“นาจิบ ราซัค” นายกฯ เสือเหลือง เผยมาเลเซียต้องเร่งปฏิรูป ศก. หากยังหวังกลายเป็น “ชาติพัฒนาแล้ว” ในปี 2018

       เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคแห่งมาเลเซีย เผยมีความจำเป็นต้องเร่งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของแดนเสือเหลืองใหม่ เพื่อเป็นหลักประกันว่าเศรษฐกิจมาเลเซียจะเติบโตได้อย่างยั่งยืน และบรรลุเป้าหมายในการเป็น “ประเทศพัฒนาแล้ว” ให้ได้ภายในปี “ค.ศ. 2018” หรืออีก 4 ปีข้างหน้า
       
       นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซียกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมรัฐสภาในนครปุตราจายาในวันอังคาร (21) โดยยอมรับเป็นครั้งแรกว่า มาเลเซียจะไม่มีทางประสบความสำเร็จในการยกระดับตัวเองให้เป็น “ประเทศที่พัฒนาแล้ว” ได้ในปี 2018 ตราบใดที่มาเลเซียยังไม่เร่งปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศครั้งใหญ่เสียแต่ตอนนี้
       
       นาจิบ วัย 60 ปี ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 6 ในประวัติศาสตร์แดนเสือเหลือง เมื่อเดือนเมษายนปี 2009 ยอมรับต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า ในปัจจุบันเศรษฐกิจของมาเลเซียยังไม่มีความหลากหลาย และอยู่บนพื้นฐานของ “ความเปราะบาง” จากการที่มาเลเซียยังคงต้องพึ่งพาการเติบโตของภาคการส่งออก การท่องเที่ยว และรายได้จากทรัพยากรปิโตรเลียมเป็นหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
       
       “ตราบใดที่เรายังต้องพึ่งเม็ดเงินจากการส่งออก ตราบใดที่เรายังต้องพึ่งการเข้ามาจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และตราบใดที่เรายังต้องพึ่งพารายได้จากการส่งออกทรัพยากรพลังงาน มาเลเซียจะไม่มีวันบรรลุเป้าหมายในการเป็นชาติที่พัฒนาแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราต้องสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เราเติบโตได้อย่างยั่งยืนด้วยตัวของเราเอง” นาจิบกล่าวต่อรัฐสภาในวันอังคาร (21)
       
       นายกรัฐมนตรีมาเลเซียซึ่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังด้วยอีกตำแหน่งเผยว่า หนึ่งในมาตรการเร่งด่วนที่รัฐบาลของเขาจะเร่งดำเนินการ คือ การหาทางลดการพึ่งพาภาคการส่งออก โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตรอย่างยางพารา และปาล์มน้ำมัน รวมถึงแร่ดีบุก ซึ่งเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่ผู้นำมาเลเซียยังไม่เปิดเผยรายละเอียดต่อรัฐสภาว่าแผนปฏิรูปดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการเมื่อใดและอย่างไร
       
       ทั้งนี้ เมื่อปี 1991 อดีตนายกรัฐมนตรีมหาธีร์ บิน โมฮาหมัดแห่งมาเลเซีย ประกาศแผนแม่บทที่เรียกว่า “วิสัยทัศน์ 2020” ซึ่งมีเป้าหมายยกระดับมาเลเซียให้กลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี 2020
       
       อย่างไรก็ดี หลังจากที่นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคขึ้นครองอำนาจในปี 2009 เขาได้ประกาศว่า มาเลเซียซึ่งเป็นชาติที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ในกลุ่ม “อาเซียน” และมีเศรษฐกิจใหญ่เป็น “อันดับที่ 29 ของโลก” มีศักยภาพที่จะกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ได้ภายในปี 2018 หรือเร็วกว่าเป้าหมายเดิมถึง 2 ปี