“สมเด็จพระเทพฯ” ทรงติดตามการดำเนินงานพัฒนาเด็ก และเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนจังหวัดราชบุรี และกาญจนบุรี


cats

         วันนี้ (20ก.พ.2557)สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงานพัฒนาเด็ก และเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริ ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และกาญจนบุรี

         เวลา 09.46 น. วันนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนตะโกปิดทอง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างอาคาร บ้านพัก และทรงติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเปิดสอนชั้นปฐมวัยถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 212 คน เกือบทั้งหมดมาจากชุมชนตามแนวชายขอบเป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง และจากเมียนมาร์ มีนักเรียนบ้านไกล 70 คน ครึ่งหนึ่งมาจากศูนย์อพยพบ้านถ้ำหิน  โดยได้สนองพระราชดำริในการส่งเสริมการศึกษา และช่วยเหลือเกี่ยวกับสถานะบุคคล การได้รับสัญชาติไทย อาทิ สอนเสริมแก่เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในวันเสาร์ อาทิตย์ และให้ครูติวก่อนสอบ เนื่องจากผลสอบโอเน็ตยังต่ำกว่าระดับประเทศ,สนับสนุนให้เด็กชายขอบที่มีอายุเกินเกณฑ์ ได้เรียนหนังสือ ตลอดจนให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเพื่อรีบแจ้งเกิดบุตร โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการแสดงละครเกี่ยวกับการอนุรักษ์ป่าไม้ ซึ่งเป็นกิจกรรมตามคู่มือพระราชทานการจัดกิจกรรมเรียนรู้การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีพระราชดำริให้ดำเนินการในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทุกแห่ง

        จากนั้น ทอดพระเนตรโครงการตามพระราชดำริ ซึ่งเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 1 ใน 2 แห่งของอำเภอที่ดำเนินงานครบทั้ง 8 โครงการ จนประสบผลสำเร็จ สามารถขยายผลสู่ชุมชนได้ อาทิ โครงการฝึกอาชีพ ส่งเสริมการทอพรมพื้นเมือง ถักผ้าพันคอ ทำพิมเสนน้ำ เชื่อมโลหะ และตัดผมเสริมสวย, โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ส่งเสริมการทำปุ๋ยอินทรีย์ น้ำหมักชีวภาพ ปลูกหญ้าแฝกเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน และเลี้ยงสัตว์ จนมีผลผลิตเพียงพอประกอบอาหารกลางวัน ส่งผลให้อัตราการขาดสารอาหารลดลง ในการนี้ มีพระราชดำริให้ดูแลเรื่องสุขอนามัย อาทิ ในโรงอาหารและการจัดการขยะ รวมทั้งจัดหาแหล่งน้ำเพิ่มเติมช่วยเหลือโรงเรียน และชุมชน ซึ่งเดิมใช้ระบบประปาภูเขา จากนั้น ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน และทรงรับคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 3 คน เป็นอัมพาตครึ่งซีก ป่วยเป็นโรครูมาตอยด์ และเด็กมีพัฒนาการช้า แล้วทรงเยี่ยมกลุ่มอาชีพของราษฎรที่ส่งผลิตภัณฑ์จำหน่ายที่ร้านภูฟ้า รวมถึงราษฎรที่เฝ้าทูลละอองพระบาท รับเสด็จ

        เวลา 13.26 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนวัดสุธาสินี บ้านลำสมอ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ปัจจุบันเปิดสอนชั้นปฐมวัยถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 84 คน นักเรียนมีหลายเชื้อชาติ ทั้งกัมพูชา เมียนมาร์ กะเหรี่ยง และมอญ ทำให้นักเรียนชั้นปฐมวัยมีปัญหาในการสื่อสารกับครูจึงจัดสอนภาษาไทยเสริม และให้พูดภาษาไทยในโรงเรียน  ในการนี้ ทอดพระเนตรโครงการฝึกอาชีพ ที่วิทยาลัยการอาชีพกาญจนบุรี มาช่วยสอนการทำดอกไม้ประดิษฐ์จากใบยางพารา และทำกล้วยฉาบปรุงรส  เน้นการนำวัสดุจากท้องถิ่นมาแปรรูปให้มีมูลค่า และสร้างรายได้ระหว่างเรียน รวมทั้งให้นักเรียนมีพื้นฐานในการประกอบอาชีพหลังจบการศึกษา ด้านการเรียนการสอน มีการอบรมครูในช่วงปิดภาคเรียนของทุกปีเพื่อเพิ่มพูนความรู้ และเทคนิคการสอน  ส่วนผลสอบโอเน็ตในปีนี้คะแนนไม่ดีนัก โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ เนื่องจากขาดครูชำนาญการวิชาภาษาอังกฤษ จึงได้จัดสอนเสริมวันละ 1 ชั่วโมงหลังเลิกเรียน  ส่วนโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผล เลี้ยงไก่ เป็ดเทศ และปลาดุก ผลผลิตที่ได้เพียงพอต่อการบริโภค ส่งผลให้มีภาวะโภชนาการที่ดี รวมทั้งให้ดื่มนมพระราชทานทุกเช้า  นอกจากนี้ยังเปิดศูนย์การเรียนรู้ด้านการเกษตร ให้ชุมชนใกล้เคียงเข้ามาฝึกอบรมและดูงานด้านการเกษตรตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง พบว่าได้ผลดีมีชุมชนนำไปปฏิบัติและประสบความสำเร็จแล้ว 5 ครัวเรือน  ปัจจุบันโรงเรียนใช้น้ำจากระบบท่อส่งน้ำของอ่างเก็บน้ำห้วยลำสมอ แต่ในช่วงฤดูแล้งส่งน้ำได้ไม่เพียงพอ เนื่องจากระบบส่งน้ำชำรุด และน้ำในลำห้วยสาขาของห้วยบ้องตี้ตื้นเขินในการนี้ มีพระราชดำริให้กรมชลประทานปรับปรุงระบบส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยลำสมอ และขุดลอกลำห้วยสาขาของห้วยบ้องตี้เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

        เวลา 15.03 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่น้ำน้อย ตำบลไทรโยค ซึ่งตั้งอยู่เขตพื้นที่อนุรักษ์อุทยานแห่งชาติไทรโยค รับเด็กในพื้นที่ซึ่งมีหลายสัญชาติ  มีนักเรียนชั้นปฐมวัยถึงประถมศึกษาปีที่ 6 รวม 95 คน เป็นนักเรียนบ้านไกล 60 คน ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ส่วนวิชาภาษาอังกฤษต่ำ จึงจัดสอนเสริมหลังเลิกเรียน และส่งครูไปฝึกอบรมที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม และมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี รวมทั้งมีนักศึกษาไปช่วยสอน, ส่งเสริมการอ่านหนังสือในห้องสมุดทำให้ผลการเรียนดีขึ้น และจัดสอนเสริมความรู้เบื้องต้นด้านภาษาและศิลปวัฒนธรรม เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

       โอกาสนี้ ทอดพระเนตรโครงการตามพระราชดำริ ซึ่งมีผลสัมฤทธิ์เป็นที่น่าพอใจ ได้รับรางวัลระดับภาคและระดับชาติจำนวนมาก ทั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ของชุมชน อาทิ โครงการฝึกอาชีพ อบรมการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า และรถจักรยาน ประดิษฐ์ตุ๊กตาจากเศษผ้า ทำผ้ามัดย้อม และผลิตภัณฑ์แปรรูป จำหน่ายในงานเทศกาลต่าง ๆ, โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ทำแปลงปลูกผักปลอดสารพิษ ผลิตปุ๋ยหมัก ปุ๋ยน้ำชีวภาพ ปลูกไม้ผล เลี้ยงไก่ไข่ หมู ปลากินพืช และกบ เพื่อให้มีทักษะการเกษตรตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง และมีผลผลิตไปประกอบอาหารกลางวันได้ทั้งปี ตลอดจนเหลือแปรรูปส่งจำหน่ายให้กับชุมชน และเป็นศูนย์เรียนรู้การเกษตรให้แก่ชุมชน จากปัญหาแหล่งน้ำมีคราบหินปูน จึงแก้ไขโดยใช้เครื่องกรองน้ำที่ได้มาตรฐาน, โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการปลูกหญ้าแฝก เพาะพันธุ์พืช และกล้าหญ้าแฝกแจกราษฎร, ส่งเสริมให้ออมทรัพย์ในกระปุกออมสินพระราชทาน และฝึกให้ทำบัญชีรายรับ รายจ่าย จนได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดบันทึกบัญชีกิจกรรมสหกรณ์ ในปีการศึกษา 2554 ถึง 2555 และฝึกอบรมการทำบัญชีครัวเรือนแก่ราษฎร  ในการนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอไทรโยค ที่จัดแสดงผลการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช กว่า 400 ชนิด และพันธุ์สัตว์ท้องถิ่นภาคตะวันตกและหายากกว่า 90 ชนิด อาทิ ค้างค้าวคุณกิตติ ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุดในประเทศ, ตุ๊กแกบินและกล้วยไม้ท้องถิ่นกว่า 40 ชนิด

      โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทานที่ไปตรวจรักษาโรคและให้บริการทันตกรรม มีราษฎรไปใช้บริการ 95 คน เป็นผู้ป่วยที่ยากไร้ ป่วยด้วยโรคลมชักกับขาผิดรูป, พัฒนาการช้า และแผลจากไฟไหม้ รวม 4 คน ซึ่งได้พระราชทานเงินค่าเดินทาง พร้อมทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พร้อมกันนี้ ทรงเยี่ยมราษฎรที่ไปเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ


uasean

 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ chaoprayanews.com ดูทั้งหมด

300

views
Credit : chaoprayanews.com


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน