“พาณิชย์” ดึงกูรูช่วยวางแผนลุยอาเซียน พร้อมดันโปรเจกต์แรกตั้ง “เออีซีซิตี้” รับการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยว

       “พาณิชย์” ตั้งกรรมการลุยเออีซี ดึงกูรูร่วมวางทิศทางบุกตลาดทั้งเชิงรุกเชิงรับ ประเดิมโปรเจกต์แรก ดันตั้งเออีซีซิตี้ รับการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวขยายตัว
       
       นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยมีตนเป็นประธาน กรรมการประกอบด้วยกรมต่างๆ ในกระทรวงพาณิชย์ และยังได้เชิญให้ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ด้านการค้า การลงทุน และด้านอื่นๆ เข้ามาร่วมเป็นกรรมการ เพื่อช่วยกันกำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางของประเทศไทยในการใช้ประโยชน์จากเออีซีทั้งเชิงรุก เชิงรับ ซึ่งแผนที่จะกำหนดขึ้นจะเป็นการลงลึกในรายละเอียด เป็นขั้นที่นำไปปฏิบัติได้จริง ไม่ใช่เป็นแค่ทฤษฎี เพราะต้องทำให้ผู้ประกอบการไทย รวมถึงหน่วยงานของกระทรวงฯ มีความพร้อมมากที่สุด
       
       “กรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่ในการวางยุทธศาสตร์เกี่ยวกับเออีซี ไทยจะไปทางไหน ผู้ประกอบการจะใช้ประโยชน์ตรงไหนได้บ้าง จะเป็นขั้นแอดวานซ์ ลงลึกไปเลย แล้วการไปสู่เป้าหมายนั้นๆ ใครเกี่ยวข้องตรงไหน ใครต้องทำอะไร จะมีแผนการทำงานออกมาทั้งหมด โดยเฉพาะกรมที่อยู่ในสังกัดกระทรวงจะต้องมีแผนการทำงานที่ชัดเจนทุกกรม และต้องประสานกันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ”
       
       นางศรีรัตน์กล่าวว่า โครงการเร่งด่วนที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ก็คือ การจัดตั้งเออีซี ซิตี้ ในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยพิจารณาจังหวัดที่มีความพร้อม และขยายไปยังจังหวัดที่มีความพร้อมรองลงมา ซึ่งจังหวัดที่เป็นด่านการค้าในปัจจุบันจะเร่งผลักดันให้เป็นเออีซีซิตี้ก่อนเพราะมีความพร้อมอยู่แล้ว โดยแผนการทำเออีซีซิตี้จะพัฒนาให้จังหวัดนั้นๆ เป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และจะพัฒนาในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยว โดยดูว่าในจังหวัดนั้นๆ มีพื้นที่ใดบ้างที่จะสามารถพัฒนาให้เกิดเป็นย่านการค้า เพราะหากมีย่านการค้า ไม่เพียงแค่ส่งเสริมในเรื่องการท่องเที่ยว แต่ยังช่วยในด้านการค้าขายในระดับจังหวัดด้วย
       
       ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการ จะมีแผนการช่วยพัฒนาผู้ประกอบการในส่วนภูมิภาคให้มีความเข้มแข็งในการทำการค้า การลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะนักธุรกิจในภูมิภาค ไม่ใช่ไม่เก่ง ไม่ใช่ไม่มีความรู้ แต่กระทรวงฯ จะเข้าไปช่วยพัฒนาและชี้แนะช่องทางให้มากขึ้น ในฐานะที่เป็นแหล่งข้อมูล รู้ว่าอะไร ตรงไหน ควรจะเข้าไปทำประโยชน์
       
       “ปัจจุบันเราทำการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็เป็นในเรื่องการส่งออก นำเข้า ต่อไป ต้องมองไปถึงว่าธุรกิจบริการอะไรของไทยที่จะเข้าไปหาเงินในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ใช่จำกัดอยู่แค่ภายในประเทศ อย่างธุรกิจบริการออกแบบ ตกแต่งภายใน การก่อสร้าง อู่ซ่อมรถ ต้องออกไป เพราะมีโอกาสมาก และเป็นส่วนที่ผู้ประกอบการไทยเข้มแข็ง” นางศรีรัตน์กล่าว
       
       นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะผลักดันให้เกิดเออีซีเทรดเดอร์ เพื่อทำหน้าที่ซื้อขายสินค้าไทยกับประเทศในเออีซี ซึ่งจะผลักดันให้มีมากขึ้น รวมทั้งจะผลักดันให้ผู้ประกอบการในส่วนภูมิภาคใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) เป็นช่องทางในการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศต่างๆ จะมายึดติดกับการทำการค้าในรูปแบบเดิมๆ ไม่ได้ ผู้ประกอบการจะต้องตามการเปลี่ยนแปลงของโลกให้ทัน ซึ่งกระทรวงฯ มีแผนที่จะเข้าไปให้การอบรมในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง
       
       นางศรีรัตน์กล่าวว่า กระทรวงฯ มีแผนที่จะโมเดิร์นไนน์พาณิชย์ โดยปรับรูปแบบการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ในกระทรวงฯ ให้มีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพราะการทำงาน หากต่างคนต่างทำก็จะทำให้ไทยแข่งขันในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ยาก และเมื่อมีการปรับปรุงแล้วก็จะทำการเชื่อมการทำงานออกไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนต่อไป
       
       สำหรับการพัฒนากำลังคน ขณะนี้โรงเรียนนักการค้าได้เป็นรูปเป็นร่างแล้ว จะมีการกำหนดให้ข้าราชการของกระทรวงพาณิชย์ที่จะไปเป็นผู้บริหาร จะต้องผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรที่จัดทำขึ้นก่อน เพื่อให้รอบรู้ทุกด้าน ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่บุคลากร