเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาได้ ก็คาดว่าเศรษฐกิจสามารถเติบโตมากกว่านี้

ทั้งนี้ ยังคาดว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจเอเชียในปีนี้ แต่เศรษฐกิจขนาดใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไทยและมาเลเซีย จะเผชิญกับภาวะการเงินโลกที่เข้มงวดกว่าเดิม และเสี่ยงมีหนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้น ส่วนฟิลิปปินส์คาดว่าจีดีพีปีนี้จะขยายตัว 6.6% ลดลงจาก 7.2% เมื่อปีก่อน

นอกจากนี้ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3% ในปีนี้ และขยายตัว 3.3% ในปีหน้า เพราะได้แรงหนุนจากกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง ซึ่งคาดว่าประเทศกลุ่มนี้จะขยายตัว 2.1% ในปีนี้ และ 2.4% ในปีหน้า.

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์